วันพฤหัสบดี, เมษายน 21, 2565

เราตลกมาก ที่มีคนมาบอกว่า "เราเชียร์มิลลิเพราะน้อง เป็นสามกีบด้วยกัน" พวกเดียวกัน สนับสนุนกันใช่ไหม เราอยากจะบอกว่า มันไม่ใช่เลยอ่ะ


นางฟ้า ประชาธิปไตย
18h ·

__________เราตลกมาก_________
ที่มีคนมาบอกว่า
"เราเชียร์มิลลิเพราะน้อง
เป็นสามกีบด้วยกัน" พวกเดียวกัน
สนับสนุนกันใช่ไหม เราอยากจะบอกว่า มันไม่ใช่เลยอ่ะ

แต่เป็นเพราะความคิดความอ่านของเยาวชนไทยวัย 19 ปีคนนี้มันยิ่งใหญ่มาก จนเราเห็น Passion ในทุกคำพูด ในแววตาของเขา ประกอบกับโอกาสที่เขาได้รับ ที่โคตรประจวบเหมาะในจังหวะชีวิตของเขา ทำให้เราอยากสนับสนุนเด็กไทย (ทุกคนแหละ เพราะเด็ก T-POP ศิลปินอื่นๆ เราก็เคยเขียนบทความถึงอยู่บ้างครับ)

1) มุมมองของมิลลิที่พูดห้วงสั้นๆถึง ฐานะที่ตัวเองอยากไปบนเวทีระดับโลก Go Inter คือการให้เกียรติตัวเอง อยากใช้ชื่อของตัวเองในฐานะคนไทย และยังให้เกียรติค่ายที่ปั้นเธอมา Yupp! Entertainment ซึ่งมันสะท้อนว่า เธอคงผ่านอะไรมาเยอะ สู้อะไรมากับค่ายที่ดูแลเธอมา ลงทุนกับเธอมา พร้อมความสามารถของตัวเธอ ทำให้เธอมีทุกวันนี้บนเส้นทางดนตรีที่เธอรัก

2) การพูดถึงความเชื่อมั่นที่มองเห็นคุณค่าของภาษาไทย และอยากพามันไปสู่สากล คือเรื่องที่เรามองว่า Amazing เพราะจริงๆ การไป Go Inter มุมมองคนไทยหัวเก่ามักจะมองถึงการทอดทิ้งภาษาบ้านเกิด (mother tongue) เพื่อก้าวสู่ความเป็นค่านิยมสากล ดู inter มักถูกเชื่อกันว่าต้องใช้ภาษากลางของโลก เพื่อเข้าถึงตลาดสากล ให้ได้รับการยอมรับในตลาดโลก แต่มิลลิเชื่อมั่นในการเอาภาษาไทยไปใช้งานในเพลงของเธอ หากเธอมีโอกาสได้หยัดยืนในเวทีสากล ผลักดันอัตลักษณ์ทางภาษาออกมาให้โดดเด่นแตกต่างในตลาดอุตสาหกรรมเพลง แต่ความคิดความอ่านน้องมันล้ำไปไกลมากแล้ว ไร้กรอบทางภาษา เอาภาษาแม่ไปใช้ให้มันสากลไปเลย

3) ทั้งหมดนี้ที่เธอพูด เกิดขึ้นก่อนวันที่เธอจะได้ไปขึ้นเวทีระดับโลกเสียอีก และเธอก็ Rap โดยการใช้ภาษาไทยร่วมจริงๆ เธอมั่นใจ และยืนหยัดในสิ่งที่เธอเชื่อว่า ภาษาไทยเรามีก็ Worldwide ได้นะ สิ่งที่พูดไว้ถูกทำจริงบนเวที พร้อมโชว์กินข้าวเหนียวมะม่วง และนำเสนออีกหลายๆประเด็นคนความเป็นไทยที่แทรกซึมอยู่ในเนื้อหาของการ Rap

4) จริงๆการที่ศิลปินไทยได้ขึ้นโชว์ในเวทีสากล เราว่ามันยิ่งใหญ่มากพอที่จะแสดงอิทธิพลในระดับโลกแล้ว โดยที่ไม่ต้องพยายามแบกความเป็นไทย (ซึ่งความเป็นไทยคืออะไรบ้าง ทุกวันนี้กูยังไม่แน่ใจเลย) การเป็นคนไทยนี่แหละ ที่ได้มีพื้นที่หยัดยืน ได้แสดงต่อหน้าคนทั้งโลก นี่มันก็เป็นความภูมิใจของคนไทย และเป็นการสร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรมเพลงสู่ตลาดโลกที่เรียกว่า Soft Power ได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว

5) เรามองว่า การนำเสนอของมิลลิไม่ได้จะขนความเป็นไทยไปโชว์ แต่เป็นการคิดโชว์ที่สื่อสารถึงสิ่งที่เธออยากบอกกับสังคม และให้โลกทั้งใบรู้จักตัวตนของเธอ วิธีคิดของเธอผ่านเพลง และท่อน Rap มากกว่า ไม่ใช่การโชว์ความเป็นไทย แต่เป็นการโชว์มุมมองของเธอผ่านดนตรี "เธอมองประเทศที่เธออยู่อย่างไร ในฐานะนักร้อง Rapper จากประเทศไทย" เธอไม่ได้พยายามยัดเยียดโชว์ความไทยจ๋า และต้องพยายามไทยอะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างที่เป็นไทย มันอยู่ในตัวเธอ ในความเป็นคนไทยของเธอเอง

6) สิ่งที่เราชื่นชมมากๆคือเธอเชื่อเรื่องการสนับสนุนจากรัฐ ที่จะทำให้ศิลปะบ้านเรางอกงามทุกแขนง เพราะจริงๆคำว่า "การสนับสนุน" = การปลดล็อกทางวัฒนธรรม ที่ทำให้วิถีชีวิตประชาชนได้สร้างสรรค์ และรับการส่งเสริมการลงทุนจากเงินสนับสนุนของรัฐบาลไทย เอาภาษีไปใช้กับการอุดหนุนให้ภาคเอกชนมีแรงขับเคลื่อนทำงานศิลปะ ให้คุณค่ากับสิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้แสดงออกสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ประเทศที่รัฐไม่ให้คุณค่ากับความคิดสร้างสรรค์ เราหวังสร้าง Soft Power ไม่มีวันสำเร็จ เพราะวัฒนธรรมประชาชนไม่สามารถถูกผลักดันไปสู่สากลได้เลย (นอกจากไปด้วยต้นทุนความสามารถ และกำลังเงินของตนเอง)

7) ในประเทศของเรามีศิลปินไทยเก่งๆเยอะมาก ที่รัฐควรหันมามองและให้การสนับสนุนเพื่อผลักดันศักยภาพศิลปิน และลงทุนเพื่อให้พวกเขามีเวที และสร้างตลาดให้อุตสาหกรรมบันเทิงบ้านเราสามารถเติบโต แข่งขันได้ มันไม่ใช่แค่เรื่องของมิลลิ แต่มันคือเรื่องของวงการเพลง และวงการบันเทิงทั้งวงการ ที่วันนี้คุณควรลุกขึ้นตั้งคำถาม แบบที่มิลลิคิดนั่นคือ "รัฐบาลทำอะไรอยู่? เมื่อไหร่จะผลักดันสนับสนุนให้ศิลปะของประชาชนเจริญงอกงามกว่าที่เป็นอยู่"

ขอให้โอกาสความสำเร็จเป็นของคนไทยได้มีพื้นที่หยัดยืนสร้างสรรค์ความงดงามของศิลปะ และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างจริงจังเสียที

IG : Tootsyreview
TW: ThinkTalkLoud
#ตุ๊ดส์review
#ThinkTalkLoud

ภาพ : มิลลิกับรางวัล Best New Asian Artist Thailand จากเวที 2020 Mnet Asian Music Awards หรือ 2020 MAMA ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้ศิลปินเกาหลี รวมไปถึงมอบให้ศิลปินเอเชียจากหลายประเทศที่มีผลงานโดดเด่น