วันเสาร์, มกราคม 18, 2563

ข้อเสนอ 4 ประการในการแก้ปัญหาการเผาอ้อยที่เป็นที่มาของควันพิษและฝุ่นจิ๋วมรณะพีเอ็ม 2.5




ข้อเสนอ 4 ประการในการแก้ปัญหาการเผาอ้อยที่เป็นที่มาของควันพิษและฝุ่นจิ๋วมรณะพีเอ็ม 2.5

ข้อเสนอนี้เสนอโดยคุณ วิศัลย์ โฆษิตานนท์ ตัวแทนภาคประชาชนเพชรบูรณ์ที่เผชิญปัญหาหมอกควันพิษจากการเผาอ้อย และผมนำมาเสนอย้ำอีกครั้งว่าการแก้ปัญหาการเผาอ้อยสามารถทำได้ แต่ไม่ใช่การออกคำสั่งห้ามเผาและให้รางวัลนำจับ ซึ่งไม่มีวันจะได้ผล และในตอนท้ายผมได้มีข้อเสนอเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนข้อเสนอนี้ครับ

---------------
ข้อเสนอของคุณวิศัลย์ มีดังนี้ครับ

เผาอ้อย .. ปัญหาที่โรงงานน้ำตาลและรัฐบาลต้องรับผิดชอบ !!

แก้ง่ายมาก หากไม่เห็นแก่นายทุน !!

1.โรงงานน้ำตาลลงทุนหลายพันล้าน และทำกำไรแต่ละปีมากมายมหาศาล รวยมากแล้ว ฉะนั้น โรงงานน้ำตาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ จัดหารถตัดอ้อยสดเพื่อบริการชาวไร่อ้อยในสังกัดให้เพียงพอ ต่อการตัดส่งโรงงานภายในกำหนด โดยโรงงานน้ำตาลจะต้องรับภาระการซื้อรถตัดอ้อยเองและรับภาระค่าใช้จ่ายในการออกไปตัดอ้อยให้กับชาวไร่เองทั้งหมด และให้ถือเป็นส่วนหนึ่งการการดำเนินกิจการที่ต้องทำควบคู่กับการเปิดโรงงาน .. ไม่ใช่โยนภาระให้กับชาวไร่อ้อย

2.รัฐบาลออกกฎหมายให้โรงงานน้ำตาล "ต้อง" (ไม่ใช่ ควร) รับซื้อเฉพาะอ้อยตัดสด และบังคับให้โรงงานลงทุนซื้อรถตัดอ้อยให้เพียงพอต่อจำนวนลูกไร่ ซึ่งหาก ไม่มีรถตัดอ้อยสดให้เพียงพอ ก็ไม่ต้องออกใบอนุญาตให้ตั้งโรงงาน ส่วนที่ออกไปแล้ว ก็ให้จัดหารถตัดอ้อยมาให้ครบตามที่กำหนด โดยไม่ชักช้า มิฉะนั้น ก็เพิกถอนใบอนุญาต

3. ชาวไร่อ้อยเอง ก็ต้องตระหนักในปัญหาเรื่องนี้ และต้องรวมตัวกัน กดดันและผลักดันให้มาตรการนี้ เกิดขึ้นจริง .. เพื่อการอยู่ร่วมกันโดยสงบสุขในสังคม โดยไม่ละเมิดสิทธิและเบียดเบียนผู้อื่น

4.ไม่อนุญาตให้มีการตั้งโรงงานน้ำตาลใหม่ขึ้นมาอีก หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุก ๆ ปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็น หิมะดำ ถนนพัง อ้อยร่วง อุบัติเหตุ มลพิษจากโรงงาน สารเคมีตกค้างในที่ดินเป็นจำนวนมาก ปัญหาแย่งน้ำเกษตรกร และปัญหาสังคม ฯลฯ

---------------
ผมให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมครับว่า

ในข้อแรก ชาวไร่อ้อยทุกครายปลูกอ้อยตามที่รับโควต้ามาจากโรงงาน และมีสมาคมชาวไร่อ้อยดูแล ดังนั้น โรงงานจะรู้ดีว่าไร่อ้อยเป็นของโรงงานน้ำตาลโรงไหน ดังนั้น โรงงานน้ำตาลต้องใช้ระบบนี้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการเผาได้โดยทันที

นอกจากนั้น โรงงานกลั่นเอทานอลก็ต้องหยุดรับซื้ออ้อยเผาด้วยครับ และต้องซื้อรถตัดอ้อยไปตัดอ้อยให้กับชาวไร่อ้อยด้วย

ในข้อสอง รัฐต้องหยุดผ่อนผันการอนุญาตให้เผาอ้อยโดยทันทีครับ อ้อยที่จะเข้าโรงงานต้องเป็นอ้อยไม่เผา 100%

ในข้อสาม สมาคมชาวไร่อ้อยก็ต้องตระหนักและผลักดันให้มาตรการนี้เกิดขึ้นจริงด้วย

ในข้อสี่ ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่จะส่งเสริมการปลูกอ้อยในอีสาน รวมทั้ง Bio-Hub ที่จะใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบ

นอกจากนั้น อุตสาหกรรมน้ำตาลทรายจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และจะต้องทำธุรกิจที่ยึดหลักเคารพสิทธิมนุษยชนด้วย เพราะสิทธิในการมีชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่ดี คือสิทธิมนุษยชน

อย่าร่ำรวยโดยก่อมลพิษให้กับคนไทยแบบนี้เลยครับ

สำหรับรัฐบาล ต้องเด็ดขาดกับการแก้ปัญหานี้ ไม่ใช่ไม่กล้าแตะทุนน้ำตาล และปล่อยให้ลอยนวลจนคนเดือดร้อนหนักแทบทั่วประเทศแบบทุกวันนี้

ผมหวังว่าข้อเสนอนี้จะไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เคยถามว่า จะให้ทำอย่างไร ในการแก้ปัญหาฝุ่นจิ๋วพีเอ็ม 2.5

ภาพประกอบ การเผาอ้อยที่สระแก้วที่สร้างภาระให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและใช้ภาษีของคนท้องถิ่น
..