วันพฤหัสบดี, มกราคม 16, 2563

เลว.. วิ่งไล่ลุงจบแล้ว แต่การคุกคามยังไม่จบ




วิ่งไล่ลุงจบแล้ว แต่การคุกคามยังไม่จบ
.
จากการติดตามข้อมูลพบว่า หลังกิจกรรมวิ่งไล่ลุงจบไปแล้วเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมีการคุกคามผู้เข้าร่วมกิจกรรมอยู่ในรูปแบบของการเยี่ยมบ้าน ขณะเดียวกันยังได้ทยอยส่งหมายเรียกรายงานตัวในคดีไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ และคดีที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีรายงานการคุกคามในลักษณะเพื่อโต้ตอบการใช้เสรีภาพของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์อีกด้วย ดังนี้
.
++การเยี่ยมบ้าน

๐ จังหวัดพังงา ได้รับข้อมูลจากจิรพงศ์ มาศทอง อดีตผู้สมัครส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรมว่า วันที่ 13 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 13.00 น. มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาถ่ายรูปที่บ้าน แต่ตอนนั้นจิรพงศ์อยู่ที่นครศรีธรรมราช โดยถึงวันนี้ยังไม่มีหมายเรียกข้อหาตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่พ.ต.อ.กิตติพงศ์ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า เปิดเผยว่า ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งการ จัดการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ มีการชูป้ายขับไล่ เรียกร้อง มีการตะโกนประยุทธ์ออกไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการชุมนุมทางการเมืองตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการรวบรวมหลักฐานเอาไว้เพื่อสืบหาตัวผู้จัดการชุมนุม พร้อมเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล เพื่อหาตัวผู้จัดการชุมนุมเข้ารับทราบข้อกล่าวหา

๐ จังหวัดปัตตานี ได้รับข้อมูลจากผู้จัดกิจกรรมว่า วันที่ 14 มกราคม 2563 มีตำรวจหน่วยสืบนอกเครื่องแบบมาขอข้อมูลกับผู้จัดกิจกรรม แต่ผู้จัดกิจกรรมปฏิเสธการให้ข้อมูล

++ไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะ

๐ จังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 13 มกราคม 2563 พนักงานสอบสวนสภ.สตึก ออกหมายเรียกอิสรีย์ อภิสิริรุจิภาส จากการที่ถูกกล่าวหาว่า จัดให้มีการชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุม โดยให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 17 มกราคม 2563 ด้านอิสรีย์ยืนยันว่า เธอมาวิ่งไล่ลุงในฐานะประชาชนทั่วไป และตีความว่านี้คือกิจกรรมที่เป็นการกีฬา เมื่อเสร็จกิจกรรมทุกคนแยกย้ายกันกลับ พร้อมทั้งยืนยันว่า จะขอต่อสู้คดีในชั้นศาลถึงที่สุด

๐ จังหวัดยโสธร วันที่ 13 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองยโสธรติดต่อชัยวัฒน์ สายสีแก้วให้ไปพบที่สภ.เมืองยโสธร เมื่อไปพบจึงแจ้งข้อหาไม่แจ้งการชุมนุมก่อนล่วงหน้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมงตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ เขาอ้างว่า เขาถูกตำรวจเจรจาแกมข่มขู่ให้รับสารภาพและเสียค่าปรับเพื่อให้เรื่องจบ จึงให้การรับสารภาพ โดยพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 3,000 บาท

๐ จังหวัดสุรินทร์ วันที่ 13 มกราคม 2563 รองผู้กำกับการ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้นำหมายเรียกไปให้นิรันดร์ ลวดเงิน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เพื่อให้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ในวันที่ 17 มกราคม 2563 ภายหลังเข้าพบตำรวจ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหานายนิรันดร์ว่า ไม่แจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มการชุมนุม โดยระบุว่า นิรันดร์มีการชักชวนให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกล่าวคำว่า “ประยุทธ์ ออกไปๆๆ ไชโยๆๆ” อันมีลักษณะเป็นการชุมนุมสาธารณะและนิรันดร์มีพฤติการณ์ที่ทำให้เข้าใจได้ว่า เขาเป็นผู้จัดหรือผู้ร่วมจัดการชุมนุม จึงเปรียบเทียบปรับนิรันดร์เป็นเงิน 500 บาท

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้เรียกนิรันดร์กลับไปพบอีกครั้งระบุว่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ตำหนิว่าปรับน้อยเกินไป จึงเปรียบเทียบปรับใหม่เป็นเงินถึง 5,000 บาท

๐ จังหวัดนครพนม วันที่ 14 มกราคม 2563 พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครพนมนัดหมายพิศาล บุพศิริ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อรับหมายเรียกผู้ต้องหา ตามที่ตำรวจนัดหมาย

พิศาลเปิดเผยว่า หลังกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” เสร็จสิ้น ตำรวจได้ติดตามมาพบตนที่บ้านและเชิญไปที่ สภ.เมืองนครพนม โดยระบุว่า จะแจ้งข้อกล่าวหาเขาว่า ไม่แจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มชุมนุม และเจรจาให้เขาจ่ายค่าปรับ 1,000 บาท เพื่อให้คดียุติ แต่พิศาลยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหา ตำรวจจึงนัดหมายให้เขามาพบในวันนี้ โดยระบุว่า จะออกเป็นหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เมื่อมาพบตำรวจในวันนี้ ตำรวจไม่มีการออกหมายเรียกและยังได้จัดทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งพยายามเจรจาให้เขารับสารภาพ พร้อมทั้งจ่ายค่าปรับ 1,000 บาทเช่นเดิม เขาจึงไม่ลงชื่อในบันทึกข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันให้ตำรวจออกหมายเรียกมาให้ถูกต้อง เขายืนยันว่า พร้อมที่จะสู้คดี

๐ จังหวัดตรัง วันที่ 15 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 13.30 น. ปริญญา ศรีเกตุ ผู้ร่วมกิจกรรมวิ่งยิกลุง ตรัง แจ้งว่า ตำรวจโทรมาขอให้ไปเสียค่าปรับฐานไม่แจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มชุมนุม แต่เขายืนยันว่า จะไม่ไปเสียค่าปรับเพราะเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตและไม่ใช่ผู้จัดกิจกรรม

++ไม่ขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง

๐ จังหวัดแพร่ ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐ หงวนสุวรรณ นักกิจกรรมประกาศรวมตัวทำกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่จังหวัดแพร่ โดยหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมว่าที่ร้อยตรีประเสริฐ เดินทางไปเสียค่าปรับเรื่องเครื่องเสียงที่สภ.แพร่เป็นเงิน 200 บาท

++ปลดและเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษา

๐ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้รับข้อมูลจากนักศึกษา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงว่า หลังกิจกรรมจบเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยได้ทำการปลดสี่นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงออกจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของมหาวิทยาลัย การปลดเป็นการพูดคุยผ่านช่องทางไลน์ ต่อมาเมื่อมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อการปลดดังกล่าว ทำให้ศูนย์อำนวยการฯออกแถลงการณ์กลับลำทำนองว่า สี่นักศึกษาได้ใช้สิทธิโดยสุจริตและไม่มีเจตนาให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองจึงยกเลิกการปลด นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีการนำข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษามาเผยแพร่ในไลน์ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและถูกตั้งคำถามว่า ข้อมูลดังกล่าวหลุดออกมาสู่สาธารณะได้อย่างไร

ก่อนหน้าวันจัดงานเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยมีการพาตัวนักศึกษาไปพูดคุยร่วมกับตำรวจ พยายามโน้มน้าวใจให้เลิกร่วมกิจกรรมและตั้งคำถามว่า ไม่รักมหาวิทยาลัยหรือ ทั้งนี้เท่าที่ติดตามข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์และสังเกตการณ์พบว่า เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยรายดังกล่าวทำตัวเป็นสื่อกลางบอกว่า มหาวิทยาลัยกังขาว่า การวิ่งไล่ลุงเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่ทำให้มหาวิทยาลัยดูไม่เป็นกลางและเสื่อมเสียชื่อเสียง
.
.
//////////////////////////////////////////////////////////////////

อ้างอิง
๐https://www.facebook.com/toto.piyarat/posts/587991115084079
๐https://www.facebook.com/toto.piyarat/posts/588172035065987
๐https://www.tlhr2014.com/?p=15469&fbclid=IwAR1Z_kGVXq3sCiIpeN4kqvQ4tpRvU2Qjnt0UhUlvGosYaH-GLAjsuHQVcIw
๐https://mgronline.com/south/detail/9630000003401
...