วันเสาร์, เมษายน 23, 2565

ชะรอยว่ายุคสมัยนี้ พระราชสำนักไทยอาจเผชิญกับการถูกกัดกร่อนความนิยมมากที่สุด นับตั้งแต่การสถาปนาพระบรมมหาราชจักรีวงศ์ในปี 2325 เป็นต้นมา ซึ่งดูแทบจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์พอๆกับช่วงการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475


Royal World Thailand - รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย added a new photo.
17h ·

ชะรอยว่ายุคสมัยนี้ พระราชสำนักไทยอาจเผชิญกับการถูกกัดกร่อนความนิยมมากที่สุด นับตั้งแต่การสถาปนาพระบรมมหาราชจักรีวงศ์ในปี 2325 เป็นต้นมา ซึ่งดูแทบจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์พอๆกับช่วงการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 ซึ่งเชื่อว่ามีประชาชนหลายคนที่ยอมรับ หรือปฏิเสธความมั่นคงอันลุ่มๆดอนๆของพระราชสำนักจากหลากหลายปัจจัยรอบทิศทาง ประกอบกับยุคสมัยนี้ที่เต็มไปด้วยความ “รักแรง เกลียดแรง” กับพลวัตทางความคิดและทัศนคติของคนเราในปัจจุบันที่เปิดเผยมากขึ้นเสมือนถูกปลดล็อคสกินเบิกเนตรรั้วสีทอง
ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า นับตั้งแต่เริ่มวชิรรัชสมัยเป็นต้นมา พระราชสำนักไทยเผชิญกับการที่ต้องรักษาเสถียรภาพและจุดยืนให้สถิตสถาพรกว่าครั้งไหนๆ ด้วยกระแสความไม่นิยมในองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่ใช่เพียงเหตุผลในเรื่องราวส่วนพระองค์อันเป็นที่โจษจัน อันกระทบต่อชื่อเสียงและพระเกียรติยศของพระราชวงศ์ที่สั่งสมในทางที่ดีมาอย่างยาวนาน แต่ยังรวมไปถึงการที่ถูกทำให้มองจากกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยว่า กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้เพียงนามธรรม มากกว่ารูปธรรม
วันเวลาผ่านไป สถาบันฯตกอยู่ในภวังค์แห่งความเกลียดชังเนื่องด้วยเหตุผลกลใดอาจทราบดีอยู่แล้ว ซึ่งผลที่ตามมาคือการแสดงผรุสวาทแสนโสมมเหนือจินตนาการ อีกทั้งพยายามหาทุกจุดเพื่อนำมาจุดประเด็นสร้างความเกลียดชังเสริมกระแสเชิงลบได้อยู่ตลอดเวลา ทั้งพระราชจริยาวัตร หรือรูปร่างหน้าตา แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆเกินจำเป็นก็ตาม รวมไปถึงการปรามาสเรื่องการดำรงพระองค์อยู่ในจุดที่เหมาะสม ที่แม้แต่กลุ่มที่จงรักภักดีบางครั้งอาจเถียงไม่ออกและอมพะนำให้กับสิ่งนี้
ขณะเดียวกัน กลุ่มคนที่รักสถาบันฯที่ต้องการแสดงความจงรักภักดีด้วยการปกป้องพระเกียรติยศจนมากล้นไม่แพ้กระแสเกลียดชังเช่นกัน ประดุจการประชันความเบียวจากกลุ่มประชาชนทั้งสองฝั่งเรื่อยมา จะเป็นอย่างไร หากถูกมองว่า การที่รักมาก การที่ “คิดเยอะ” และพยายามปกป้องมากเกินเหตุ กลับยิ่งเป็นการสุมไฟแก่กลุ่มกระแสเกลียดชังไปโดยไม่รู้ตัว?
เมื่อความศรัทธากลายเป็นความเปราะบาง และความอ่อนไหวจนอาจแทบจับต้องมิได้ ในที่สุดอาจทำให้ถูกมองว่า ราชอาณาจักรนี้มีพื้นที่ให้เพียงแต่ “ศรัทธา” หรืออาจจนถึงขั้น “งมงาย” จนอาจไม่มีพื้นที่ให้ตั้งคำถามหรือเคลือบแคลงสงสัย เป็นเช่นนี้แล้ว ราชสำนักจะถูกมองว่า ถูกกัดกร่อนความเสถียรภาพจากกลุ่มที่จงรักภักดีต่อสถาบันมากเกินไปเสียเองได้หรือไม่?
ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เกิดขึ้นเพราะการปฏิบัติพระองค์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาอันเป็นที่ประจักษ์หรือไม่เพียงใด ย่อมเป็นสิ่งที่ราชสำนักพยายามช่วยธำรงรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องราวส่วนพระองค์ ที่ราชสำนักไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชน และพยายามปล่อยให้เป็นเพียงเรื่องเล่าอ้างลือที่มาครั้งหนึ่งอาจผ่านไป ทั้งนี้ เรื่องราวส่วนพระองค์ถูกเปิดเผยจาก “กลุ่มรัก” หรือ “กลุ่มชัง” มากกว่ากัน สิ่งที่ราชสำนักแทบจะไม่ได้เปิดเผย จะถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการให้ทราบโดยทั่วกันหรือไม่
ยังไม่รวมไปถึงการกระทำอื่นๆจากกลุ่มที่ต้องการรักษาภาพลักษณ์ที่ดีแก่ราชสำนัก ที่ถูกมองว่ากระทำการเกินเลย เกินจำเป็น สิ่งนี้อาจกลายเป็นการกระทำเพื่อรักษาความสง่างามและสมพระเกียรติ ที่อาจแลกมาด้วยความขมขื่นและหม่นหมองลงไปอีกหรือไม่
แน่นอนว่า ราชสำนักเองยังคงสงวนท่าทีและจะไม่แสดงความเห็นใดๆต่อเหตุการณ์อันอื้ออึงที่ส่งผลต่อความแตกร้าวของฐานพระราชอาสน์ เนื่องด้วยยังคงทำหน้าที่ในการรักษาภาพลักษณ์ที่เหมาะสมดังเช่นพระราชสำนักประเทศอื่นๆ แม้ว่าผลตอบรับจากสาธารณชนจะเป็นไปในทางไหนก็ตาม
อย่างไรก็ดี ยังเป็นการดีที่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ซึ่งยังคงอยู่ในเส้นทางความนิยมอันถูกมองในหลากหลายแนวว่า ดีอยู่แล้ว หรือหัวเลี้ยวหัวต่อ หรือกำลังเสื่อมถอย ใช่ว่าจะทรงเมินเฉยต่อเรื่องราวเหล่านี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทรงแสดงให้เห็นว่ากำลังพยายามพยุงจุดยืนที่ประทับและพระราชศักยภาพของพระองค์เองให้มั่นคงต่อไปในแนวทางที่สามารถทรงพึงกระทำได้
แน่นอนว่าคนเราไม่มีดีที่สุด และไม่มีแย่ที่สุด หากแต่เมื่อสามารถดำรงพระองค์ให้สมกับการเป็นพระมหากษัตริย์ของปวงชนต่อไปได้ เวลาข้างหน้าจึงจะประทับพระราชอาสน์เต็มพระที่นั่งได้อย่างเต็มภาคภูมิพระราชหฤทัย สมบรมจักรีนาถ ปรเมนทรมหาราชวโรปการ ปรีชาไวยัตโยฬารสุรสังกาศ อุดมอาร์ชวีวีรยาธยาศรัย
หากทรงยึดมั่นในหน้าที่ดังพระปฐมบรมราชโองการมากเพียงใดตลอดรัชสมัย สุดท้ายแล้ว ประชาชนจะจดจำพระองค์ในแบบไหน เป็นสิ่งที่มิอาจขวางกั้นทรรศนะที่หลายหลากมากกว่ารัชกาลไหนๆได้ ที่มีต่อทศมราชกษัตรา มหันตเดชานุภาพบพิตร สืบไป...
----
THAI Monarchy may be in the most erosive standing during this era, ever since the establishment of the Chakri Dynasty in 1782. It seems as exceedingly grievous as the Siamese Revolution in 1932. Some people may recognise, and some may resist the instability of the Monarchy from various surrounded aspects. The crown is being placed among those who strongly love and hate, with their changing attitudes towards it.
It is widely known that the Thai Monarchy may have to secure the royal stability ever than before, due to the unpopularity towards the current monarch. Not only because of his personal life and affairs which affect the whole dignity that has been preserved for long time, but also the view as more abstract and less substantial reaching from the crown.
As the time has been passing by, the crown has been in the time of detestation due to the well-known causes. As a result, a profanity has begun which haters can bring it on even in simple or small little things, along with expletives about the individual’s personality and appearances unnecessarily. One of the biggest issues which is widely criticised is the royal appropriateness in public eyes, even some of the royal supporters could not fully oppose.
On the other hand, another group of people who show their most revered loyalty trying to protect the royal dignity, fanatically. Would this ‘too much’ fanatic fascination and protection also ignite the haters’ flows without notice?
Faith turns sensitive, sensitive turns fragile and led to an untouchable object. The institution would soon be restricted only for ‘faith’ which could led to ‘besotted’ aspect in the kingdom, and questioned and distrustful aspect are strictly prohibited. Would the institution be considered bitten from their own supporting sites themselves?
It is widely known that things have happened are caused by the ‘royal behaviour’ seen during the times in public either positively or negatively over the years. The royal court has been trying to preserve for the royal honour from all talked-about issues, particularly any private matter which has never been officially revealed and led it be vanished by the time. It is mostly revealed by ‘royal haters’ or ‘royal supporters’?
Would things which has never been disclosed be finally publicised in official term in the future? Apart from those, would some immoderate actions from the royal supporters be profitable to the more disgraceful dignity of the royal family?
The Royal House has had no opened action towards any incidents which affect the fracture of the throne. Whatever the public reactions are, the Royal Family has still been kept to preserve as the highest honour, similarly to other royal families around the world.
The King, himself, acknowledges well about the current situation throughout his reign, of which his prestigious fame is either considered going well, or deteriorated. At the present time, he seems changed a bit to maintain his potentiality as monarch as much as he can. We would see in the future if he could put himself being on the throne with a full pride without any hesitation for the rest of his life. And we would see how the King would be recognised with the variety of public attitude in the modern era.
.....
ความเห็นในโพสต์

การให้....การมีความกรุณาปราณี...ความมีเมตตาและความโอบอ้อมอารีย์...การดูแลทุกข์-สุข...ด้วยหัวใจ....
จะได้ใจ...ผู้ที่ได้รับเอง....
ยิ่งให้.....ยิ่งได้......
ยิ่งกอบโกย...ยิ่งเกลียดชัง
..
ยกเลิก 112 ปล่อยนักโทษทางความคิดทุกคนสิ จะกลับมารักเป็นคนแรกเลย รังแกคนด้อยกว่าแบบนี้ ยังอยากให้คนรักอยู่เหรอ
..
สนิมเกิดเเต่เนื้อ ในตน

อ่านความเห็นต่อได้ที่
https://www.facebook.com/royalworldthailand/posts/4740801746024841