กองทัพไทยแถลง!! ยอมรับเอาสมอง-หัวใจ-กระเพาะอาหาร “น้องเมย” ไปแช่แข็งเก็บไว้!? (มีคลิป)
โดย Penpraden
จากกรณี น้องเมย หรือ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตหลังกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เพียง 1 วัน โดยไม่ได้รับการชี้แจงใดๆ จากทางโรงเรียนเตรียมทหาร ได้รับเพียงใบใบมรณบัตรชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตว่ามาจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ครอบครัวออกมาร้องเรียนสงสัยการตายผิดปกติ
เนื่องจากให้แพทย์ผ่าชันสูตรพบว่าอวัยวะภายในทั้งตับ ไต ไส้ พุง หายไปทั้งหมด ส่วนกะโหลกศีรษะมีกระดาษทิชชูยัดไว้ สมองหายไป นอกจากนี้ยังตรวจพบกระดูกซี่โครงหัก 4 ซี่ และมีรอยช้ำภายในช่องท้องด้านขวา ด้านหลังภายในซีกซ้ายมีรอยช้ำ ไหปลาร้าหักทั้ง 2 ข้าง ซึ่งแพทย์ระบุว่า สาเหตุซี่โครงหักไม่น่าเกิดจากการปั๊มหัวใจ และรอยช้ำน่าจะเกิดจากการถูกกระแทกอย่างแรง ทำให้ข้องใจถึงสาเหตุการตาย
ล่าสุด วันที่ 21 พ.ย. 2560 มีรายงานว่า กองทัพไทย ได้แถลงข่าวกรณี นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยแพทย์ซึ่งผ่าชันสูตร กล่าวว่า จากการตรวจภายนอกไม่พบว่ามีบาดแผลจึงทำการผ่าเปิดภายใน ก็พบว่ามีกระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 ข้างขวาหัก มีรอยช้ำของกล้ามเนื้อหน้าอกข้างขวา ซึ่งอาจเป็นผลจากการทำ CPR หน้าอกมีรอยช้ำ แต่ไม่ใช่เป็นสาเหตุการตายและไม่พบการถูกทำร้ายเสียชีวิต
ทั้งนี้ จากบาดแผลดังกล่าว ไม่ตอบโจทย์ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เสียชีวิตได้อย่างไร จึงจำเป็นต้องตรวจทางกล้องจุลทรรศน์เพิ่มเติม ทางทีมแพทย์จึงต้องเก็บอวัยวะ ซึ่งโดยปกติการเก็บอวัยวะจะสุ่มเก็บในขนาดเท่ากับหัวแม่มือหรือครึ่งหนึ่งของอวัยวะ แต่ในกรณีที่เสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติและไม่ทราบสาเหตุ ทางการแพทย์มักเก็บสมองและหัวใจทั้งอวัยวะ ซึ่งในทางกายภาพสมองจะนิ่ม ซึ่งหากทำไม่ดีอาจจะเละ จึงต้องฉีดฟอร์มาลีนให้แข็งและป้องกันการเน่าเสีย เพื่อทำการชันสูตร
ส่วนผลการตรวจทางพิษวิทยา มีผล 3 ทางคือ ทางเลือด, ทางกระเพาะ และทางปัสสาวะ ซึ่งได้เก็บเลือดที่รพ.รามาธิบดี ส่วนกระเพาะปัสสาวะขณะนั้นไม่มีปัสสาวะจึงได้คืนไป และเนื่องด้วยกระเพาะปัสสาวะมีขนาดเล็กมากจึงอาจจะสังเกตได้ยาก ส่วนกระเพาะอาหารนั้นมีการเก็บไว้จริงเพื่อตรวจดูเศษอาหารและสารพิษ หลังเปิดกระเพาะอาหารแล้วไม่พบอะไรจึงเย็บคืนและฉีดฟอร์มาลีนไว้
ดังนั้น อวัยวะที่ทางสถาบันพยาธิได้เก็บไว้จึงประกอบด้วยหัวใจ สมอง และกระเพาะอาหารทั้งอัน รวมถึงสุ่มตัวอย่างอวัยวะไว้เพื่อทำสไลด์ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้ ได้ส่งรายงานชันสูตรให้พนักงานสอบสวนไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ ผลการชันสูตรน่าจะโน้มเอียงไปหาอาการทางหัวใจ คือ หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่วนอวัยวะที่เหลือพร้อมคืนให้ญาติต่อไป
ทั้งนี้ในการแถลงข่าวดังกล่าว ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหารยืนยัน การเสียชีวิตไม่เกี่ยวกับการซ่อม (ทำโทษ) ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
ด้าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า แพทย์ได้นำหัวใจและปอดของนักเรียนเตรียมทหารไปตรวจพบว่าเสียชีวิตฉับพลัน ส่วนข้อเท็จจริงที่ญาติร้องเรียนขอให้สอบถามกับโรงพยาบาลที่กำลังตรวจสอบ พร้อมระบุได้รับการชี้แจงจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดว่าการเสียชีวิตไม่ได้มาจากการถูกทำโทษ และที่บอกว่าซี่โครงหักก็ไม่เป็นความจริง ส่วนที่ญาติยังติดใจก็ขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะเรื่องเช่นนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น