เรื่องของ ‘ผม’ ไม่ใช่ ‘คุณ’ สุดสัปดาห์นี้มีรูป
‘ทหารหญิง’ แห่งไตแลนเดียเอ่อปริ่มเน็ต
นัยว่าเป็นตัวอย่างของทรงผมใหม่ ‘เกรียน’ ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวองค์ที่ ๑๐ กรุงรัตนโกสินทร์
ตามสันนิษฐานของ Somsak Jeamteerasakul นักประวัติศาสตร์ลี้ภัยในฝรั่งเศส ว่าน่าจะมาจากพระราชปรารภว่า
ถ้าทหารทั้งหมดในกองทัพไทย (โดยไม่ระบุเพศ) ตัดผมทรง ‘พระราชนิยม’ แบบทหารราชวัลลภในพระองค์
คือด้านข้างเกรียนขาว ส่วนบนยาวเพียง ๒ ถึง ๓ เซ็นติเมตร
“ก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยดี”
จึงปรากฏมีคำสั่ง ‘ด่วนที่สุด’ ของหน่วยราชการด้านกำลังพลหลายแห่ง
ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรวมถึงสำนักพระราชวัง
ให้กวดขันการแต่งกายของเจ้าหน้าที่เวรประจำพระองค์ ทั้งเรื่องป้ายชื่อและ ‘ทรงผม’
โดยเฉพาะเกี่ยวกับทรงผมนั้น บ้างระบุเพียง ‘ทรงผมตามพระราชนิยม’ โดยให้ “เทียบเคียงกับกำลังพลของ
นถปภ. รอ. หรือ ฉก.๙๐๔ พล.๑ รอ.” (จาก กพ.ทบ.) บ้างบอกให้
“ตัดผมสั้นให้เรียบร้อย...ที่แสดงออกถึงความเป็นผู้มีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด”
(ของ สตช.)
สำหรับกองทัพอากาศนั้นลงรายละเอียดเล็กน้อยเช่นเดียวกับ
บก.ทท. ว่า “กำลังพลชาย ตัดผมข้างขาว ความยาวด้านบน ๒-๓ ซม.”
แต่ก็ยังไม่เท่าสำนักพระราชวัง ที่กำหนดรายละเอียดเรื่องรองเท้าด้วยว่า “ชาย
ร้องเท้าฮ้าร์ฟสีดำหุ้มข้อ...หญิง รองเท้าคัตชู รองเท้าฮ้าร์ฟต่ำสีดำ”
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแทบจะทุกหน่วยถือปฏิบัติตามพระราชปรารภ
ไม่เพียง ‘เจ้าหน้าที่เวรประจำพระองค์’ จึงนับว่าเป็นการปฏิบัติตามพระราชวิเทโศบายในรัชกาลปัจจุบันอย่างมิเคยมาก่อน
ในการลงรายละเอียด
หรือที่ในการบริหารงานสาธารณะของประเทศตะวันตกมักเรียกวีธีการเช่นนี้ว่า ‘micromanagement’
นั่นเป็นต้นตอของการนำรูปทหารหญิงราชวัลลภที่ตัดผมสั้นเกรียนอย่างกำลังพลชายมาแชร์กันทั่วสื่อสังคมขณะนี้
นอกเหนือไปจากที่เป็นข่าวในสื่อกระแสหลัก เช่นรายงานของ นสพ. ‘ข่าวสด’ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน แจ้งว่า
“พล.ต.อ.จักรทิพย์
ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงแจ้งกำชับตำรวจฝ่ายปฏิบัติการพื้นที่ทุกนาย
ต้องแต่งกายและตัดผมสั้นให้เรียบร้อย
...และให้นำไปเพิ่มเติมเป็นหัวข้อประเมินผลการปฏิบัติราชการประจำปี
รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการควบคุมและเสริมสร้าง
ความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจอีกส่วนหนึ่งด้วย”
ยังมีประเด็นที่ สศจ.
ยกขึ้นมาจากการที่หน่วยราชการอันเกี่ยวข้องกับกิจการในพระองค์มีระเบียบปฏิบัติใหม่ๆ “พระราชทาน” ในรัชสมัยนี้ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน
รวมทั้งท่าวันทยาหัตถ์ ที่ ‘วาสนา นาน่วม’ เรียกว่า “ยกอก อึ๊บ”
ว่าจะมีการนำเอาพระราชปรารภไปประกาศบังคับใช้อย่างเต็มที่
แม้เจ้าหน้าที่หญิงก็จะต้องตัดผมสั้นเกรียนอย่างราชวัลลภด้วยหรือไม่
สศจ. ยกเอาเหตุบางอย่างว่ามีอดีตนักศึกษาหญิงที่เคยเป็นลูกศิษย์ลูกหาบางคน
ซึ่งทำงานในสังกัดสำนักพระราชวังและสำนักองคมนตรี ที่ไม่ใช่งานรับผิดชอบทางทหารหรือกำลังพล
หวาดหวั่นว่าตนจะต้องตัดผมสั้นด้วยหรือไม่
พอดีกับที่นักวิจารณ์การเมืองชาวอเมริกันเลือดไทย
“เห็นข่าวเรื่องการตัดผมออกมา flood อยู่บนหน้า News feed ก็เลย” กระโดดเข้ามาร่วมวงสนทนาสาธารณะด้วย อ้างว่า
“จะได้ไม่ตก Trends..” โดยนำ “เรื่องทรงผมของประเทศที่ท่านผู้นำคิมบริหารกิจการอยู่” มาเล่าไว้
น่าสนใจอยู่
ดร.ดวงจำปา สเป็นเซอร์ ไอเซ็นเบิร์ก (กุ้ง)
ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ นำภาพแบบทรงผมที่รัฐบาลเกาหลีเหนือกำหนดให้ประชาชนทั้งชายและหญิงเลือกตัดอย่างใดอย่างหนึ่ง
ห้ามผิดแผกไปจากแบบเหล่านั้น มาลงให้ชมกันทางเว็บไซ้ท์ ‘ไมนด์’
เธอว่าในสมัยของคิม จอง อิล
ผู้เป็นพ่อของผู้นำสูงสุดคนปัจจุบัน เพศชายมีทรงผมให้เลือก ๑๐ แบบ หญิง ๑๘ แบบ
โดยหญิงที่แต่งงานแล้วสามารถเลือกแบบที่วิลิศมาหราได้มากกว่าสาวโสด ส่วนชายถ้ายังหนุ่มให้ผมยาวไม่เกิน
๕ ซม. แก่หน่อยเพิ่มอีก ๒ ซม. เป็น ๗ ซม. ข้อสำคัญต้องตัดผมทุก ๑๕ วัน
พอมาถึงสมัยของคิม จอง อุน ผู้ที่ถูกประธานาธิบดีทรั้มพ์บริภาษณ์ทางทวิตเตอร์ว่า
“อ้วนและเตี้ย” นั้น เขาปรับเปลี่ยนระเบียบเล็กน้อย มีลดตัวเลือกทรงผมฝ่ายหญิงไปเพิ่มให้ฝ่ายชาย
เป็นข้างละ ๑๕ แบบเท่ากัน
โดยมีการออกแบบทรงผมใหม่หลายแบบไม่เหมือนกันกับสมัยของพ่อ
ก็น่าจะเป็นธรรมดาของผู้สืบทอดตระกูล
(และอำนาจ) คนใหม่ย่อมอยากเปลี่ยนแปลงแก้ไขของเก่าบ้างไม่มากก็น้อย
ดูอย่างประธานาธิบดีทรั้มพ์ของสหรัฐ
ยังพยายามจะยกเลิกนโยบายและผลงานต่างๆ ที่ประธานาธิบดีโอบาม่าทำไว้เกือบจะทุกอย่าง
ได้บ้างไม่ได้บ้างขอให้ได้รื้อทิ้งของเก่าเสียก่อนก็แล้วกัน แม้นว่าของใหม่จะ ‘ห่วยแตก’ กว่าเก่าก็ตาม