วันศุกร์, พฤศจิกายน 10, 2560

คนไทยในประเทศกำลังเคว้งคว้างขาดวีรบุรุษอยู่พอดี พี่ตูนมาบอดี้สแลมได้จังหวะชาวกรุงกำลังคลั่งฟิตเนส เลยได้เป็นวีรบุรุษสมใจ

เข้าวันที่ ๙ อั้นไม่ไหว ถ้าไม่ได้แตะไหล่เซลฟี่ พี่ตูนกับเขาบ้าง

วันนี้ (๑๐ พฤศจิกา) พี่ตูน บอดี้สแลม-อาทิวราห์ คงมาลัย วีรบุรุษไทยคนใหม่หยุดวิ่งหนึ่งวัน ก่อนจะเข้าสู่เมืองคอน (นครศรีธรรมราช) พรุ่งนี้รับเช็คใบใหญ่อีก ๑๖ ล้านจากนายห้างจิมมี่ ชวาลา หลังจากที่ยอดบริจาคทั้งสิ้น ณ เวลา ๗.๓๓ น. อยู่ที่ ๑๕๖.๗ ล้านบาท

ข่าวว่าพี่ตูนวิ่ง ก้าวคนละก้าว ไปถึงไหน ไม่ใช่รับ (บริจาค) อย่างเดียว มีให้ด้วย อย่างวันนี้จะ “แวะมอบทุนส่วนตัว ๕ หมื่นบาท ให้โรงเรียนวัดปากระวะ ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และมอบทุนการศึกษาให้นักเรียน ๒ คน ทุนละ ๑ หมื่นบาท พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนด้วย”

มิหนำซ้ำการ ทำดี ของพี่ตูนก่อกระแส ซื่อสัตย์ในหมู่ธุรกิจสกรีนเสื้อ “ผู้ประกอบการได้แจ้งว่ามีผู้ว่าจ้างให้ทำเสื้อเลียนแบบเสื้อก้าวคนละก้าวออกจำหน่าย โดยมียอดสั่งแล้ว ๔ หมื่นตัว ก่อนเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

จนมีการประกาศจุดยืนจากผู้ประกอบการว่าจะไม่รับผลิต และขอให้ทุกคนไม่อุดหนุนสินค้าปลอม” เพจเจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามันเป็นผู้เปิดโปงเรื่องนี้


มิใย คุณธรรม-ความดีอย่างพี่ตูนจะลอยฟ่องขนาดไหน ในยุค คสช. นี่นะ สังคมไทยก็ยังหนีไม่พ้น ดราม่า โหนกระแส และนำไปใช้ห้ำหั่นกัน

ศจ. ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มธ. โดนจัดหนักด้วยวาทกรรมปลอมแปลง โดยผู้ใช้นาม อธิภัทร์ News Thailand’ ลงข้อความทางเฟชบุ๊คว่า “อย่าว่าแต่สิบบาทเลย พี่ตูนจะไม่ได้เงินจากผมแม้แต่บาทเดียว”

แล้วเพจไอโอของ ‘Army Worldwide News’ เอาไปขยายผลแชร์กันในเครือข่ายสลิ่ม นัยว่าถึง ๓ แสนราย เจ้าตัวอยู่ระหว่างพาทัวร์นักศึกษาชมประวัติศาสตร์ยุโรปตะวันออก ก็ต้องใช้เฟชบุ๊คเป็นเครื่องมือตอบ

“เรื่องจริงหรืออิงนิยาย...ใครจะพูดก็ตาม ผมไม่ได้พูด ไม่ได้เขียนครับ”
 
เป็นผลให้อธิภัทร์ปิดเพจหนี แต่ว่า อาร์มี่แข็งจริง ยังคงเผยแพร่ข้อความเท็จต่อไป ไม่สะทกสะท้าน ร้อนถึงลูกศิษย์ลูกหา อจ.ชาญวิทย์มี่ มธ. อัครพงษ์ ค่ำคูณ ต้องเข้าแจ้งความตำรวจ โดยมีสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการชื่อดังประกาศหนุน

อย่างไรก็ดี อจ.พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณะบดีนิติศาสตร์ มธ. แนะว่าการแจ้งความโดยไม่ใช่ผู้เสียหายเองทำได้เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น ส่วนการฟ้องร้องหมิ่นประมาทหรือไม่ เจ้าตัวเคยเขียนไว้ก่อนหน้า “พ่อเชิง แก่นแก้ว เคยบอกไว้ที่บ้านโป่งนานแล้วว่า เป็นความ กินขี้หมา ดีกว่า


นั่นเป็นมิติแห่งความเป็น คนดี-วีรบุรุษของพี่ตูน ถูกนำไป ทำชั่วเพราะ อาร์มี่ เวิร์ลด์ไวด์ นิวส์เอาแต่พ่น ‘faked news’

ยังมีมิติในความเป็นจริงของเนื้อหาประเด็น โรงพยาบาลรัฐขาดเครื่องมือแพทย์ บ้านนี้เมืองนี้ยุคที่ทหารครองเมือง มีแต่คนดี พูดเก่ง (สมัยหนึ่ง ดีแต่พูด สมัยนี้ ดีแต่พล่าม) ไม่มีใครทำได้ พี่ตูนก็เลยกลายเป็นฮีโร่วิ่งใต้จรดเหนือหาเงิน ๗๐๐ ล้านช่วยโรงพยาบาล

 แต่ “ต่อให้เรามีตูน บอดี้สแลมมากกว่าหนึ่งคน และก้าววิ่งอีกหลายพันกิโลเมตร เงินบริจาคที่ได้จะเพียงแค่ผ่อนผันปัญหาเฉพาะหน้าออกไป ระบบสุขภาพใหญ่โตเกินกว่าใครคนหนึ่งจะแบกไว้บนบ่าตามลำพัง” สุรีรัตน์ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ให้ข้อคิดไว้ที่ ประชาไท


ด้านแพทย์หญิงอรพรรณ์ เมธาดิลกกุล กรรมการแพทยสภา แกนนำกลุ่มพลังแพทย์ ก็มีความเห็นเช่นกันว่า “การวิ่งระดมทุนแบบนี้ มันสะท้อนให้เห็นระบบการเงินมันเน่าเฟะ เปรียบเหมือนกับ กองขยะ กองโต

เธอตอบคำถามในรายการเจาะลึกทั่วไทยของช่องเวิร์คพ้อยต์ประเด็น เกิดดราม่าได้ไง ตูนวิ่ง ๗๐๐ ล้านว่า “ใช่ไหม เราขาดแคลนจริงหรือเปล่า...แล้วมันก่อให้เกิดผลเสียหายต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน...

แล้วใครล่ะมีหน้าที่ ที่ต้องแก้ มันคงไม่ใช่หน้าที่คุณตูนแน่นอน”

เรื่องของเรื่องนั้นสาธารณะสุขมีปัญหามานานแล้วขาดแคลนหมดทั้งคน เงินและเครื่องมือในทุกระดับ รัฐบาลนี้ทำเฉยมาตั้งแต่ปี ๕๗ ไม่มีนโยบายแน่นอน จนกระทั่งนายกฯ ให้งบประมาณลงมาเมื่อเร็วๆนี้ ๕ พันล้าน แต่ไม่รู้ว่าแก้ปัญหาไหม “ถ้าแก้ปัญหาดีคุณตูนก็ไม่ต้องมาวิ่ง”

ที่จริงแล้วเงินงบประมาณสาธารณะสุขแต่ละปีก็ไม่น้อย ๒ แสนกว่าล้าน สงสัยว่าบริหารไม่เป็นหรือเกิดรั่วไหล...ทางด้านนโยบายต้องตัดสินใจแล้ว มันต้องสง่างามกว่านี้ในการแก้ปัญหาประชาชนอย่างมีคุณภาพ  ก็ต้องใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ”

ขณะที่เพจ truststoreonline.com ระบุ “คนขายเครื่องมือแพทย์ชี้ ปัญหาเกิดจากแพทย์ทุจริต จัดซื้อ-ล้อคสเป็ค ในวงการเอง งบไม่ได้ขาดแคลน”


แล้วไฉนจึงดราม่ากันนักหนา อจ.กานดา นาคน้อย ดูเหมือนจะมีคำตอบ หลังจากที่เสนอแนะไว้ก่อนหน้านี้หลายวัน “ถ้านายพล ๑,๔๐๐ คนให้พี่ตูนคนละ ๕ แสนบาท พี่ตูนก็จะได้ ๗๐๐ ล้าน”

เธอวิเคราะห์อีกเมื่อวันก่อนทางทวิตเตอร์ว่า “การระดมทุนด้วยการบริจาคเหมาะกับปัญหาชั่วคราว เช่น ภัยพิบัติชั่วคราว ไม่แก้ปัญหาโครงสร้างแต่ก็โดนจริตคนดีเพราะมีวีรบุรุษให้โหน #แดนลิเก

ท้ายที่สุด “การปั้นวีรบุรุษเป็นกลไกการปฏิเสธความจริงในสังคมที่สิ้นหวัง #แดนลิเก” (@kandainthai)
น่าจะจริง ฤๅว่าคนไทยในประเทศกำลังเคว้งคว้างขาดวีรบุรุษอยู่พอดี อัศวินขี่รถถังกลายเป็นจำอวดหนังใหญ่ นารีขี่ม้าขาวก็หนีหายไร้ร่องลอย พี่ตูนมาบอดี้สแลมได้จังหวะชาวกรุงกำลังคลั่งฟิตเนส เลยได้เป็นวีรบุรุษสมใจ พรรคทรงกลดว่าไง ทาบกิ่งหรือยัง