Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม
14h
[ทวงถามคุณธรรมของผู้พิพากษาอีกครั้ง ปล่อยนักโทษการเมือง อย่าให้เลือดผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งรดบัลลังก์ศาล]
.
เมื่อวานนี้ (18 มกราคม 2566) คุณ "ตะวัน" ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และคุณ "แบม" อรวรรณ ภู่พงศ์ ทั้งสองคนผู้ซึ่งก่อนหน้านี้ขอถอนการประกันตัวในคดีมาตรา 112 ของตัวเองเพื่อส่งเสียงให้สังคมรับรู้ถึงความไร้หลักนิติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา ได้เริ่มต้นการอดอาหารและน้ำ ย้ำอีกครั้งว่านี่คือการอดทั้งอาหารและน้ำ
.
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ผมไม่เคยต้องการให้ผู้ต้องหาคดีการเมืองคนใดต้องมาเลือกวิธีทรมานตัวเองเช่นนี้ แต่ผมไม่มีหน้าจะไปห้ามใครได้ ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงที่สุดว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ โดยเฉพาะกับคดีของผู้เห็นต่างทางการเมืองที่อยู่ตรงข้ามผู้มีอำนาจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกฎหมายอย่างมาตรา 112 มันน่าอัปยศอดสูจริงๆ ถึงขนาดที่คนเราต้องเดิมพันด้วยชีวิตและร่างกายเพื่อสู้กับความอัปยศอดสูนั้น
.
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นล่าสุดก็คือการที่ศาลไต่สวนถอนประกันตัวคุณตะวัน (ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจถอนประกันตัวเอง) ซึ่งปรากฏว่าทั้งอัยการฝ่ายโจทก์และเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนยืนยันว่าพวกตนไม่ได้เป็นผู้ร้องขอให้มีการถอนประกันตัวคุณตะวันแต่อย่างใดเลย หมายความว่าเป็นการริเริ่มจากศาลเอง หรือกรณีคุณ "ใบปอ" ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ และคุณ "เก็ท" โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง ที่ถูกศาลสั่งถอนประกันตัวในคดีมาตรา 112 เช่นกัน ก็พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานศาลยุติธรรมเองที่เป็นผู้เสนอเรื่องถอนประกันตัว โดยอัยการและตำรวจไม่ได้ร่วมรับรู้ด้วย พฤติการณ์เช่นนี้เสมือนว่าศาลกำลังรับบทบาทเป็นโจทก์เสียเอง
.
และอย่างที่ผมยืนยันมาโดยตลอดในประเด็นคดีการเมือง คดีมาตรา 112 ว่าไม่ว่าจะเป็นคุณตะวัน, คุณแบม, คุณใบปอ, คุณเก็ท หรือผู้ต้องหาและจำเลยคดีการเมืองคนอื่นๆ รวมแล้วถึง 16 คนที่ยังถูกสั่งขังระหว่างพิจารณาคดีอยู่ตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ต่อหน้ากฎหมาย การกระทำของพวกเขาที่ศาลอ้างว่าทำซ้ำในข้อที่ถูกกล่าวหา ก็ยังเป็นสิ่งที่ผู้ถูกกล่าวหาสงวนคำคัดค้านอยู่ว่าเป็นเสรีภาพที่พวกเขาพึงกระทำได้ และโดยเนื้อแท้แล้วก็ไม่ใช่ภยันตรายต่อสังคมส่วนรวมอย่างเช่นการฆาตกรรมหรือจี้ปล้นใดๆ ดังนั้นพวกเขาต้องได้ออกมาสู้คดีข้างนอกกรงขัง หากศาลยึดหลักการนี้ไว้ตั้งแต่ต้น คงไม่มีใครต้องมาอดอาหาร
.
ผมเห็นด้วยกับที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าการดำเนินคดีการเมืองแบบที่ในทางปฏิบัติศาลตัดสินล่วงหน้าไปแล้วต้องหาหรือจำเลยกระทำผิดคือระเบิดเวลาลูกใหญ่ของความขัดแย้งทางการเมืองที่ในอนาคตจะทำลายล้างผู้คนในสังคมไทยมากยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา และอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลชุดหน้าและรัฐสภาชุดหน้าในการปลดชนวนระเบิดลูกนี้ ก็คือจะต้องยุติการดำเนินคดีการเมือง, นิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมือง และจะต้องแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายปิดปากประชาชนฉบับต่างๆ รวมทั้งมาตรา 112 ไม่ให้เป็นเครื่องมือกดขี่ผู้เห็นต่างอีกต่อไป ซึ่งตัวผม รังสิมันต์ โรม ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมขับเคลื่อนภารกิจทั้งหมดนี้ต่อไปให้ถึงที่สุดด้วยเช่นกัน
.
อย่างไรก็ตาม ทั้งตัวผมและไม่ว่าจะเป็น ส.ส. คนใดก็ตาม ไม่ได้มีอำนาจกระทำการในสิ่งที่จะช่วยบรรเทาสถานการณ์เบื้องหน้าในขณะนี้ลงได้ นั่นคือการสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องหาและจำเลยคดีการเมือง ซึ่งรวมถึงคุณตะวัน, คุณแบม, คุณใบปอ และคุณเก็ท ให้ออกมาสู้คดีข้างนอก นี่คืออำนาจและหน้าที่ที่ผู้พิพากษาเท่านั้นที่จะตัดสินใจมีคำสั่งได้ ในขณะที่ร่างกายของผู้ถูกคุมขังกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ และจะถึงจุดวิกฤตในไม่ช้า และถึงที่สุดมันคือความรับผิดชอบและคุณธรรมของผู้พิพากษาที่จะต้องไม่ยอมให้เลือดของผู้บริสุทธิ์หลั่งลงมารดบังลังก์ศาล หากท่านยังมีมโนธรรมสำนึกอยู่ ก็ช่วยตัดสินใจสิ่งที่ถูกต้องตามหลักกฎหมายในห้วงเวลาที่ยังเหลืออยู่นี้ด้วยครับ
.
#ปล่อยนักโทษการเมือง
.....
สิ่งที่ตะวันกับแบมเรียกร้องเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย
— Lookkate - Chonthicha Jangrew (@LookkateChonth1) January 19, 2023
แต่สิ่งผิดปกติคือ การที่สังคมไทย ปล่อยให้มีตุลาการบางพวก ที่ใช้อำนาจผ่านปลายปากกากลั่นแกล้ง ปิดปากประชาชนที่เห็นต่าง