วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 18, 2567

"Argentina 1985" หนังเกี่ยวกับระบบเผด็จการทหารในอาร์เจนติน่า อ.พวงทอง แนะนำ และอยากให้คนไทยได้ดู


Puangthong Pawakapan
10h·

"Argentina 1985" ดีมากๆ แม้ว่าเราจะอ่านเกี่ยวกับ The Dirty War มาพอสมควร แต่ก็ยังดูไปร้องไห้ไป
หนังเกี่ยวกับระบบเผด็จการทหารในอาร์เจนติน่า ที่นำโดยนายพลวิเดล่า ทำรัฐประหารในปี 1976 แล้วกวาดจับ-ซ้อมทรมาน-บังคับให้สูญหายประชาชนกว่า 30,000 คนด้วยข้อหาเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นภัยความมั่นคงของชาติ
ความรุนแรงนี้เริ่มเป็นที่สนใจของสาธารณชนเมื่อพวกแม่ๆ ออกมาเดินขบวนประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาลทุกบ่ายวันพฤหัส เพื่อเรียกร้องตามหาลูกที่หายไป การเดินขบวนเริ่มจากแม่ไม่กี่คนขยายเป็นนับพันคน เมื่อแม่คนอื่นๆ ที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน ได้ข่าวและเข้าร่วมด้วย จนกลายเป็นขบวนการ Mothers of the Plaza de Mayo (แม่แห่งจตุรัสเมโย) (เราเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ในประชาไท ลองกูเกิ้ลหาดูได้ค่ะ)
ตีมของหนังอยู่ที่ความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งที่จะเอาพวกทหารมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ในปี 1984-85 การรวบรวมข้อมูลและพยานต่างๆ แม้ว่าจะเจอกับการข่มขู่สารพัด แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้
ประเด็นสำคัญที่เราอยากให้คนไทยได้ดูก็คือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความรุนแรงที่เผด็จการกระทำต่อประชาชนอย่างเลือดเย็น ที่ปรากฏในชั้นศาลนั้นจะส่งผลต่อทัศนคติที่ประชาชนมีต่อระบอบ มันสามารถทำลายความชอบธรรมของตัวระบอบอย่างรุนแรง หนังเริ่มจากประโยคหนึ่งที่ว่า ชนชั้นกลางส่วนใหญ่ในอาร์เจนติน่าในขณะนั้นต่างไม่สนใจกรณีนี้ และรู้สึกว่ากองทัพทำเพื่อปกป้องความมั่นคงของรัฐ แต่เมื่อความจริงอันโหดเหี้ยมปรากฏออกมามากขึ้น พวกเขาก็ไม่สามารถยอมรับมันได้อีกต่อไป ความมั่นคงของรัฐไม่สามารถเป็นข้ออ้างให้กับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติเยี่ยงนี้ได้เลย
แม้ว่าในที่สุด การตัดสินลงโทษผู้นำทหารในปี 1985 จะถูกทำให้เป็นหมันด้วยการนิรโทษกรรมโดยรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ความพยายามที่จะเอาคนผิดมาชดใช้ตามกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ยอมแพ้แต่ประการใด พวกเขายังเดินหน้าสู้ต่อไปอีกเป็นทศวรรษ และสามารถนำนายทหารหลายร้อยคนเข้าคุกได้ในที่สุด Never Again!
ในหนัง Argentina 1985 คำให้การของคนที่รอดชีวิตถูกรายงานออกไปอย่างกว้างขวาง มันช็อคความรู้สึกของผู้คนอย่างมาก มันทำให้เราคิดถึงเหตุการณ์ไต่สวนการตาย 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ที่ในเดือนสิงหาคม 2556 ศาลเขียนคำวินิจฉัยค่อนข้างละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงภายในวัดปทุม ล้มล้างข้อกล่าวหาของรัฐบาลอภิสิทธิ์และกองทัพว่ามีชายชุดดำภายในวัดปทุมฯ ยิ่งใส่เจ้าหน้าที่
โดยภายหลังการอ่านคำสั่ง ศาลกล่าวสรุปประเด็นให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังด้วยว่า
1.เกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานทหาร
2.ผู้ตายทั้ง 6 ไม่มีคราบเขม่าดินปืนที่มือทั้งสองข้าง แสดงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนมาก่อน
3.การตรวจยึดอาวุธในวัดปทุมวนาราม ไม่น่าเชื่อว่ามีการตรวจยึดจริง และ
4.กรณีชายชุดดำ ไม่ปรากฏว่ามีชายชุดดำอยู่ในบริเวณดังกล่าว"
รายละเอียดการไต่สวนการตายที่ถูกเผยแพร่โดยสื่อมวลชนในขณะนั้น ทำให้พลเอกประยุทธ์ ขณะเป็น ผบ.ทบ. เดือดร้อนมาก ถึงขนาดพูดว่าต้องการให้มีการพิจารณาลับ!
ฉะนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจที่เพียงสามเดือนหลังการรัฐประหารของ คสช. ในปี 2557 ศาลอาญาบอกว่าตนไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีปี 53 - ความยุติธรรมถูกแช่แข็งจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด ความพยายามของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อที่จะผลักดันร่างเดินหน้าเสนอแก้ไขกฎหมาย ปปช. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (กฎหมาย ป.ป.ช.) เพื่อเปิดทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถยื่นฟ้องได้เองหาก ป.ป.ช. ไม่ดำเนินการสั่งฟ้อง -- ล่าสุดพรรคเพื่อไทย ที่รับปากกับคุณณัฐวุฒิว่าจะผลักดันเรื่องนี้ ก็ถอนร่างนี้ออกจากสภาแล้ว
#คืนความยุติธรรมให้ประชาชน มีไว้เพื่อการหาเสียงเท่านั้น