วันศุกร์, เมษายน 22, 2565

ผู้พิพากษาก็ปอดเป็นเหมือนกัน โฆษกศาลบอก ไม่ใช่ห้ามเปิดเผยแค่ห้ามคุกคาม


Atukkit Sawangsuk
5h ·
พูดตลก ขัดแย้งในตัวเอง
โฆษกบอกว่าไม่ใช่ห้ามเปิดเผยแค่ห้ามคุกคาม
โธ่เอ๋ย ถ้ามีคนเอาชื่อผู้พิพากษาไปคุกคามปองร้าย ก็เอาผิดได้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาสั่งห้าม
:
พอโฆษกศาลชี้แจงเสร็จ ก็มี “แหล่งข่าวผู้พิพากษา” โผล่มาอธิบายข้างๆ
อ้างป.วิอาญา อ้างระเบียบประธานศาลฎีกา
ว่าคำสั่งระหว่างพิจารณา (สั่งให้ประกันไม่ให้ประกันหรือกำหนดเงื่อนไขต่างๆ)
ไม่ต้องลงชื่อผู้พิพากษา
หรือลงลายเซ็นที่ไม่มีใครอ่านออก
ไม่ต้องบอกตัวบรรจง
อ้างว่าเป็นมาตรการความปลอดภัยไม่ให้ถูกคุกคาม
:
งั้นที่โฆษกบอกไม่ปกปิด ก็ไม่จริง
ลายเซ็นที่มนุษย์อ่านไม่ออก = ปกปิดอยู่ดี
ถ้ามั่นใจในความสัตย์ซื่อยุติธรรม มีหิริโอตตัปปะ
ทำไมต้องกลัวการเปิดเผยชื่อจริง
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_3301716
Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม
15h ·

[อำนาจมาพร้อมความรับผิดชอบ ถ้าศาลจะอ้างนามกฎหมายมาริบอิสรภาพไปจากประชาชน ก็ต้องเปิดเผยตัวตนออกมาให้สังคมได้ตรวจสอบ]
.
ตามรายงานจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในการไต่สวนการประกันตัวของศาลอาญา รัชดาภิเษก ต่อคุณชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 มีรายงานว่าศาลได้กล่าวในระหว่างการไต่สวนว่าจากที่มีการโพสต์สาธารณะระบุถึงชื่อผู้พิพากษา (เช่นที่มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว) ศาลจะมีแนวทางในการจัดการต่อเรื่องดังกล่าว โดยในกรณีที่ทนายความเป็นผู้กระทำ จะแจ้งสภาทนายความให้ทราบ ส่วนกรณีที่ประชาชนทั่วไปเป็นผู้กระทำ ทางสำนักงานของศาลจะดำเนินคดีต่อบุคคลเหล่านั้น
.
ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ที่ศาลไทยได้หลงลืมแม้กระทั่งหลักการพื้นฐานที่สุดของการเป็นผู้ใช้อำนาจที่กระทบต่อประชาชน นั่นคือการที่ผู้ใช้อำนาจนั้นจะต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจของตนด้วย เพราะในแต่ละคำสั่งหรือคำพิพากษาที่เอ่ยออกมาผ่านปากของพวกคุณ ลงนามผ่านมือของพวกคุณ มันกำลังทำให้ใครหลายๆ คนต้องสูญเสียอิสรภาพที่พวกเขาพึงมี และในเมื่อพวกคุณก็เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับเงินภาษีจากประชาชน แล้วทำไมประชาชนที่เคยถูกพวกท่านใช้อำนาจริบอิสรภาพไป หรืออาจต้องรอรับผลของการใช้อำนาจของพวกท่านในวันข้างหน้า ทำไมเขาจะตรวจสอบการใช้อำนาจของพวกท่านบ้างไม่ได้ จะวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของพวกท่านก็กลายเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล แม้กระทั่งจะทราบชื่อว่าผู้ที่ออกคำสั่งหรือคำพิพากษานั้นออกมาคือใคร ก็ยังจะถูกปกปิดไม่ให้รับรู้ด้วยการขู่ดำเนินคดีผู้เปิดเผยชื่ออีก
.
ตัวผมเองและเพื่อนๆ ส.ส. ที่ทำงานในสภา ก็เป็นผู้ใช้อำนาจในฝ่ายนิติบัญญัติ ออกกฎหมายหรือเสนอญัตติที่ส่งผลต่อประชาชน ในการลงมติแต่ละครั้งก็มีการบันทึกไว้ทั้งหมดว่า ส.ส. แต่ละคนลงมติไว้ว่าอย่างไร หากใครลงมติสวนทางกับเจตนารมณ์ของประชาชน สวนทางกับอุดมการณ์ของพรรค สวนทางกับหลักการที่ควรจะเป็น ก็ย่อมถูกประชาชนรับรู้และวิพากษ์วิจารณ์ได้ และต้องชี้แจงการกระทำของตัวเองต่อสังคม นี่คือวิถีทางปรกติที่ผู้มีอำนาจจะต้องรับผิดชอบต่อผู้รับผลของอำนาจ ต้องรับผิดชอบต่อสังคม ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ทั้งสภา ทั้งรัฐบาล และศาลก็ด้วย
.
ผมขอยกตัวอย่างกรณีการไต่สวนถอนการประกันตัวของคุณทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (20 เมษายน 2565) จากกรณีการทำกิจกรรมทางการเมืองเกี่ยวกับขบวนเสด็จ ผมยืนยันมาโดยตลอดว่าการจัดกิจกรรมในเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นเสรีภาพที่ประชาชนพึงกระทำได้ และอยู่ในวิสัยที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะจัดการให้ไม่เกิดอันตรายได้ ขณะที่การที่ศาลใช้เหตุดังกล่าวในการถอนประกันด้วยเหตุผลว่าเป็นการสร้างความวุ่นวาย หรือเป็นการกระทำซ้ำสิ่งที่ถูกกล่าวหานั้น ทั้งที่การกระทำเหล่านั้นยังไม่ถูกตัดสินเด็ดขาดว่าเป็นความผิดแล้ว ย่อมเป็นการลิดรอนเสรีภาพของประชาชนไปโดยปริยาย ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอยืนยันในหลักความเป็นผู้บริสุทธิ์ต่อหน้ากฎหมายจนกว่าจะได้รับการพิพากษาอย่างถึงที่สุด ที่ซึ่งคุณทานตะวันรวมถึงผู้ต้องหาคดีการเมืองท่านอื่นๆ จะต้องได้รับโดยการได้ประกันตัว/ปล่อยตัวชั่วคราวออกมาด้วย
.
และนอกจากนี้เมื่อประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าการไม่ให้ประกันตัวเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 หรือผู้ชุมนุมทางการเมืองอยู่เสมอ รวมถึงพฤติการณ์ของฝ่ายรัฐตลอดที่ผ่านมาแล้ว ประชาชนก็สมควรที่จะตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งเช่นนี้ได้ว่าถูกต้องตามหลักกฎหมายหรือไม่ สมเหตุสมผลดังที่ศาลกล่าวอ้างมาหรือไม่ มีบริบทแวดล้อมอะไร หรืออย่างน้อยที่สุดก็ขอให้ได้รู้ชื่อของผู้ที่ออกคำสั่งเช่นนี้
.
ผมขอยืนยันอีกครั้งว่านี่คือความรับผิดชอบขั้นต่ำที่สุดของผู้ใช้อำนาจรัฐที่จะต้องเปิดเผยตัวตนต่อประชาชน หากศาลอ้างว่าผู้พิพากษาถูกคุกคามก็ขอให้ระบุมาให้ชัดว่าท่านถูกคุกคามอย่างไร เป็นอันตรายต่อตัวท่านอย่างไร มิใช่เที่ยวไปปิดปากคนที่เพียงระบุชื่อพวกท่านโดยหาว่าเป็นการคุกคามไปทั้งหมด และหากว่าห่วงใยเรื่องการคุกคามจริงๆ ก็ขอให้ช่วยเหลียวแลไปยังจำเลยผู้เป็นประชาชนคนธรรมดาต่างๆ ว่าเขาถูกคุกคามอย่างไรบ้างในกระบวนการสอบสวนหาพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเอามาเสนอพวกท่านในชั้นศาล หวังว่าพวกท่านจะได้ช่วยป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดขึ้น และหวังว่าพวกท่านจะไม่ได้กลายเป็นส่วนร่วมของกระบวนการเหล่านี้เสียเอง