วันเสาร์, มกราคม 07, 2566

ประยุทธ์ตวาด “ชั้นไม่ต้องตอบ จะไปตอบเธอทำไม” เรื่องหลานชายเจ้าของรถทัวร์พัวพัน ‘ตู้ห่าว’

วันก่อน ประยุทธ์ใส่เสื้อม่อฮ่อมไปหาเสียงที่สิงห์บุรี บอกว่าที่จะเป็นนายกฯ ต่อ เพราะยังเปลี่ยนแปลงไม่เสร็จ มีความคิดเปลี่ยนแปลงอีกเป็นร้อยอย่าง ถ้าดูจากสภาพเป็นจริงของประเทศ การเปลี่ยนแปลงที่ประยุทธ์ทำมาตลอด ๘ ปี มีแต่เสื่อมทราม

แน่ละการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งก่อสร้างและถนนหนทาง ดังที่มี ไอโอพยายามอ้าง เป็นเพียงสิ่งใหม่ทดแทนของเก่าตามกาลเวลา แต่ว่าคุณค่าของการเปลี่ยนแปลงกลับหาได้ยาก บางอย่างกลับกลายเป็นความเสียหาย แบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

ดังกรณีผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ เปรยเรื่องการเดินเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในคลองผดุงกรุงเกษม เก๋ไก๋แต่ไม่คุ้ม “เมื่อคิดเทียบกับปริมาณคนใช้แล้วค่าบริการต่อคนค่อนข้างสูงมาก ประมาณ ๑๗๑ บาทต่อคน” เป็นค่าใช้จ่ายของเทศบาล ๒.๔ ล้านบาทต่อเดือน

ดังนั้น หากจะทำต้องดูเรื่องความคุ้มทุนด้วย เนื่องจากเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน ทางเราก็ทบทวนรูปแบบอยู่” ซึ่งเบื้องต้นตอนนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ อาจเปลี่ยนไปเป็น ชัตเติ้ลบัสจะสมประโยชน์มากกว่า ความล้มเหลวทำนองนี้ประยุทธ์มักจะเลี่ยงไม่พูด

ครั้นเมื่อมีผู้สื่อข่าวถามจี้ ก็จะออกอาการโมโห ฉุน เถไถไปนอกเรื่อง อย่างเช่นเหตุเกิดที่สิงห์บุรี เมื่อนักข่าวซักไซ้กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เปิดโปงว่าบริษัทคอนเท็มโพลารี่ของนายปฐมพล จันทร์โอชา หลานนายกฯ เป็นเจ้าของรถทัวร์พัวพันกับ ตู้ห่าว

“ชั้นไม่ต้องตอบ จะไปตอบเธอทำไมในเมื่อฉันก็ไม่รู้เรื่อง” ประยุทธ์ตวาดใส่นักข่าวแทนที่จะตอบคำถาม แล้วก็ต่อด้วยข้อความไม่เป็นเรื่อง “ฉันไม่ได้เป็นศัตรูกับพวกเธอ ฉันพยายามจะไม่หงุดหงิดอยู่แล้ว เข้าใจไหม สื่อฯอย่าให้มีปัญหา”

กิริยากักขฬะอย่างนั้นเกิดขึ้นบ่อยๆ เมื่อประยุทธ์เผชิญนักข่าว จะว่าเขาแสดงความแกร่งกล้าในฐานะผู้นำ ก็ไม่ใช่ หรือว่าเลียนแบบจอมเผด็จการในอดีตเช่นฮิตเลอร์ ด้วยบุคคลิกหลุกหลิก แต่ฮิตเลอร์ก็ยังทิ้งบางสิ่งไว้ดูต่างหน้าอีกหลายสิบปี เช่น รถโฟ้คสวาเก็น

ทว่าเรือไฟฟ้าของประยุทธ์ไม่น่าจะคงกระพันไปได้ถึงหลังเลือกตั้งสมัยหน้า เพราะมันเป็นเพียงการลอกเลียน โดยไม่ได้คำนึงถึงสัมฤทธิ์ผลเลยสักนิด

(https://twitter.com/SpacebarMediaTH/status/1611258791672295429 และ https://mgronline.com/qol/detail/9660000000663)