วันพุธ, กุมภาพันธ์ 14, 2567

นิทานพระราชาไม่ใส่เสื้อผ้า (คือพระราชาโดนหลอกให้เดินแก้ผ้าไปทั่วเมือง) กับความกล้าหาญของเด็กน้อยที่ “ไร้วุฒิภาวะ” กรณีขบวนเสด็จ

Thanapol Eawsakul
5h
·

นิทานพระราชาไม่ใส่เสื้อผ้ากับความกล้าหาญของเด็กน้อยที่ “ไร้วุฒิภาวะ” กรณีขบวนเสด็จ
.......................
“ลักษณะเด่นของผู้ไม่บรรลุวุฒิภาวะคือ เขาต้องการจะตายอย่างสง่างามเพื่ออุดมการณ์
ขณะที่ลักษณะเด่นของผู้บรรลุวุฒิภาวะคือ เขาต้องการจะอยู่อย่างเพียงตนเพื่ออุดมการณ์
J.D. Salinger "The Catcher in the Rye"
ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ แปล
“ผมอายุ 18 ปีเมื่อปี 2519”
.....
(1)
วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2567) มีข่าวที่น่ายินดีที่ 2 นักข่าวได้ประกันตัวภายหลังต้องนอนที่คุกเป็นเวลา 1 คืน ด้วยข้อหาที่เลวร้าย ซึ่งทั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินส่งสัญญาณให้ใช้กฎหมายอย่างบ้าคลั่ง
วันเดียวกันนี้ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ที่ถูกหมายจับ ข้อหาได้กระทำความผิดโดยมีพฤติกรรมบีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ ในขณะที่ขบวนเสด็จฯกำลังแล่นผ่านบนทางด่วนย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567
ตร.หิ้ว ‘ตะวัน’ กับแฟรงค์ ขึ้นรถแยกฝากขัง ที่ สน.ฉลองกรุง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4423384
เป็นไปได้สูงว่าทั้งคู่จะไม่ได้ประกัน และน่าจะติดคุกยาว เพราะทั้งคู่ถูกทำให้เป็น “ปีศาจ” ไปเรียบร้อยแล้ว
(2)
ก่อนที่จะไปสู่ปัญหาตะวันและแฟรงค์ ผมขอยกตัวอย่าง นิทายเรื่อง เสื้อใหม่ของพระราชา ซึ่งเป็นผลงานเขียนของ ฮานส์ คริสเตียน แอนเดอร์แสน ในชื่อเดิมคือ The Emperor's New Clothes (นิทานเรื่องนีมาจากเรื่องเล่าพื้นบ้านในศตวรรษที่ 13”
เรื่องย่อคือ
พระราชาองค์หนึ่ง มีนิสัยฟุ้งเฟ้อ ชอบอวดเครื่องแต่งกายของตนเองในที่สาธารณะ จนดีไซนเนอร์ส่วนตัวไม่สามารถหาชุดใหม่ที่พระราชาพอใจได้ จนมีแก๊งนักต้มตุ๋นสามคน อ้างตนว่าเป็นนักตัดเย็บเสื้อผ้าฝีมือดี เสนอว่าจะตัดชุดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน พระราชาถ้าได้สวมจะเป็นที่ติดตาต้องใจประชาชน จนทำให้ นักต้มตุ๋นสามคน ได้รับทรัพย์สินเงนทาองไปมากมาก
ในระหว่างนี้ทั้ง 3 โฆษณาสรรพคุณเสื้อผ้าจนพรพระราชาหลงเชื่อ แต่ทั้ง 3 คนก็ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับบอกพระราชาว่า มีแต่คนมีบุญอย่างพระราชาเท่านั้นถึงจะมองเห็นความสวยงามได้ จนพระราชาก็ยังหลงเชื่อไปอีก
เมือ่พระราชาหลงเชื่อแล้วบรรดาขุนนางก็สอพลอ ก็บอกว่าสวยงามตามไปอีก
จนถึงเวลานัดหมาย นักต้มตุ๋นทั้ง 3 ก็ไม่ได้เอาอะไรมามอบ เริ่มแรกพระราชาไม่เห็นชุดจึงสอบถาม นักต้มตุ๋นจึงบอกว่า เป็นไปไม่ได้ที่พระราชาจะไม่เห็น คนระดับพระราชาต้องมองเห็นแน่นอนอยู่แล้ว
พระราชาฟังแล้วก็เอออวยไปด้วย พรรณาถึงความงดงามของชุดใหม่ว่าสวยงามเพียงใด
นักต้มตุ๋นทั้งสามพากันแต่งชุดให้พระราชา ซึ่งคือการจับพระราชาแก้ผ้านั่นเอง
จากนั้นก็มีการแห่พระราชาไปรอบเมืองโดยที่พระราชาคิดว่ากำลังสวมเสื้อชุดใหม่ที่ใคร ๆ ต้องตะลึงในความสวยงาม
ประชาชนทั่วไปก็ไม่มีใครทักท้วง แต่กลับแซ่ซ้องสรรเสริญเสื้อผ้าชุดใหม่พระราชา
จนกระทั่งมี มีเด็กน้อยตะโกนออกมาว่า พระราชาแก้ผ้า
จากนั้นประชาชนก็พากันหัวเราะพระราชา จนต้องรีบกลับด้วยความอับอาย
ส่วนนักต้มตุ๋นทั้งสาม ก็ได้ผลประโยชน์ไปแล้วก็เดินหน้าไปต้มตุ๋นต่อไป
(3)
อย่างที่ทราบกรณีที่ตะวันและณัฐนนท์ แสดงความไม่พอใจขบวนเสด็จนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปรกติ แต่นี่คือความเห็นร่วมกันของคนในสังคมไทย
แม้แต่ในหมู่ชนชั้นนำด้วยกันเอง ดังที่เราเห็นได้จาก
หนังสือจากสำนักราชเลขาฯ 27 ม.ค. 53 ราชเลขา(อาสา สารสิน) ได้เล่าถึง ขบวนเสด็จฯ ไว้ว่า
ร.9 มีพระราชปรารภให้หาทางแก้ปัญหาปัญหาจราจรเวลามีขบวนเสด็จ ตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งก็ได้มีการจัดทำแนวทางคู่มือไว้แล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จมาตลอดเพราะผู้ปฏิบัติหน้างานกลัวถูกตำหนิลงโทษสอดคล้องกับข้อมูลจากวิกิลีกส์ #10bangkok192
วันที่ 25 ม.ค.2553 ที่ทูตสหรัฐฯ คุยกับ พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา(อดีตองคมนตรี) ซึ่งสิทธิเล่าว่า ร.9 เห็นด้วยและให้อาสาพูดคุยกับสมาชิกราชวงศ์ กำหนดแนวทางจัดระเบียบขบวนเสด็จ เพื่อลดปัญหาจราจร มาสัก 8 ปีแล้ว แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยสิทธิยังเล่าว่า ตัวเองอาทิตย์ก่อนกลับจากการพบทูตจีนก็ติดบนถนน 45 นาที เพราะขบวนเสด็จ นอกจากเรื่องปิดถนน สิทธิเห็นว่าการที่ขบวนเสด็จของบางท่าน (You Know Who) สั่งให้บ้านเรือนริมถนนต้องปิดหน้าต่าง ชั้นสองด้วยเวลามีการเสด็จนั่นยิ่งไม่ได้อะไรนอกจากความไม่พอใจของประชาชน
ม.ค. 2553 :
ปลายมกราคม 53 ช่วงเวลาที่ สิทธิคุยกับทูตสหรัฐนั้น ก็คือช่วงเวลาเดียวกับที่ อาสา ทำหนังสือเรื่องแนวทางแก้ปัญหาจราจรจากการเสด็จส่วนพระองค์ ถึง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ โดยบอกว่า ร.9 ได้รับสั่งย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง จึงจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อวางแนวปฏิบัติ โดยในหนังสือสำนักราชเลขาเรื่องแนวทางแก้ปัญหาจราจรจากขบวนเสด็จส่วนพระองค์ 27 ม.ค. 53 นั้นมีเอกสารแนบเป็น นโยบายและแนวทางปฏิบัติในการจัดการจราจรในการเสด็จส่วนพระองค์ ที่จัดทำโดยคณะกรรมการอำนวยการจราจรในการเสด็จฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 53 แนวทางหลักคือให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ย้อนดูความพยายามแก้ผลกระทบจาก #ขบวนเสด็จ ปี 44-65
https://prachatai.com/journal/2022/02/97260
THAILAND: AMBASSADOR ENGAGES PRIVY COUNCIL CHAIR PREM, OTHER "ESTABLISHMENT" FIGURES ON YEAR AHEAD
https://wikileaks.org/plusd/cables/10BANGKOK192_a.html...
(4)
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน คือความพยายามปั่นของกลุ่มการเมือง ตำรวจ ทหาร และสื่อมวลชนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงไปยังพรรคก้าวไกลเพื่อนำไปสู่วัตถุประสงค์การยุบพรรคและตัดสิทธิ์สส.พรรคก้าวไกลตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567
ตะวันจึงกลายเป็นจำเลยของการแสดงออกที่ขาดวุฒิภาวะ
สำหรับผมสิ่งที่ตะวันแสดงออกไม่ใช่เรื่องการขาดวุฒิภาวะ
แต่เป็นส่วนหนึ่งของความกล้าหาญที่แม้หลายคนไม่กล้าแสดงออก
ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นปัญหาขบวนเสด็จนั้นได้สร้างปัญหาความตึงเครียดกับประชาชนมายาวนาน
ซึ่งเราดูได้จาก <ประวัติย่อความล้มเหลวของความพยายามแก้ปัญหาจราจรจากขบวนเสด็จฯ>
https://www.facebook.com/saiseema.p/posts/pfbid0EM4K5wq5qpLPucjmjxH7afjZFjSLg7F22NXeNLL7yZ2ERRLA6k1WFAtNmZDpQfWxl
สิ่งที่ตะวันแตกต่างจากพวกเราคือ
เธอกล้าแสดงออกในที่สาธารณะ
ซึ่งเราหวังวผู้มีอำนาจควรจะรับฟังและแก้ไข
มันมีแค่นี้จริง ๆ