‘คอนเสิร์ตบิ๊กเมาท์เท่น’ เขาใหญ่ เป็นที่โจษจัน ไม่ใช่เพราะขัดใจผู้ว่าฯ โคราชสั่งห้ามแล้วยังจัด หรือจัดโดยรักษาระเบียบป้องกันโควิด บอกคนร่วมงานนั่งดูเฉยๆ ห้ามลุกขึ้นเต้น แต่แล้วตอนท้ายพากันลุกขึ้นยืนเขย่าชูสามนิ้วกันทั้งงาน
จุดเด่นคราวนี้อยู่ที่เป็นอีกรายการ ซึ่งแฉถึงความ ‘หัวมงกุฏท้ายมังกร’ ของเจ้าหน้าที่รัฐไทย ภายใต้อำนาจสืบทอดจากรัฐประหาร ช่วยให้การ “แยกแยะอะไรเป็นข่าวดีข่าวไม่ดี” ได้ง่ายและชัดเจน โดย “ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์” ใดๆ
ในเมื่อ “ไม่ไกลจากงานบิ๊กเมาเท่นท์มิวสิคเฟสติวัลที่ตีนเขาใหญ่ มีงานฤดูหนาวปากช่องหน้าโรงงานทอกระสอบใกล้ตัวอำเภอ ที่ผู้ว่าฯ คนเดียวกันที่สั่งเลิกงานแรก แต่ตอนเย็นไปเปิดงานที่สอง และขึ้นเวทีมอบของสโมสรไลอ้อน”
แถม “ไม่ใส่แมสก์ปิดปากใดๆ จนมีคนเข้าไปทักท้วงในไลฟ์สด” เช่นกันกับงานกาชาดที่อุดร และงานมรดกโลกที่อยุธยา...คนแม่มแน่นจนเดินแทบไม่ได้ โควิดน่าระบาดมากกว่า #BMMF11 อี๊ก แต่ไม่โดนหรอกเพราะราชการจัดเอง”
แม้กระทั่งงาน “เป็นสง่าแห่งแคว้น” (คำของอนุทิน ชาญวีรกูล) ที่ราบ ๑๑ พระเจ้าอยู่หัวกับราชินี “ทรงพบปะ เยาวชน ที่มาเข้าค่าย LOVE Camp ๓ วัน ๒ คืน” ก็ไม่เห็นมีการรักษาระยะห่างหรือว่าสวมหน้ากากอนามัยกันสักคน (สงสัยเขา ‘sanitized’ ทำลายเชื้อโรคไว้แล้วทั้งค่าย)
แล้วยังรองผู้ว่าฯ “ทำหนังสือถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาและผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากช่อง ให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้เกี่ยวข้อง” มิน่า WNK @NicKoWaaa ถึงว่า “ประเทศส้นตีน มีแต่เรื่องสองมาตรฐาน”
หยวนๆ กันไปประเทดไตแลนเดีย ได้รับคำชมเชยว่าจัดการป้องกันโควิดแพร่ได้ยอดเยี่ยม ความน่ากลัวของโรคระบาดนี้ไม่มากเท่าไรสำหรับคนไทย แต่ว่ามีใครสังเกตุกันบ้างหรือเปล่าว่า นี่หลังจากโควิดซาลงไป คุณน้องฝุ่นจิ๋ว พีเอ็ม ๒๕ กลับมาอีก
ค่าฝุ่นวันนี้ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ๑๕๕ เป็นภัยต่อสุขภาพ มิน่า Pitch Pongsawat ถึงได้เย้า “ยังไงหล่ะครับ คงพึ่งพีเอ็มอย่างเดียวในการไล่ม็อบหล่ะมั้ง” ไม่อย่างนั้นน่ะสิ อันนี้มันบ่อนทำลายชีวิตได้ในระยะยาว หากปล่อยให้กลับมาทุกฤดูกาล
อีกอย่าง ความเด่นของคอนเสิร์ต #BMMF11 ซึ่งหลายวงดนตรีประชันกันมันย่อง ขณะเพลงที่ฮิตมาก่อน ‘๑๒๓๔๕ ไอเฮียตู่’ ยังตะโกนร้องคลอกันกระหึ่ม ‘Sweet Mullet’ เพิ่มใหม่เอี่ยม แบกผ้าห่อศพขึ้นเวที รำลึกการเสียชีวิต dissidents ไทยในลาว
ศิลปะปลดแอก - FreeArts เขาจึงได้บอกว่า “ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว” เพราะข่าวพวกนี้ (ศพมัดกระสอบขึ้นอืดบนแม่น้ำโขง ถูกคว้านท้องยัดแท่งคอนกรีต) ที่พูดกันปากต่อปากมานานปี คืนวานนี้ถูกแบกขึ้นเวทีอย่างโดดเด่น
หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วไปอยู่บนอนุสาวรีย์สฤษดิ์ ขอนแก่น ต่อนี้ไปหุ่นศพตราสังข์เช่นนี้จะปรากฏในที่สาธารณะ บนเวทีหรือกลางม็อบ เช่นเดียวกับรูปใบหน้ายิ้มสดชื่นของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏในม็อบเยาวชนบ่อยครั้ง
เพื่อแสดงให้ประชากรทั้งในไทยและทั่วโลกรับรู้ ว่าความโหดร้ายที่เกิดกับผู้เห็นต่างในรัฐไทยเหล่านี้ ไม่ใช่วิชาเรขาคณิต ไม่มี ซ.ต.พ. “ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเอง” ต่อนี้ไป “ทุกคนตัดสินเอาเอง” ได้ ตามหลักฐานที่ปรากฏ
แม้ “ไม่เคยโฆษณา” แต่มันมาเองแล้ว และกำลังพรั่งพรู
(https://www.bbc.com/thai/55296173, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2631423543817188 และ https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/10158959896453582)
