อะแฮ่ม ไม่มี้ไม่มี บ่อนในเมืองกรุง ผบ.ตร.ป้ายแดงพูดซะ ‘ชัชชาติ’ ต้องยิ้ม “ตั้งแต่ผมมารับตำแหน่ง ไม่เคยพบบ่อน” อีกคนก็ยัน ผบช.น.ว่าเป็นเพียงคำเปรียบเปรยของนักพนัน ที่ว่า “บ่อนเยอะ จนเหมือน ๑ สน. ๑ บ่อน” น่ะไม่ใช่ “เรามีนโยบายปราบอยู่แล้ว”
แหม่ทั่น ใครๆ ก็รู้หมาต๋าประเทศนี้ นโยบายกับปฏิบัติการมันห่างกันเท่ากับ ‘หัวมงกุฏท้ายมังกร’ ถ้า อาร์ต เอกรัฐ ผู้จัดข่าว ‘พีพีทีวี’ ไม่ได้สัมภาษณ์สดนักเล่นที่เพิ่งออกมาจากบ่อนเตาปูน กำเงิน ๕ หมื่นที่เหลือยื่นให้ดูก็ไปอย่าง
กลางวันแสกๆ เข้าไปตั้งแต่พระฉันเพลกลับออกมาบ่ายสาม “๔ ชั่วโมงเสียไป ๘ หมื่น” ในนั้นมีคนเล่นกันนับร้อย เพิ่งรู้กันวานนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ นี่ชอบเล่นมุขพูดตลก อะ ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง นั่นช่างกล้า ท้าให้ชี้เป้าเสียอีก
ที่พูดย้อนศรกันอย่างนั้นหลังจาก รอง ผบ.ตร.ยอมรับว่า “บ่อนพนันของนายทุนชาวจีน...พฤติกรรมคล้ายกับกลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญ” ซึ่งกำเริบไปเป็นบ่อนศูนย์เหรียญ ที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ออกมาเปิดโปงอาทิตย์ที่แล้ว แต่ขณะนี้เร่งดำเนินคดีอยู่แล้ว
“จะสามารถออกหมายจับได้ภายในวันนที่ ๔ พ.ย.นี้ ซึ่งสถานบริการที่ผิดกฎหมายได้ถูกปิดแล้วทั้งหมด และสามารถจับกุมกลุ่มทุนชาวจีนได้บางส่วน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล แจงว่ากระบวนการสะสางต้องเริ่มตั้งแต่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนั่นเลย
ส่วนอดีตรัฐมนตรียศนายพลที่มีข่าวหลุดว่าลูกสาวแต่งงานกับเจ้าของบ่อนเชื้อชาติจีน ทำให้เขาได้สัญชาติไทย และบริจาคเงิน ๓ ล้านให้พรรคพลังประชารัฐ “ถูกต้องตามกฎหมาย” ที กกต.ตีความ พรรครัฐบาลไม่มีความผิดถึงขั้นยุบพรรคได้นั้น
‘บิ๊กโจ๊ก’ บอกว่าได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว “พบเพียงแต่ว่ามีบริษัทที่เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย...ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนชาวจีน” พบเมื่อไหร่ “ไม่มีละเว้น” เพราะขณะนี้ ผบ.ตร. “เข้มงวดมาก”
ตกลงคำพูด ‘บิ๊กเด่น’ ที่ว่าเมื่อตนเข้ามาเป็น ผบ.ตร. (เดือนนี้) ไม่มีบ่อน นั้นอาจพูดตกคำสำคัญไปคือ ‘จะ’ ไม่มี เพราะกำลังปราบอย่างเข้มอยู่ ไม่เช่นนั้นต้องโทษสื่อตามธรรมเนียมรัฐบาลประยุทธ์ ว่ารายงานข่าวเป็น past tense แทนที่จะเป็น present หรือ future
(https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/pfbid06oJRHV และ https://www.facebook.com/PPTVHD36/posts/pfbid0EDv6FNT3JJ)