BT Beartai แบไต๋
a day ago
·
การแข่งขันโอลิมปิก ถือเป็นมหกรรมสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้กับตัวนักกีฬาและชาติ ซึ่งเรื่องเงินรางวัล หรือการอัดฉีดเปรียบเสมือนโบนัสที่ตอบแทนความทุ่มเทของเหล่านักกีฬา ซึ่งประเทศไทยมีกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ที่ประกาศให้เงินรางวัลสูงสุด 12 ล้านบาทสำหรับเหรียญทอง และได้เตรียมเงินรางวัลอัดฉีดสำหรับนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันโอลิมปิก 2024 โดยมีเกณฑ์การให้รางวัลดังนี้
เงินอัดฉีดเหรียญทอง โอลิมปิก 2024 รับครั้งเดียว 10,000,000 บาท หรือรับ 12,000,000 บาท โดยรับ 50% ก่อน ส่วนที่เหลือแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี
เงินอัดฉีดเหรียญเงิน โอลิมปิก 2024 รับครั้งเดียว 6,000,000 บาท หรือรับ 7,200,000 บาท โดยรับ 50% ก่อน ส่วนที่เหลือแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี
เงินอัดฉีดเหรียญทองแดง โอลิมปิก 2024 รับครั้งเดียว 4,000,000 บาท หรือรับ 4,800,000 บาท โดยรับ 50% ก่อน ส่วนที่เหลือแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี
ส่วนนักกีฬาประเภททีมที่ได้เหรียญ ผู้เล่นทุกคนจะได้เงินรางวัลแยกกันคนละก้อนไปเลย ไม่ต้องเอาเงินมาหารกัน
เมื่อเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนที่มีการมอบเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญทอง ได้แก่ อันดับ 1 เวียดนาม 36 ล้านบาท, อันดับ 2 สิงคโปร์ 27.7 ล้านบาท, อันดับ 3 ไทย 12 ล้านบาท, อันดับ 4 อินโดนีเซีย 11 ล้านบาท, อันดับ 5 มาเลเซีย 7.8 ล้านบาท, อันดับ 6 ฟิลิปปินส์ 6.1 ล้านบาท ถือว่า ประเทศไทยก็มีการสนับสนุนเงินรางวัลให้กับนักกีฬาไม่น้อยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีฮ่องกงที่หากได้เหรียญทอง จะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 27.7 ล้านบาท และอัดฉีดเงินรางวัลสูงสุดอันดับที่สอง
อย่างไรก็ตาม หากเป็นประเทศที่ได้เหรียญทองจำนวนมากอยู่ตลอด ภาครัฐจะไม่ได้มีการสนับสนุนนักกีฬาด้วยเงินที่เยอะ เช่น ถ้าได้เหรียญทอง ประเทศญี่ปุ่นจ่าย 1.15 ล้านบาท, สหรัฐอเมริกาจ่าย 1.3 ล้านบาท หรือกระทั่งเยอรมนีจ่าย 7.9 แสนบาท เป็นต้
...
BT Beartai แบไต๋
ที่มาข้อมูล : อ้างอิง
https://www.cnbc.com/.../heres-how-much-athletes-at-the...
https://nsdf.or.th/.../%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8...
https://e.vnexpress.net/.../vietnamese-athletes-can-get...