เรื่องที่ต้องตามจับโป๊ะ กกต.ให้มั่น เพราะมันออกลายให้เห็นแล้วว่านายบ่าวเหมือนกันหมด เรื่องใช้เงินใช้ทองของหลวงของรัฐเนี่ยชอบนัก “ขอบคุณ พูติกาล ศายษีมา ค้นมาให้ดู” ดัง Atukkit Sawangsuk อ้างถึง “ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง...
แม่-หักจากเงินอุดหนุนพรรคการเมืองปี ๒๕๖๓ ของพรรคเพื่อไทยไว้ ๙,๖๘๓,๗๕๕.๑๒ บาท บอกว่าถ้ามีคำพิพากษาถึงที่สุดไม่ต้องรับผิด จะจ่ายคืน” ตอนนี้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ยกคำร้องคดี กกต.แจกใบส้มสุรพล เกียรติไชยากร ไปแล้วเมื่อกันยา ๖๓
เงินที่ต้องจ่ายคืน ๙ ล้านกับอีกเกือบ ๗ แสน จะเอามาจากไหน บวกกับอีก ๗๐ ล้านที่สุรพลชนะในคดีแพ่ง เขาถามซ้ำ “งั้นใครรับผิดชอบความเสียหายค่าเลือกตั้งใหม่ จะไล่เบี้ย กกต.ให้รับผิดทางละเมิดได้ไหม” Saiseema Phutikarn อธิบายเพิ่ม
ว่า ‘การจัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมือง’ ควรโปร่งใสมากกว่านี้ “มีการเปิดเผยตารางคำนวณว่าแต่ละพรรคทำไมได้เงินแต่ละปีเท่าไหร่ ไม่ใช่เหมือนปัจจุบันที่ในเว็บ กกต. ข้อมูลย้อนหลังยังไม่มีเลย” เขาเองต้องเสาะค้นเอาจากเว็บสื่อ
แล้วเจอความไม่ชอบมาพากล ที่ว่า “ทำไมพรรคภูมิใจไทยถึงได้มากกว่าพรรคเพื่อไทยเท่าตัว”ทั้งที่ “ปัจจัยที่จะทำให้ได้เงินจัดสรรสองพรรคนี้ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แถมเพื่อไทยจะเหนือกว่าด้วยในเรื่องเงินบริจาคจากผู้เสียภาษี”
และที่ผ่านมาเพื่อไทยยังได้เงินสนับสนุนมากกว่าภูมิใจไทยทุกปี จู่ๆ เกิดเปลี่ยนแปลงไม่รู้อิโหน่อิเหน่ โดนจี้ขนาดนี้ ไฉน กกต.ยังเงียบกริบ เป็นทองไม่รู้ร้อนซะงั้น
(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/5149101631838291)