วันพฤหัสบดี, มกราคม 19, 2566

คำคม ตะวัน “ทนายด่าง”


The Voters

"คิดมาถี่ถ้วนแล้วถึงการตัดสินใจออกมาทำกิจกรรมลักษณะนี้ สืบเนื่องจากความหลงทะนงตนในอำนาจของศาล
.
"เห็นได้จากการไม่ให้ประกันตัวนักโทษทางการเมืองหลายราย และการที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกันนักกิจกรรมด้วยตนเอง จนหลักนิติธรรมพังทลายไปหมด
.
"ดังนั้น อิสรภาพที่ศาลมอบให้พวกเราจึงไม่ใช่อิสรภาพที่แท้จริง แต่เป็นอิสรภาพจอมปลอมที่พ่วงมาด้วยเงื่อนไขที่ลิดรอนสิทธิ"
.
'ตะวัน - ทานตะวัน ตัวตุลานนท์'
‘ตะวัน-แบม’ ยื่นถอนประกันตนเอง เพื่อแลกอิสรภาพนักโทษคดี 112 ทั้งหมด
.....

สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News
Yesterday
“ทนายด่าง” ชี้ การเอาเด็กที่บริสุทธิ์ไปขังคุกเป็นเรื่องอัปรีย์ ที่เลวร้ายกว่านั้นคือคนยังนิ่งเฉย และปล่อยให้ความอัปรีย์นั้นยังคงอยู่

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ภายหลัง ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม อรวรรณ ยื่นถอนประกันตัวเอง และถูกส่งตัวเข้าไปในเรือนจำแล้ว ว่า

ถ้าใครได้ดูคลิปของตะวันและแบมคลิปนี้แล้ว คุณรู้สึกอย่างไร

ตะวันกับแบมเด็กสาวสองคนเป็นลูกความของผมในคดีที่เธอถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ตามมาตรา 112

เธอทั้งสองขอถอนประกันตัวเองและยอมกลับเข้าไปในคุกเพื่อทำสิ่งที่หัวใจของเธอปรารถนา ซึ่งเราอาจจะไม่เข้าใจ

แต่เมื่อฟังสิ่งที่เธอพูดจนจบแล้ว สำหรับผมเป็นเรื่องที่พิสูจน์ความเป็นมนุษย์ที่เธอมีมากกว่าผม

ผมจะไม่พูดเรื่องข้อกฎหมายหรือหลักสิทธิมนุษยชนใดใดที่ผู้พิพากษาไทยและรัฐไทยไม่ยอมรับ

ผมเป็นพ่อที่มีลูกสามคน ตะวันกับแบมมีอายุน้อยกว่าลูกคนสุดท้องของผมเสียอีก เมื่อฟังเธอทั้งสองพูดผมภูมิใจถ้าจะได้เป็นพ่อของเด็กสาวทั้งสองคนนี้

หลายคนมักถามผมว่าในฐานะทนายความของเธอทั้งสองผมจะทำอย่างไร เพราะสิ่งที่เธอเลือกคือการเดินทางไปสู่ความตายอย่างแน่นอน และจะไม่ได้รับความสนใจใยดีจากรัฐไทยแน่นอน

ผมขอบอกเลยว่าผมจะไม่ทำอะไรในเรื่องนี้อีกต่อไปเพราะไม่ใช่หน้าที่ของทนายความอีกแล้ว

สิ่งที่จะทำต่อไปหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ ความเป็นพ่อ ไม่ใช่ความเป็นนักกฎหมายแล้ว

ผมนึกถึงหน้าของ ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ในเวลาที่จะตัดสินใจส่งเธอทั้งสองเข้าคุกแล้ว ผมนึกไม่ออกว่าภายใต้ใบหน้าเหล่านั้นมีความรักมีความเมตตาหรือไม่ เด็กทั้งสองไม่ใช่ฆาตกรและยังไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดใดใดเลย

ในเวลาเดียวกันรัฐไทยเฉลิมฉลองวันเด็ก วันครู อย่างเอิกเกริก ผลิตคำขวัญที่กลิ้งกลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เดินหน้าหาเสียงซื้อ ส.ส. โฆษณาหลอกลวงนโยบายที่ไม่มีวันเป็นจริงอย่างอึกทึกครึกโครม

ในทางกลับกันเราเอาเด็กสาวสองคนที่บริสุทธิ์รวมทั้งคนอื่นอีกสิบกว่าคนไปขังคุก

ผมว่าเป็นเรื่องอัปรีย์

ที่เลวร้ายกว่านั้นคือคนที่เหลือยังนิ่งเฉยและปล่อยให้ความอัปรีย์นั้นยังคงอยู่ ในฐานะคนที่เป็นพ่อลูกสามผมขอบอกว่า ตะวัน แบม ใบปอ เก็ท และคนอื่นๆ ที่ถูกขังเพียงเพราะความคิดที่เป็นเสรีว่าพวกเธอถูกต้องและจะชนะอย่างแน่นอน