มันไม่ง่ายอย่างนั้นละนะ
แค่ประกาศว่าสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ แล้วจะทำให้รัฐบาล คสช.
พ้นมลทินเรื่องใช้อำนาจกดขี่ละเมิดสิทธิประชาชนไปได้
อย่างที่ อจ.โสรัจจ์ หงส์ลดารมภ์ ว่าไว้ ต้องให้
OHCHR องค์กรสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติเข้ามาตรวจการกระทำของตัวเองเสียก่อนว่าผ่านไหม
เท่าที่ผ่านมากว่าสามปีมีแต่องค์กรสิทธิหลายแห่งเตือนแล้วเตือนอีกว่าลุกล้ำปฏิญญาสากลสิทธิมนุษยชนหลายหนแล้ว
ถ้อยคำเก๋ไก๋สวยหรู “๔ สร้าง + ๓ ปรับปรุง
+ ๒ ขับเคลื่อน + ๑ ลด = Goal”
ไม่ทำให้ภาพพจน์เผด็จการใช้อำนาจข่มเหงผู้เห็นต่าง และตุลาการวิบัติ หมดไปได้ง่ายๆ
กรณีนักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตปริศนา
แล้วมีคนใหญ่โตใน คสช. ทั้งรองหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงและ ผบ.ตร.
ออกมาแก้ตัวว่าเป็นเรื่องธรรมดา นี่น่าจะเป็นในบุรุนดา เยเมน
หรือเกาหลีเหนือเสียมากกว่า
นานาชาติอื่นๆ เขารู้เช่นเห็นแจ้งทั้งนั้น
รวมถึงการดำเนินคดีต่อ ไผ่ ดาวดิน หลายข้อหาหนักๆ ไม่ว่า ๑๑๒ ๑๑๖
หรือขัดคำสั่งคณะรัฐประหาร
แล้วคุมขังยาวไม่ยอมให้ประกันจนบางคดีระยะเวลาที่ติดคุกรอการพิจารณานั้นยาวกว่าโทษที่ควรได้รับหากถูกพิพากษามีความผิดตามฟ้องด้วยซ้ำ
“ศาลทหารได้ยกคำร้องขอให้สั่งปล่อยตัวไผ่จากคดีชูป้ายคัดค้านรัฐประหาร
แม้ทนายจำเลยแย้งว่าถูกขังจนครบอัตราโทษสูงสุดแล้ว
อาจไม่อยู่ในอำนาจกฎหมายหากยังไม่มีคำสั่งปล่อยตัว
รวมถึงอาจเป็นการจำกัดสิทธิของผู้ต้องขัง
โดยสรุป
ศาลชี้ว่าอยู่ในดุลพินิจของศาลในการพิจารณา
และถึงอย่างไรจำเลยก็ต้องจำคุกอยู่แล้วในคดี ๑๑๒”
“ความเห็นที่สองซึ่งตรงกับความเห็นของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
กล่าวคือ
ศาลไม่มีอำนาจที่จะขังจำเลยไว้ระหว่างพิจารณาคดีเกินกว่าโทษจำคุกสูงสุดตามกฎหมายได้
เนื่องจากจะเป็นการทำให้จำเลยซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้ที่ได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนโดยกฎหมายว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
ถูกปฏิบัติเหมือนผู้ถูกพิพากษาว่ากระทำความผิดแล้ว
และได้ยังรับการลงโทษจำคุกหนักกว่าโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระทำความผิดเสียอีก
อันเป็นการกระทบต่อสิทธิในกระบวนการยุติธรรมที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา
๒๙ ให้การคุ้มครองจำเลยในคดีอาญาไว้”
การใช้อำนาจเป็นอาญาสิทธิ์โดยไม่คำนึงถึงมาตรฐานสากล
ชนิดที่พวกตัวใหญ่ๆ ทั้งหลายนึกจะพูดโพล่งอย่างไรก็ได้ไม่ยับยั้งชั่งใจระวังปาก
ผิดพลาดแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง อย่างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พ่นออกมาทันควันเมื่อถูกถามถึงการตายของ
นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ ว่าอยากเข้าเตรียมทหารก็ต้องถูกซ่อมทั้งนั้น หรือบ่อยครั้งถ้าไม่มีใครกล้าท้วงกล้าเถียงก็ปล่อยเลยตามเลย
เช่นนี้ทำให้ความ ‘เสียของ’ ในการยึดอำนาจมาเกือบสี่ปีของ คสช.
ไปตกอยู่กับประชาชนและประเทศชาติ แม้นว่าพวก คสช. เองจะไม่ยอมรับก็ตาม
เรื่องเล็กน้อยไม่ควรพูดพล่อยชนิดหัวหน้า
คสช.ไปอวดเก่งกับนักเรียนว่าสามารถหางานให้ทำได้ง่าย แค่ประชาชนคนหนึ่งไม่ต้องถึงกับองค์กรนานาชาติก็แย้งได้
“ผมว่านายกฯ
น่าจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปนะครับ รบ.ก่อนอัตราการว่างงานเคลื่อนไหวในระดับ
0.5-0.9% และมีค่าเฉลี่ยที่ราวๆ 0.7%
แต่สมัย รบ.ทหาร
อัตราการว่างงานเคลื่อนไหวในกรอบ 0.8-1.2% โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1% สูงกว่า
รบ.ยิ่งลักษณ์ 0.3%” 'WiPa. @WiPa_ng' ย้อนให้
แม้นว่าระยะนี้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช.
จะพยายามสร้างภาพลักษณ์ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งที่ดัชนีต่างๆ
ยังไม่นิ่งตายตัวไปในทางนั้น
แต่การโกหกซ้ำซากก็อาจทำให้ผู้พูดเผลอตัวไปได้ว่านั่นคือความจริง
เช่น
ดัชนีความเชื่อมั่นการเติบโตทางอุตสาหกรรม
เมื่อเดือนที่แล้วก็ยังไม่อาจขยับให้เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมาย ตามที่ประธานสภาอุตสาหกรรมยอมรับเมื่อวานนี้
(๒๓ พ.ย.) ว่า “อยู่ที่ ๘๕.๙ ปรับตัวลดลงจาก
๘๖.๗ ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา” ขณะที่ดัชนีคาดการณ์อยู่ที่ระดับ
๑๐๐ ขึ้นไป
อีกทั้งปัญหาราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่องมาตลอดสามปีจนขณะนี้ปริ่มๆ
จะเหลือสามโลร้อย รัฐบาล คสช. กลับใช้วิธีการควบคุมตัวแกนนำชาวสวนยางไปปรับทัศนคติไม่ให้มีเสียงโวยวาย
ปะเหมาะเคราะห์ร้ายที่แกนนำเหล่านี้เคยเป็นพวกที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลที่แล้วนำร่องให้
คสช. เข้ายึดอำนาจ การณ์เลยกลายเป็นว่าจะทำให้เกิดเหตุ ‘น้ำผึ้งหยดเดียว’ ไม่บังควรไปเสียฉิบ
หรือการพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงขอบข่าย
พรบ.คอมพิวเตอร์ ว่าจะจัดการกับสื่อออนไลน์ ยกตัวอย่างรายการดนตรี ‘เดอะว้อยซ์’ แต่กลับไปแว้งกัด ‘ว้อยซ์ทีวี’ สำนักสื่อที่ตระกูลชินวัตรเป็นเจ้าของ
ทำให้ดูเหมือนว่า คสช. สร้างศัตรูกับทุกฝ่ายถ้าไม่ใช่ลิ่วล้อของตน
นั่นก็เป็นความเสื่อมทั้งทางจรรยาและสมรรถภาพในการบริหารบ้านเมืองหนักข้อยิ่งขึ้นทุกวัน
การออกคำสั่ง คสช. ฉบับใหม่ ที่ ๕๑/๒๕๖๐
ให้อำนาจ กอ.รมน. เข้าไปกำกับควบคุมงานบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติ นี่ก็แสดงชัดถึงเจตนาในการครองเมืองระยะยาวโดยคณะทหาร
ดูแต่ปัญหาน้ำท่วมปีนี้
ซึ่งวันนี้ถึงคราวภาคใต้ ‘อ่วม’ กันบ้าง ตั้งแต่หัวหินขึ้นมาถึงเพชรบุรีนี่แล้ว
ทั้งที่ปริมาณมิได้เทียบเท่ากับปี ๕๔ แต่ความเสียหายเดือดร้อนยิ่งกว่า เพราะการป้องกันแก้ไขไร้น้ำยา
กรรมของประชาชนคนไทย
ที่คนกลุ่มนี้กำลังร่างคัมภีร์ชื่อยุทธศาสตร์ชาติให้บ้านเมืองจะต้องอยู่ในสภาพล้มเหลวต่อไปอีก
๒๐ ปี