วันพุธ, เมษายน 20, 2565

บอย อนันต์ โลเกตุ นักศึกษารามคำแหง จำเลยคดีประชามติ นักเคลื่อนไหวสายรามฯ เสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้ ไปสู่ภพภูมิที่ดี ทางนี้พวกกูจะสู้ต่อเอง - อานนท์ นำภา


อานนท์ นำภา
19h ·
บอย อนันต์ โลเกตุ นักศึกษารามคำแหง จำเลยคดีประชามติ นักเคลื่อนไหวสายรามฯ เสียชีวิตแล้วนะครับเมื่อคืนนี้
ไปสู่ภพภูมิที่ดี ทางนี้พวกกูจะสู้ต่อเอง
...
นักกิจกรรมการเมืองถูกพบแขวนคอเสียชีวิตที่โคราช-ยังไม่ทราบมูลเหตุที่แน่ชัด

'บอย' อนันต์ โลเกตุ นักกิจกรรมการเมือง อายุ 27 ปี

พบศพ ‘บอย’ อนันต์ โลเกตุ นักกิจกรรมการเมืองวัย 27 ปี และเคยรณรงค์ Vote No ประชามติ รธน.ปี’60 อยู่ในลักษณะแขวนคอที่ศาลารอรถข้างที่ว่าการ อ.เฉลิมพระเกียรติ เมืองโคราช หลังหายตัวไปตั้งแต่ 18 เม.ย. 65 เบื้องต้น คนรอบตัวยังไม่ทราบมูลเหตุที่แน่ชัด

19 เม.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวอ้างรายงานจากแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก กลุ่มสาธารณะ ‘ฝนหน่วยกู้ภัยผี แกล้วทนงค์’ โพสต์ข้อความเมื่อเวลา 14.11 น. ระบุว่า พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ภายหลังทราบชื่อว่า อนันต์ โลเกตุ หรือบอย นักกิจกรรมทางการเมือง อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด โดยการผูกคอที่ศาลารอรถข้างที่ว่าการ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 03.42 น. หลังผู้เสียชีวิตหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา

หลังจากนั้น หน่วยกู้ภัยฮุก 31 เฉลิมพระเกียรติ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และตำรวจร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ยุทธนา ลุนสำโรง ผู้ประสานงานเครือข่ายพื้นที่อีสานตอนล่าง พรรคก้าวไกล ผู้พบเห็นอนันต์ก่อนหายตัวไป ให้สัมภาษณ์กับประชาไทหลังเข้าสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องนอนที่โรงแรมใน อ.เมืองนครราชสีมา กับอนันต์

ยุทธนา กล่าวว่า ครั้งสุดท้ายที่เขาพบเห็นอนันต์ คือก่อนเช็กเอาต์จากโรงแรมในวันที่ 18 เม.ย. 65 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่พรรคก้าวไกล จัดงานสัมมนาว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อทีมงานจะเดินทางกลับ กลับไม่พบอนันต์ เห็นแต่เพียงข้าวของส่วนตัว ทีมงานจึงมีการค้นหาตัว และได้ไปแจ้งความคนหายไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งเวลาราว 04.00 น.ของวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่มีการพบศพแขวนคออยู่ที่ศาลารอรถข้างที่ว่าการ อ.เฉลิมพระเกียรติ ห่างจาก อ.เมืองนครราชสีมา ประมาณ 30 กม.


อนันต์ โลเกตุ หรือบอย (คนที่ 2 จากซ้าย) นักกิจกรรมทางการเมือง อายุ 27 ปี ชาวร้อยเอ็ด

ข้อมูลการชันสูตรขั้นต้น ณ ที่เกิดเหตุ จากคำบอกเล่าของยุทธนา ระบุว่าร่างกายผู้ตายมีบาดแผลเล็กน้อยเหมือนรอยขีดข่วนแต่ไม่ลึก เนื้อตัวมอมแมม ตัวเปียก อาจจะเพราะว่าเมื่อคืนมีฝนตกหนักในบริเวณดังกล่าว แต่สาเหตุของการเสียชีวิตยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากอะไร เป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม

ศพของอนันต์ ถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ โดยในเวลา 15.30 น. ญาติของอนันต์ เดินทางถึงโรงพยาบาลเพื่อดูศพ และจะเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม แม่ของอนันต์ (ไม่ประสงค์ออกนาม) กล่าวสั้นๆ ว่า อนันต์ไม่มีประวัติขัดแย้งกับใคร และไม่มีประวัติอาการป่วยทางจิต

ยุทธนา กล่าวว่า เขารู้จักกับอนันต์ มานานตั้งแต่เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง โดยอนันต์ เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนตนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จะพบกันตามงานกิจกรรมทางการเมือง จนกระทั่งมาพบกันตอนทำงานด้วยกันที่พรรคก้าวไกล โดยอนันต์ ทำงานอยู่ที่ส่วนกลาง และได้มีโอกาสเจอกันอยู่บ้าง และเท่าที่ทราบเป็นการส่วนตัวและจากเพื่อนร่วมงาน ก็ไม่พบว่าอนันต์ มีประวัติบาดหมางกับใคร หรือมีสัญญาณของการป่วยทางจิตที่จะนำไปสู่การเสียชีวิต

“น้องไม่เคยมีประวัติทะเลาะวิวาท เวลาอยู่ด้วยกันเหรือเพื่อนร่วมงานแวดล้อมก็บอกว่าไม่มีภาวะซึมเศร้า ไม่เห็นภาวะเครียด เรื่องส่วนตัวที่คุยก็ไม่เคยปรากฏภาวะเครียด ถ้าฆ่าตัวตาย เท่าที่ข้อมูลที่ผมมี เท่าที่ถามเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดรวมถึงตัวผมเอง ไม่มี วันก่อนที่จะหายกันก็ยัง hang out สนุกสนาน ไม่ซึม ไม่เครียด หรือพูดอะไรออกมา”

“[ตอนที่หาย] พยายามภาวนาว่าไม่ให้เป็นอะไร คงกลับบ้านหรือแบตหมด แต่พอรู้ตอนเช้า ได้ข้อมูลจากทางพี่ตำรวจ เขาบอกว่าใส่กางเกงขาสั้น มีมอเตอร์ไซค์ [ต่อมาทราบว่าเป็นของพนักงานแถวนั้นที่มาจอดไว้] แต่ชื่อเดียวกัน อนันต์ โลเกตุ เราก็ภาวนาว่าอย่าใช่เลย พอไปดูที่เกิดเหตุ ก็ใช่”

“ทุกคนก็เศร้า เพราะมันเร็วมาก สิ่งที่คิดอยู่ตลอดคือมันมีอะไร ทำไมไม่บอก เพราะเราก็คุยกันแทบทุกเรื่อง หรือว่าเป็นเราที่ไม่ถามให้ลึกลงไป” ยุทธนา กล่าว และยังตั้งข้อสงสัยถึงมูลเหตุการตาย เนื่องจากทรัพย์สินมีค่าติดตัวก็ยังอยู่ครบ และที่เกิดเหตุก็เป็นถนนใหญ่ที่เป็นทางไป จ.บุรีรัมย์ ซึ่งก็ไม่ใช่ทางกลับบ้านของอนันต์ และไม่ใช่ที่ลับตาคน

อนันต์ เคยเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองสมัยเป็นนักศึกษา เคยร่วมรณรงค์การ Vote NO ในการลงประชามติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เมื่อ 23 มิ.ย. 2559 ที่ตลาดเคหะบางพลี จ.สมุทรปราการ ต่อมาถูกตำรวจและทหารควบคุมตัวและตั้งข้อหาฝ่าฝืน และตกเป็น 1 ใน 7 จำเลยในข้อหาฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559

ต่อมา อนันต์ยังเป็นหนึ่งในห้าผู้ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ อีกครั้งเมื่อถูกจับกุมจากการติดรถเดินทางไปยัง จ.ราชบุรี โดยรถคันดังกล่าวบรรทุกสติกเกอร์ Vote NO ไปด้วยเมื่อปี 2559 เป็นคดีเดียวกันกับที่ นายทวีศักดิ์ เกิดโภคา อดีตผู้สื่อข่าวประชาไท ถูกดำเนินคดีในฐานความผิดเดียวกันหลังติดรถไปทำข่าว โดยต่อมา ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องทั้งสองคดี

ที่มา ประชาไท