การเชื้อเชิญหัวหน้าพรรคไปร่วมแสดงความคิดเห็น เป็นเพียงพิธีกรรมที่เสียเวลา ผมจึงปฏิเสธไม่ไปร่วมตั้งแต่ต้น
แต่ผมมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาบังคับใช้กับผมในฐานะประชาชน ดังนี้
1. สมัชชาคุณธรรม สมัชชาพลเมือง สภาภาคพลเมือง ที่จะมาควบคุมตรวจสอบฝ่ายบริหาร รวมทั้งการเลือกตั้ง การทุจริตคอรัปชั่น คุณธรรมจริยธรรม และเป็นตัวแทนเลือก ส.ว.
ท่านแน่ใจหรือว่า บรรดาสารพันสภาชื่อแปลกๆเหล่านี้ จะทำหน้าที่ได้มากมาย เก่งกาจ โดยบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีพวกพ้องการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง?
ท่านใช้วิธี "อ้อมตั้ง" แล้วบอกว่าบริสุทธิ์กว่าวิธี "เลือกตั้ง" ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ทำให้เรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก เท่ากับประเทศไทยอีกแล้ว
2. ตอนเลือกตั้งให้กากบาทสามใบ คือ ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และลงมติถอดถอน โดยให้สมัชชาคุณธรรม สภาภาคพลเมืองที่ท่านว่า ร่วมกันไต่สวนจริยธรรมของนักการเมือง หากพบว่าผิดจริง ก็ส่งให้ กกต. ทำบัญชีไว้ ในการเลือกตั้งครั้งถัดไปก็ให้ประชาชนกากบาทลงมติว่าจะถอดถอนหรือไม่?
แต่ผมว่า "กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้" เพราะหากรัฐบาล นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีทำไม่ดีในปีแรก กว่าจะเลือกตั้งใหม่ก็สิ้นสมัยสี่ปี จนถึงตอนนั้นประเทศชาติเสียหายล่มจมไปถึงไหน? แถมเป็นการถอดถอนย้อนหลังเป็นเวลานานเกินไป ไม่ทันสถานการณ์
ทำไมไม่คิดให้ประชาชนลงมติถอดถอนหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจภายใน 90 วัน? ถึงจะเสียงบประมาณ ก็ยังดีกว่าเสียเงินเป็นแสนๆล้านจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาล
3. เรื่องนายกฯไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส. ท่านบอกว่า ไม่มีใครเอาปืนไปจ่อหัว ส.ส. ให้เลือกนายกฯคนนอกหรอก
แต่ผมว่า ผู้ที่จะเป็นนายกฯได้หากไม่มียศ ไม่มีบารมี ไม่มีทางได้เป็นอยู่แล้ว ในอดีต พล.อ.ชาติชาย มีจำนวน ส.ส. มากที่สุด ยังเกรงใจไม่กล้ารับตำแหน่ง ยกให้ พล.อ.เปรม เป็นนายกฯทั้งๆที่ไม่ได้เป็น ส.ส. จนกระทั่งแกเอ่ยปากว่า "พอแล้ว" พล.อ.ชาติชาย ถึงกล้ารับเป็นนายกฯ ส่วนบรรดา ส.ส. อยู่พรรคการเมืองไหนก็ต้องตามหัวหน้าพรรค
ประเทศไทย ไม่มีเงินก็ต้องมีปืน ถึงสั่งได้
อ.บวรศักดิ์ยกประเทศไทยไปเปรียบเทียบกับอีก 90 ประเทศ ว่ามีเพียง 27 ประเทศที่เขียนว่านายกฯต้องมาจาก ส.ส. โดยเฉพาะประเทศอังกฤษที่เป็นต้นแบบประชาธิปไตยก็ไม่ได้เขียนไว้ในกฎหมาย
ทำไมถึงกล้าไปเปรียบเทียบอย่างนั้นล่ะครับ? ในเมื่อ 90 ประเทศที่ว่า ไม่มีประเทศไหนทำรัฐประหารซ้ำๆนับครั้งไม่ถ้วนแบบประเทศไทย ล้มรัฐธรรมนูญฉบับแล้วฉบับเล่า ขนาดมีรัฐธรรมนูญมาแล้วยี่สิบกว่าฉบับยังหาช่องแหกกฎ มีพวกปิดสนามบิน ขวางการเลือกตั้ง ไม่ให้ประชาชนเข้าไปใช้สิทธิ์ใช้เสียง
หากจะเพิ่มอำนาจให้กับประชาชน ยกระดับเป็นพลเมืองอย่างที่ท่านย้ำ ให้เขาแค่มีอำนาจเลือกตัวแทนของเขาอย่างตรงไปตรงมา ตามสิทธิของพลเมืองเหมือนประเทศอื่นๆ ไม่ต้องไปมีสมัชาคุณธรรม สภาพลเมืองให้ยุ่งยากสลับซับซ้อน พูดจาวนเวียนให้มันมึนงง
เพราะอีกไม่นาน เดี๋ยวท่านก็ได้มานั่งเป็นประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้ง แล้วก็จะบอกว่า "ครั้งที่แล้วพลาดไป"
ท่านคงได้รับงานเป็นประธานร่างถึงฉบับ 30 จนกระทั่งสังขารไปไม่ไหว