เมื่อ ปิยบุตร แสงกนกกุล เขียนถึง ‘ทวิสภาวะแปลกแยก’ ของพรรคก้าวไกล ในตอนที่ ๑ อันเป็นการปฏิสัมพันธ์กับ ‘การเมืองแบบไทยๆ’ เขาบอกว่า กก.ถูกโดดเดี่ยวจากพรรคการเมืองอื่นๆ ประดุจดัง ‘แกะดำ’ ในการเมืองไทย
ล้วนต่างโจมตี (แม้จากพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน) ว่า “สิ่งที่พรรคก้าวไกลนำเสนอนั้น เป็นโลกอุดมคติบ้าง เพ้อฝันบ้าง เป็นไปไม่ได้บ้าง ไกลตัวบ้าง เสนอเอามัน เอาสะใจบ้าง” ถึงขนาดว่าทุกพรรคการเมืองมุ่งหมายไปจับมือกับใครก็ได้
แล้ว “ทิ้งก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านตามลำพัง” เนื่องเพราะ “พรรคการเมืองดั้งเดิมและนักการเมืองดั้งเดิม (ไม่ว่าจะมาจากพรรคใด ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคสืบทอดอำนาจ คสช. หรือไม่ก็ตาม)” พร้อมใจกัน
“มีฉันทามติกำจัดพรรคอนาคตใหม่/ก้าวไกล หรือ บั่นทอนบอนไซให้มี ส.ส.จำนวนหนึ่ง ให้อยู่รอดในระบบการเมือง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้” บรรยากาศการเมืองขณะนี้ หลายรายทั้งจากในพรรคการเมืองและภาคประชาชน ออกมาคัดง้าง กก.เต็มที่
อย่าง ภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย โจมตี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าก้าวไกล “เขียนด้วยมือ ลบด้วยอะไร” เขาอ้างว่าดูคลิปจะจะจังจัง พิธาหาเสียงในการเลือกตั้งปี ๖๒ ให้ “ปลดกัญชาออกจากยาเสพติด และนำกัญชามาใช้เพื่อการแพทย์”
แต่วันนี้พรรคก้าวไกลร่วมกับหลายๆ ส่วน “ยื่นเรื่องให้ศาลปกครองกลาง พิจารณาคุ้มครองชั่วคราวให้นำกัญชาย้อนกลับไปเป็นยาเสพติดอีก” เขาว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น...พรรคของพวกท่าน กอดสุราแต่ถีบส่งกัญชา...เรียกคะแนนเสียงช่วงเลือกตั้ง”
คงต้องรอดูว่าเมื่อการเลือกตั้งมาถึง ก้าวไกลจะได้คะแนนเสียงมากขึ้นตามที่ภราดรชี้เป้าไหม ถ้าได้เช่นนั้นก็จะตรงข้ามกับนัยยะที่ภราดรโจมตี กก.ในขณะนี้ ว่าดำเนินนโยบายไม่เห็นหัว (อก) ประชาชน พูดคำเดียวกับ ประสิทธิ์ชัย หนูนวล
กรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.…โควต้าพรรคก้าวไกลและกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งบอกว่า “เกิดภาวะสิ้นหวังทางการเมือง” ด้วยการที่เขาเห็นว่า ก้าวไกลทำลายเจตนารมณ์ “ที่รับไปจากประชาชน”
หากจะจับไปคล้องจองกับคำของปิยบุตร ได้ว่า “หากพรรคก้าวไกลต้องการเป็นพรรคใหม่ในทางการเมืองไทยอย่างแท้จริง เป็นพรรคการเมืองที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงใหญ่อย่างแท้จริง...ต้องผูกมัดกับข้อเรียกร้องของประชาชน ทำงานกับมวลชน”
ซึ่งหมายถึง “การแก้ไขมาตรา ๑๑๒ การตรวจสอบงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ การปฏิรูปกองทัพ การปฏิรูปศาล การทลายทุนผูกขาด การยุติรัฐราชการรวมศูนย์ รัฐสวัสดิการ และการอยู่ข้างการชุมนุม” มากกว่าโอบอุ้มกัญชาเสรี
โดยที่ ณ เวลานี้ การผลักดันกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ทั้งหละหลวม ไม่รอบคอบ และยังลุกลี้ลุกลนกระไรอยู่ ต่างจากการผลักดันสุราเสรีของพรรคก้าวไกล ที่กฎหมายกำกับควบคุมการบริโภคอยู่แล้ว เพียงส่วนใน กม.นั้นเอื้อเจ้าสัวและกีดกันชาวบ้าน
ขณะเดียวกันการมุ่งมั่นทำงานการเมืองสนองต่อประชาชนของก้าวไกล มีอยู่ไม่ขาดสาย ท้ายสุดเห็นได้จากสอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ “ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองพิจารณาหยุดสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม” ระบุว่าหากปล่อยให้มีการอนุมัติอย่างลอยชาย
“ประเทศไทยต้องเสียผลประโยชน์มหาศาล” จากการ “ปั้นตัวเลข... ปั่นโครงการ และในวันนี้ใกล้จะ ปันผลประโยชน์สำเร็จแล้ว...ซึ่งจะทำให้เงินภาษีของประชนถูกใช้เกินจำเป็น ๖๘,๐๐๐ ล้านบาท”
(https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/pfbid029gj, https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/posts/pfbid037kZ และ https://www.matichon.co.th/politics/news_3671842)