วันพุธ, สิงหาคม 12, 2563

ถ้า #สลิ่มปริ่มโคลน โวยวายว่า ‘ก้าวล่วง’ ละก็ อภิปราย มธ.รังสิต คืนก่อน "จะใช้ระงับอาการเน่าเละของบัวใต้น้ำได้ชงัด"

ลงถ้าบรรดาสลิ่ม (บ้างก็ปริ่มน้ำ บ้างปริ่มโคลนตม) ออกมาโวยวาย ว่าการปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ที่ลานพญานาคศูนย์รังสิต มธ.เมื่อคืนก่อน ว่า ก้าวล่วง ละก็ แสดงว่าของเขา แรงจริงน่าจะใช้ระงับอาการเน่าเละของบัวใต้น้ำได้ชงัด

ถ้อยของ เพ็นกวินตอบ หญิงหน่อยไม่ใช่การถอนหงอกอย่างที่ไทยโพสต์ป้ายหมึกไว้ให้เปื้อนกระดาษ แต่เป็นการเสริมสัมปชัญญะให้แก่ ป้าว่าคนรุ่นใหม่อยู่ในโลกสากลของศตวรรษที่ ๒๑ ไม่ใช่ไตแลนเดียยุคกึ่งพุทธกาล

“การปราศรัยของเราเป็นไปตามหลักเสรีภาพ ไม่ได้ก้าวล่วง ไม่มีคำใดเลยเป็นความเท็จ เป็นความจริงว่าด้วยปัญหาที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่กล้าพูดถึง แต่ซุกไว้ใต้พรมมาตลอด” ขอให้พรรคการเมืองที่อ้างว่าอยู่ข้างประชาธิปไตยพูดอย่างนั้นบ้าง

คำเตือนของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยังไม่เฟะเท่าของโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ราเมศ รัตนะเชวง ที่ทำเป็นเรียกร้องให้การชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาอยู่ในกรอบกฎหมาย แต่อาการที่แสดงออกมากลับเป็นท่าทีเดิมๆ “เอาดีใส่ตัว”

ทั้งที่ ปชป.เวลานี้ก็แค่พรรคลูกเมียน้อย การยอมรับระดับมหาชนหดหายลงไปทุกวัน ยังอุตส่าห์พยายามสร้างปมเขื่องให้ตัวเอง “ตัวผมนั้นเชื่อและศรัทธาในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้าก้าวล่วงสถาบันก็ต้องถือว่าเราอยู่คนละข้างกัน

อันนี้ ธนาพล อิ๋วสกุล ฟ้าเดียวกันเหน็บไว้ให้ช่วยกันฟัง “ฝ่ายนิยมเจ้าจะกลัวไปใย การปราศรัยเมื่อคืนวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ ยังไม่มีใครเสนอ รีพับลิค สักคน...แปลว่าเขายังมีที่อยู่ ที่ยืนให้กับสถาบันกษัตริย์ ส่วนพวกจะเป็นจะตาย คือพวกหากินกับเจ้า”

น่าสังเกตุว่าพวกนี้ สลิ่มปริ่มโคลนตมอย่างเหรียญทอง จุลเจิม หรือแสวงการ (คู่ขาสมหญิง) กลับไม่แตะพวกเด็กๆ กลัวโดน ถอนหงอก ตามภาษาถนัดของไทยโพสต์ก็ได้ พวกนี้กลับหันไปเล่นงาน ผู้บริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แทน

สมชายว่าเป็นการ “ปล่อยให้มีเสรีภาพเกินขอบเขต” (มีแต่คนถามว่าขอบเขตของใคร) และว่าข้อเสนอเป็นการ จาบจ้วง ละเมิดต่อสถาบัน เชื่อมั้ยเด็กต้องว่าพูดแบบปัญญาอึ่ง ก็น่าเห็นใจรองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนฯ ถึงกับยืนไม่ติด

ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ต้องรีบแถลงว่าในใบอนุญาตให้จัดชุมนุมระบุ เนื้อหามีเพียงข้อเรียกร้อง ๓ อย่าง แก้ รธน. ยุบสภา และอย่าคุกคามประชาชน แต่ “ปรากฏเนื้อหาบางส่วนที่อาจจะเลยขอบเขตไป” ตนจึงขออภัย และ “น้อมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น”

ทางมหาวิทยาลัยก็ออกแถลงการณ์มาเสริมว่า เนื้อหาอภิปรายพาดพิงกษัตริย์ เกินกว่าขอบเขตนั้นเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล ที่ ใครไม่ใช่นักศึกษา มธ.มหาวิทยาลัยจะ ให้ความร่วมมือผู้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการ ส่วนนักศึกษาจะถูกจัดการตามข้อบังคับมหาวิทยาลัย

ขณะที่ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ประกาศเช่นกันว่า “ว่าประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ขัดต่อกฏหมาย แต่เป็นการแสดงออกซึ่งสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และกติการะหว่างประเทศ”

ถึงกระนั้น กลุ่ม #ธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศงดการชุมนุมในวันที่ ๑๒ สิงหา ให้เหตุผลว่าได้รับรายงาน “อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาก่อความไม่สงบ” แต่ใครที่ตั้งตาจะไปร่วมวันที่ ๑๒ ไม่ต้องสลดหดเหี่ยว ในเมื่อแถลงแจ้งต่อว่า

“แต่ทางเราก็ยังมีเซอร์ไพร้ส์สำหรับวันพรุ่งนี้ (วันนี้)” ขอให้โปรดติดตามชม ถ้างั้นต้องปูเสื่อรอ เช่นเดียวกับการชุมนุมที่รามฯ วันที่ ๑๔ และงานใหญ่ กรังเด ที่ถนนราชดำเนินวันที่ ๑๖ ไปดูกันสิว่าจะดั่งโฆษกกลาโหม ดีดไข่ใส่ขม ไว้

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ พูดถึง ๑๐ ข้อของกลุ่มธรรมศาสตร์ไม่ทน ว่า “การชุมนุมที่แฝงไปด้วยข้อเรียกร้องที่ล่อแหลม และละเอียดอ่อนดังกล่าว จึงอาจนำมาซึ่งการเผชิญหน้าและเป็นอันตรายต่อความแตกแยกของผู้คนในสังคมวงกว้าง”

อันนี้ไม่รู้ว่า Wassana Nanuam ผู้แจ้งข่าว แยกสำเนาไปถึง #สลิ่มปริ่มโคลน ที่ออกมาเบ่งกล้ามอวดศักดา อย่าง อาชีวะช่วยชาติและ กองพันปกป้องสถาบันฯ จังหวัดละพันคน ที่ เหรียญทอง แน่นหนา ประกาศจัดตั้ง ด้วยไหม

เท่าที่เห็นเป็นมาในช่วงเดือนกว่าๆ นี่ การอภิปรายและแถลงข้อเรียกร้อง แม้แต่การปราศรัยบนเวทีที่ธรรมศาสตร์รังสิต ล้วนแต่พูดข้อเท็จจริงต่างๆ ทั้งสิ้น ข้อเรียกร้องก็ล้วนแต่อยู่ในกรอบตรรกะและเหตุผลทางกฎหมาย

พวกที่ออกมา จวกจิกฝ่ายเรียกร้องนั่นต่างหาก ที่มีแต่ มายาคติ และ ศรัทธาบอด ตั้งหน้ากล่าวหา ก้าวล่วง บ้าง จาบจ้วงบ้างโดยไม่มีเหตุผลที่จะฟังขึ้น ที่สุดแล้วกลับเป็นพวกนี้ต่างหากที่ก้าวล่วงและจาบจ้วง ประชาชน

(https://www.posttoday.com/politic/news/630459, https://www.thaipost.net/main/detail/74125, https://www.facebook.com/174453505924794/posts/3173116992725082/?d=n และ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000081959)