‘ประยุทธ์’ เล่นเอง สั่ง อนุชา นาคาสัย ไปกำกับวิปรัฐบาลอย่าให้ผ่านเป็นอันขาด เดี๋ยวเจ้าสัวเคือง พูดส่งเดช “ถ้าจะเปิดเสรีอย่างที่เสนอนั้น มันทำไม่ได้” ที่จริงบิดพริ้วคำพูดไปจาก “ไม่ให้ทำ” อ้างลมแล้งเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค
วิธีการของรัฐบาลเรื่องนี้ อย่างที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าก้าวไกลว่าแค่เปลี่ยนล็อค “ปลดล็อคบางอย่าง แล้วไปเพิ่มล็อคอันอื่น” หรือตามคำ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ผู้เริ่มผลักดันสุราก้าวหน้า ว่า “ทำเหมือนปลดโซ่ข้อมือ แล้วเอาตรวนมาตีเท้า”
เขาไล่เบี้ยเป็นข้อๆ ต่อกฏกระทรวงใหม่ เช่นกรณีการผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต หรือ ‘บรูว์ผับ’ ของเดิมกำหนดจำนวนผลิตขั้นต่ำต้อง ๑ แสนลิตร ก็เปลี่ยนไปกำหนด ‘แรงม้า’ ของเครื่องจักรในการผลิตว่าต้อง ๕๐ แรงม้า ซึ่งได้มากกว่าแสนลิตร
พิธาบอก “แม้ว่าจะปลดล็อคทุนจดทะเบียน แต่ก็ไปเพิ่มล็อคที่แรงม้าขั้นต่ำ และเครื่องจักรที่ใช้ ในมุมมองของผู้ผลิตคราฟท์เบียร์ มันกลายเป็นยุ่งยากเข้าไปใหญ่” ส่วนสุรากลั่นอย่าง วิสกี้ ลิคัวร์ จิน รัม เท่าพิภพชี้ ว่าไม่ได้ปลดล็อคอะไรเลย ยังมีขั้นต่ำ ๓ หมื่นลิตรต่อวัน
สำหรับโรงเบียร์บรรจุขวด “แม้จะไม่มีปริมาณการผลิตขั้นต่ำ แต่ต้องมีไลน์บรรจุที่ยิงสติ๊กเกอร์ติดได้ บังคับทำ EIA ทุกขนาด ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ๓-๕ ล้านบาท และใช้เวลาถึง ๒-๓ ปี” อันนี้ออกกฏมาเพื่อการเก็บภาษีสรรพสามิตโดยเฉพาะ
พิธาถึงได้ว่ากฏกระทรวงใหม่นี่มันมี “ปีศาจอยู่ในรายละเอียด” ชัดๆ แต่พวกขุนพลอยพยัก อย่าง จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมงี้ กลับตระบัดลิ้นว่า “การมีกฎหมายนี้ออกมาน่าจะเป็นตัวช่วยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากขึ้น”
สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข หนักเข้าไปอีก “ถ้ากฎกระทรวงผ่อนคลายลงมา เปิดฟรีมากเกินไป ใครจะไปดูแลในปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา” แหมทั่น การออกกฎหมายมันต้องมีระเบียบการรองรับทุกสถานการณ์อยู่แล้ว
ในประวัติการปกครองไทย เห็นมีแต่รัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ นายกฯ สมัยนั้นเป็นประธานสภาสมัยนี้น่ะ ไม่ค่อยได้สั่งการอะไรล่วงหน้า เรื่องบริหารราชการแผ่นดิน ต้องรอให้ได้รับรายงานขึ้นมาเสียก่อน ค่อยคิดสางปัญหา
(https://www.matichon.co.th/politics/news_3650465, https://www.bbc.com/thai/articles/c97j3pd38y7o และ https://twitter.com/KhaosodOnline/status/1587348260070383616)
