วันพฤหัสบดี, มีนาคม 15, 2561

รายชื่อ กปปส. ชุด 2 (14 คน) ที่ถูกส่งฟ้อง ข้อหากบฏ 'พุทธะอิสระ' โดนด้วย จากการร่วมชุมนุมกับ กปปส. และพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง





ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
(http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/795614)


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มี.ค. 61 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง

1.  น.ส. อัญชะลี ไพรีรัก อายุ 52 ปี อดีตพิธีกรเวทีการชุมนุม กปปส. , 

2.  พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อายุ 81 ปี, 

3.  นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 68 ปี อดีตแกนนำ พธม. , 

4.  นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ อายุ 46 ปี นักวิชาการนิติศาสตร์ , 

5.  นายถนอม อ่อนเกตุพล อายุ 49 ปี , 

6.  นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 72 ปี อดีตแกนนำ พธม. , 

7.  พระพุทธอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 58 ปี เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และอดีตแกนนำ กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ, 

8.  นายสาธิต เซกัลป์ หรือเซกัลป์ (Satish Sehgal) นักธุรกิจเชื้อสายไทยอิเดีย อายุ 72 ปี, 

9.  น.ส. รังสิมา รอดรัศมี อายุ 55 ปี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราว พรรคประชาธิปัตย์ , 

10.  พล.อ.ท.วัชระ ฤธาคนี อายุ 70 ปี อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ , 

11.  พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อายุ 74 ปี อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ , 

12.  นายแก้วสรร อติโพธิ อายุ 66 ปี นักวิชาการอิสระ , 

13.  นายไพบูลย์ นิติตะวัน อายุ 63 ปี ผู้ก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป และ

14.  นายถวิล เปลี่ยนศรี อายุ 64 ปี อดีตเลขาธิการสภาความั่นคงแห่งชาติ (สมช.) 

เป็นจำเลยที่ 1-14 จากการร่วมชุมนุมกับ กปปส. ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิการ กปปส.และผู้นำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 - 1 พ.ค. 57 และพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง

ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ , สนับสนุนและร่วมกันสนับสนุนในความผิดกบฏ , ยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน ร่วมกันปิดงานงดจ้าง , กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดฯ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้ายฯ , อั้งยี่ , ซ่องโจร , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ โดยมีอาวุธ หรือเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ , เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแล้วไม่เลิก , บุกรุก โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปหรือในเวลากลางคืน และร่วมกันกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อไม่ให้ผู้เลือกตั้งสามารถใช้สิทธิได้ หรือขัดขวางไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ฯ และทำให้เสียทรัพย์ รวม 8 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 209, 210, 215, 216, 362, 364, 365, พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76, 152 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 86, 91 โดยท้ายฟ้อง อัยการโจทก์ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยทั้ง 14 คน มีกำหนด 5 ปีด้วย และให้นับโทษของ น.ส.อัญชะลี จำเลยที่ 1 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำ อ.973/2556 (คดี พธม.บุกสนามบิน ปี 2551) และ อ.275/2556 ( คดีชุมนุมที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน) ของศาลอาญา รวมทั้งให้นับโทษของสมเกียรติ จำเลยที่ 3 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำ อ.973/2556 ของศาลอาญาด้วย และนับโทษของนายสมศักดิ์ จำเลยที่ 6 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำ อ.4925/2555 (คดีบุกเข้าทำเนียบกดดันรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ปี 2551), อ.4924/2555 (คดีปิดล้อมอาคารรัฐสภา ปี 2551) และ อ.973/2556 ของศาลอาญา กับคดีอาญาหมายเลขดำ อ.1418/2557 ของศาล จ.ชัยภูมิอีกด้วย


ทั้งศาลได้ประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.832/2561


ต่อมา

ศาลให้ประกันตัว 14 แกนนำ กปปส. หลังยื่นคนละ 6 แสน อัยการฟ้อง 8 ข้อหาร่วม "สุเทพ" กบฏ-ปิดสถานที่ราชการ ขวางเลือกตั้ง ร้องลงโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งด้วย 5 ปี ศาลนัดตรวจหลักฐาน 19 พ.ค.นี้

(http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/795614)

ooo

ศาลให้ประกันตัว 14 แกนนำ กปปส. นิวหมายข่าว NEW18 14มี.ค.2561 HD



https://www.youtube.com/watch?v=5X2tMDH6PjY&feature=youtu.be

เทปบันทึก รายการ นิวหมายข่าว l ช่วงที่ 2 l ทางช่อง นิว18
วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 เวลา 18:20 - 20:00 น. 
ดำเนินรายการโดย อัญชะลี ไพรีรัก และ สันติสุข มะโรงศรี
ประเด็น "ศาลให้ประกันตัว 14 แกนนำ กปปส."

ooo

ชุดแรกที่ถูกฟ้องแล้ว...

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องแกนนำ กปปส. กรณีการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานคร เพื่อขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2556-2557 ต่อศาลอาญา 9 คน คือ 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, 
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, 
นายชุมพล จุลใส, 
นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์, 
นายอิสระ สมชัย, 
นายวิทยา แก้วภราดัย, 
นายถาวร เสนเนียม, 
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, 
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 

ในข้อหาฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดฯ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ฯ , ฐานสนับสนุนการกบฏ และเป็นผู้สนับสนุนยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน ร่วมกันปิดงานงดจ้าง, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ผู้กระทำคนหนึ่งคนใดมีอาวุธเป็นหัวหน้าหรือ ผู้มีหน้าที่สั่งการ , เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแล้วไม่เลิก, ร่วมกันบุกรุก โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญฯ โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในเวลากลางคืน และร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง และร่วมกันกระทำการโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อไม่ให้ผู้เลือกตั้งสามารถใช้สิทธิ หรือขัดขวางหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้งหรือเข้าไป ณ ที่ลงคะแนนเลือกตั้ง

นอกจากนี้ อัยการสูงสุดยังได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มแก่จำเลยที่ 1 คือนายสุเทพ และจำเลยที่ 3 คือ นายชุมพล ในข้อหาร่วมกันก่อการร้ายด้วย ในคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 58 คน อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง 1 คน คือ นายพิจารณ์ สุขภารังษี และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไม่ส่งสำนวนมาให้อัยการ 3 คน และมีการแยกสำนวน เนื่องจากข้อหาไม่เกี่ยวข้องกัน 7 คน ทั้งนี้มีการยื่นฟ้องไปก่อนหน้านี้ 4 คน คือ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ นายสกลธี ภัททิยกุล นายเสรี วงษ์มณฑา และนายสนธิญาณ ชื่อฤทัยในธรรม ส่วนที่เหลืออีก 34 คน มีการยื่นคำร้องขอเลื่อนการสั่งฟ้องทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ต้องหาสามารถดำเนินการได้ โดยคณะทำงานจะมีการพิจารณาถึงเหตุผล ว่ามีความสมเหตุสมผลในการขอเลื่อนการสั่งฟ้องหรือไม่ แต่หากผู้ต้องหาทั้ง 34 คน จะเดินทางมาในช่วงบ่าย ก็สามารถทำได้

ทั้งนี้หลังอัยการมีคำสั่งฟ้อง 9 แกนนำ กปปส. นายสุเทพ พร้อมพวก เดินออกจากสำนักงานอัยการสูงสุด มาที่ศาลอาญาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่ทนายความเตรียมหลักทรัพย์เป็นวงเงินประกันคนละ 6 แสนบาท

ที่มา โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/politic/news/537055