วันอาทิตย์, เมษายน 24, 2565

โตโต้ ปิยรัฐ เขียนถึง เหตุการณ์ความรุนแรงจากฝ่ายขวาอันธพาลสุดโต่ง ที่ชอบอ้างสถาบันกษัตริย์มาใช้ความรุนแรง พวกนี้มีคนอยู่เบื้องหลัง และคอยสะสางเรื่องคดีให้


โตโต้ ปิยรัฐ - Piyarat Chongthep
9h ·

#สวัสดีประชาชน
เหตุการณ์ความรุนแรงจากฝ่ายขวาอนุรักษ์นิยมสุดโต่งเพียงไม่กี่คนเมื่อวันที่ 22 เมษายน 65 วานนี้ ที่เริ่มรวมตัวกันแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อใช้กำลังกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวปฏิรูปสถาบันฯเพียงไม่กี่คน อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 ราย ในเวลาต่อมาประชาชนและสื่อมวลชนในพื้นที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้ทันควัน
.
นี่ถึงขนาดพกพาอาวุธมาฟาดฟันประชาชน สื่อมวลชน และเด็กนักเรียนเยาวชนได้นี้คือ ไม่อยากเชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นตัวแทนของกลุ่มที่อ้างว่ามาปกป้องสถาบันกษัตริย์
.
ผมเคยแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งว่า พวกคนที่มักอ้างสถาบันกษัตริย์แล้วมาใช้ความรุนแรงพวกนี้ เนื้อแท้แล้วคือพวกที่ทำลายสถาบันเสียเอง ไม่ใช่การส่งเสริมพระเกียรติยศแต่อย่างใด และหากถามว่าใครควรต้องข้อกล่าวหาว่าดูหมิ่นพระมหากษัตริย์มากที่สุด ก็คงต้องตอบว่า “เหล่าคนดีที่เลือกวิถีอันธพาลพวกนี้ละ”
.
แน่นอนว่า พวกเขาจะไม่กล้าหาญอวดเบ่งได้ขนาดนี้หากไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง และคอยสะสางเรื่องคดีให้ เท่าที่ผมทราบว่าเรื่องนี้ต้องถามไปถึง ผู้กำกับ สน.สำราญราฎร์ ว่าท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่ เหตุใดจึงปล่อยให้กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้พื้นที่ของท่านในการรวมตัว ทั้งก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ มิหนำซ้ำยังไม่ได้มีการนำกำลังตำรวจในพื้นที่เข้าผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ให้สลายตัวก่อนเหตุบานปลาย จะอ้างว่าการข่าวไม่ทราบมาก่อนก็คงแก้ตัวไม่ขึ้น
.
ผมเองยังพอทราบมาว่าเรื่องนี้ เป็นความจงใจของคนมีสี ไม่ใช่เหตุบังเอิญ และหลังจากนี้พวกเขาจะเลือกใช้วิธีการนี้ในการขัดขวางกลุ่มประชาชนที่ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน โดยเฉพาะการเลือกทำกิจกรรมในวันที่มีขบวนเสด็จ
.
ผมจึงต้องขอเตือน และแนะนำไปยังกลุ่มนักเคลื่อนไหวและนักกิจกรรมหลายๆคนว่า สิ่งที่อำมหิตกว่ากลไกอยุติธรรมจากอำนาจรัฐ คือกลไกมาเฟียสายเทา สายดำขององคาพยพพวกเขาล้วนแต่ถึงกันหมดอยู่ที่จะเลือกใช้รูปแบบ และวิธีการใด รอเพียงคนเสนอ ก็พร้อมมีคนสนองให้กันเสมอ ฉะนั้นเราต้องไม่ประมาท และหาวิธีป้องกันอันตรายจากพวกอันธพาลเหล่านี้กันอย่างจริงจังและรอบครอบ เช่น พยายามเลี่ยงกิจกรรมที่ดึกจนเกินไป หรือ หากจบกิจกรรมแล้ว ผู้จัดกิจกรรมไม่ควรประกาศว่าจะยังไม่กลับจนกว่าพี่น้องประชาชนจะกลับบ้าน เพราะตามความจริง พี่น้องประชาชน รวมถึงสื่อมวลชนส่วนหนึ่งก็จะยังไม่กลับจนกว่าแกนนำหรือผู้จัดกิจกรรมจะเดินทางออกจากพื้นที่นั่นเอง ต่างคนต่างรอกันกลับนั่นถึงเป็นสัญญาณให้ผู้ก่อเหตุทราบว่าเป้าหมายยังอยู่ในพื้นที่ ดังนั้น ตกลงกันให้ดี ในเรื่องกำหนดการ และแผนกิจกรรม ไม่ควรมีใครต้องตายเพียงเพราะคิดเห็นต่างกัน และฝ่ายประชาธิปไตยมักตายเป็นฝ่ายแรกๆเสมอ
.
มันควรหมดไปเสียทีกับการที่เราเป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอด หากเลี่ยงได้ต้องเลี่ยงในสถานการณ์ที่เราประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงหรือตกเป็นรอง เพราะแน่ชัดแล้วว่ามีการพยายามใช้บริการอันธพาลอย่างที่กฎหมายไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้
.
โตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ
23/04/65