วันอาทิตย์, มกราคม 26, 2563

พระสยามเทวาธิราช #Multi function รักษาไวรัสโคโรน่าได้ หายไว แต่เทร็นด์แฮ้สแท็กกลับเป็น #รัฐบาลเฮงซวย


กรณีการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โคโรน่าในจีนยังเป็นเรื่อง กังวล อย่างมากของคนไทย หลังจากที่องค์การอนามัยโลกระบุว่า จำนวนผู้ติดโรคในไทยเพิ่มเป็น ๗ ราย แต่เทร็นด์แฮ้สแท็กอันดับหนึ่งไม่ใช่ #ไวรัสโคโรนา แล้ว

กลับเป็น #รัฐบาลเฮงซวย ขึ้นไปแทนที่ เพราะเสียงจากประชากรออนไลน์ก่นด่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสุขภาพสาธารณะ โดยเฉพาะ ดุสิตโพลที่เผยผลสำรวจต่อสถานการณ์ “พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ ๕๒.๙๐ ไม่มั่นใจรัฐบาลจะแก้ไขสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5”

ด้านซูเปอร์โพล (โดย นพดล กรรณิกา) ที่รวมเอาการสุ่มตัวอย่างจากโลกโซเชียลเข้ามาผสม แจ้งถึงปัญหาสำคัญที่กังวลของประชาชน ๕ อย่าง โดยอันดับ ๑ เป็นเรื่องสุขภาพ รวมถึงโรคระบาดโคโรน่าจากจีนและฝุ่นพีเอ็ม ๒.๕ ถึง ๖๓.๙%


ขณะที่ สงวน คุ้มรุ่งโรจน์ ผู้สื่อข่าวอิสระ รายงานตัวเลขล่าสุด (เช้าวันอาทิตย์ ๒๖ มกรา) ว่า “สถานการณ์โรคปอดอับเสบสายพันธุ์ใหม่ (โคโรน่า) ทั่วประเทศจีน ตาย ๕๖ ราย ติดเชื้อ ๑๙๗๕ ราย” แต่ทางการไทย รมว.สาธารณสุขบอกไม่ยั่น

“จะเจอผู้ป่วยยืนยันรายที่ ๖, , ๘ ก็ไม่ได้แปลกอะไร” ยิ่งตรวจเจอยิ่งดี “แสดงว่ามีการตรวจเฝ้าระวังที่เข้มแข็ง” ซ้ำยังรักษาหายแล้วตั้ง ๓-๔ ราย ซ้ำคนไทยคนเดียวที่พบว่าติดโรคนี้รายแรกที่นครปฐม หายดีกลับบ้านได้แล้ว

กลายเป็นที่แซร่ซร้องของบางคนว่าหมอไทยนี่ยอดเยี่ยมมาก ที่อื่นๆ ยังไม่มีรายงานข่าวว่ารักษาหายเลยสักแห่งเดียว ยิ่งไปกว่านั้น “สลิ่มบอกไม่ต้องกลัวการระบาดของไวรัส เพราะเรามีพระสยามเทวาธิราชคอยคุ้มกัน” เลยโดน Pavin Chachavalpongpun สันทนาให้

E-5-Root เป็นพระมัลติฟังก์ชั่นหรอคะ ป้องกันทั้งลม ฝุ่น น้ำท่วม น้ำแล้ง สึนามิ และล่าสุด เชื้อไวรัส...วันไหนตกงาน...ไปของานทำที่องค์กรอนามัยโลกได้เลยนะคะ” well! สลิ่มที่ว่าน่าจะเป็น Paisal Puechmongkol ละสิ เขาโพสต์ว่า

“ด่วนมาก ผมบอกแล้วว่าบ้านเมืองนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง โรงพยาบาลนครปฐมสำเร็จในการรักาคนเป็นโรคไวรัสวูฮั่น เมืองจีนกำลังสนใจเรื่องนีมาก” จากนั้นไพศาลก็ต่อด้วยคำสรรเสริญ ลุงตู่ของเขาให้รู้ว่าแกเป็นสลิ่มจริง

ตานี้ลองมาดูที่ชาวบ้านเขาคุยกันออนไลน์ ว่าพระสยามฯ แน่แค่ไหน “โคโรนาไวรัสตัวนี้มันอัตราการตายตํ่าอยู่แล้วข่าวว่าไม่เกิน ๔% คือคนติด ๑๐๐ คนรอด ๙๖...แต่ที่คนเขาห่วงคือมีวิธีไหนไม่ให้มันจะแพร่เชื้อติดกันเยอะ

แล้วพอคนติดเยอะๆ คนตายก็จะมากตามโดยเฉพาะคนแก่และเด็ก” Chattiya Waenphet เม้นต์ “คือมันไม่ได้มียารักษานะ เฟสแรกคือป่วยรักษาตามอาการ ไอก็ให้ยาแก้ไอ ตัวร้อนก็ยาแก้ไข” Aonvaranan Kidprasert เสริม

“นอนดมอ็อกซิเจน จนภูมิมันต้านเองได้ ไข้ลด เลิกไอ ถือว่าจบ มึมแข็งแรงกว่าเชื้อแล้ว กลับบ้านได้ แต่ถ้าคนภูมิไม่ดีติดเชื้อ ซึ่งไทยเจอ PM2.5 อยู่ ไอ้เนี่ยแหล่ะ ที่คนเค้ากลัวตายกัน ตอนนี้แค่จาม เลือดก็พุ่งออกจมูกออกปากกันแล้ว เชื้อมาอีก นอนรอตายได้”

ฟังเขาว่าก็น่าจะเป็นได้ตามนั้น จะให้รอฟังรัฐบาลอย่างเดียวได้อย่างไร ก็ประชาชนจำนวนมากเขาไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อถือรัฐบาลกันแล้วนะ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ เองแหละตัวดีที่ทำสับสนแต่แรก

ถึงจะอ้าง “ระบบสาธารณสุขของไทยคุ้นเคยกับการควบคุมโรคระบาดโรคติดต่อ ถือว่าชั้นนำไม่แพ้ใครในโลก” เขาก็ไม่ฟังกันแล้ว ไม่งั้นขนาดนิด้าโพลที่มักจะ อวย รัฐบาลที่แล้วอยู่เสมอ ยังออกผลสำรวจเกี่ยวกับรัฐบาลนี้ล่าสุด
 
(คนละเรื่องเดียวกัน) ถึง “สิ่งที่ฝ่ายค้านควรกระทำเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล” ว่า “ส่วนใหญ่ ร้อยละ ๔๒.๕๗ ระบุว่า ควรขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ” ส่วนที่จะให้อภิปรายเฉพาะรายบุคคลนั้นคะแนนยังเป็นรอง ที่ ๓๕.๕๔%


นี่แสดงว่าแฮ้สแท็ก #รัฐบาลเฮงซวย ไม่ได้น้อยกว่าความเป็นจริงเลยสักนิด