เป็นอัน เขาจะดันกันไปอย่างนี้
เพราะเห็นว่า ‘อยู่เป็น’
กันเข้าที่ดีแล้วมัง ยังก่อน ช้าๆ หน่อยพรรคพวก ป่านกำลังร้อนจัด
ปั่นมากกว่านี้มีทางขาดปึ๋งได้
จากที่โพสต์ของอดีตนักข่าวว้อยซ์ Chatechenko
Yingkiattikun บ่งไว้ “วันนี้พรรคพลังประชารัฐท้อปฟอร์มมาก
เช้าสิระ เจนจาคะ และปารีณา (ไกรคุปต์) ไปป่วน กมธ.ทุจริตฯ ทำเสรีพิศุทธ์เดือด
หลุดด่า ‘ชั่นต่ำ’
สาย :ผู้สมัครพลังประชารัฐเสนอสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย
ตั้งชื่อ ‘สะพานจันทร์โอชา’
เพราะทำคุณให้ประเทศชาติ บ่าย :พ.ร.ก.แต่งตั้งปารีณาเป็น
กมธ.ปราบโกง ทั้งที่ยังมีคดีรุกป่าคาอยู่
เย็น :ก.ก.ต.
เอาผิดคนแจกเงินให้ผู้สมัครพลังประชารัฐ ในพื้นที่ร้อยเอ็ด แต่ไม่เอาผิดผู้สมัคร
ส.ส.ของพรรค ค่ำ :ศาลยกฟ้อง เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ (อัศวเหม) เจ้าพ่อปากน้ำใช้อิทธิพลช่วย
ส.ส.พลังประชารัฐจนเลือกตั้งชนะในพื้นที่สมุทรปราการ”
เขาลงท้ายประชดได้เสียดแทงอารมณ์ยิ่งนักละ “ไม่มีพลังอะไร
ยิ่งใหญ่เท่าพลังประชารัฐอีกแล้ว”
กรณีป่วนนั้นก่อเหตุหนักหน่วงเสียจนประธานกรรมาฯ
หลุดคำผรุสวาส “อย่าเสือก” (ตามที่ Kollayut Ngowkoet
นักข่าวการเมืองรายงานทางทวิตเตอร์ @KNgowkoet ว่า
“หวิดวางมวย” และ “เสรีพิศุทธ์ (เตมียาเวส) ลั่นอย่าทำซ่า เดี๋ยวจะฟ้องหมิ่นประมาท”
แต่ฝ่ายโน้นชิงฟ้องก่อน ‘ในสภา’ โดย “พปชร. ยื่นญัตติด่วนปลด เสรีพิศุทธ์
พ้นประธาน กมธ.ปปช.” ด้วยข้อหาแพ้โหวตเรื่องตรวจสอบการที่ พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ถวายสัตย์ขาดตก แล้วยังดึงดันไปต่อ “ไม่ถือตามมติเสียงข้างมาก
จึงถือเป็นการลุแก่อำนาจ”
งานนี้ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. และ สุทา
ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต ได้แรงส่งของ ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.รายชื่อที่พรรค
คสช.เพิ่งดึงเข้ามาจาก ส.ส.ปัดเศษที่ยุบพรรค เข้ามาเสริม อ้าง “มี ส.ส. รับรองญัตติจำนวน ๕๒ คน ครบตามข้อบังคับการประชุมสภา”
ไพบูลย์ยังคุยทับว่า “ผมเป็นนักกฎหมายผ่านเรื่องต่าง
ๆ มากมาย ถ้าท่านยังไม่หยุด จะเป็นเรื่องที่ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง” เขาชี้ว่ากรรมาธิการโหวตกันแล้ว
๘ ต่อ ๗ ให้ยุติการตรวจสอบ “อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้วินิจฉัย”
แล้วด้วย
สิระเลยได้ทีเข้าขย่ม “หาก พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป จะดำเนินการฟ้องร้องเป็นคดีอีกหลายคดี
จากปัจจุบันที่ถูกฟ้องดำเนินคดีไปแล้ว ๓ คดี”
เหมือนว่าพยายามโหมตีขณะที่เหล็กยังร้อน
ก็ให้มีราชกิจจานุเบกษาออกมาย้ำหัวตะปูเมื่อ ๑๖ มกรา ว่าสภาผู้แทนฯ ได้ตั้งนายสิระ
เจนจาคะ และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ เป็นกรรมาธิการปราบทุจริต ตั้งแต่วันพุธที่ ๖
พฤศจิกา ๖๒ แล้วนะ
พออย่างนี้ก็ ‘Hell
broke’ นรกแดรกละสิ สื่อสังคมร้อนเป็นไฟ หน้าสื่อสายหลักต่างๆ กระหึ่ม
ขนาดนักข่าวช่อง ๓ อดีตนักข่าวเนชั่น Jin Somroutai
ที่บอกว่าแท้จริงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เพราะรู้อยู่ว่า ‘ของเก่า’
เอามาตั้งโชว์ใหม่
“แต่พอเห็นอารมณ์ผู้คนต่อเรื่องนี้ที่ล้นไทม์ไลน์
ไม่สนใจไม่ได้จริงๆ” ดูจากเพจ ‘เอ็มไทย’
ก็ได้ คนไปเม้นต์ ไปบ่นกันคลั่ก “เอาคนทุจริตมานั่งเก้าอี้ปราบทุจริต
เจริญละประเทศไทย” ‘ลิงกระต่าย’ ว่า
แล้ว @thanutporn_k มาต่อ “เหมือนจงใจเอาเท้าเหยียบหน้าประชาชน” @Surapoh56 ใส่บ้าง “ผลงานชัดเจนขนาดนี้ ค้าอาวุธเอย รุกป่าเอย
เหมาะสมกับตำแหน่งจริงๆ ครับโผมมม”
หมายเหตุ คดีปารีณาและบิดารุกที่ป่าสงวนเกือบ
๗๐๐ ไร่ในผืนดินเป็นเจ้าของทั้งสิ้นพันกว่าไร่ ‘ลูกท้อป’
วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติบอกว่า “ภายในเร็ววันนี้คงจะได้ข้อสรุปจากทางกฤษฎีกากลับมา
และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างแน่นอน
ไม่มีการชะลอ ไม่มีการยกเว้นใดๆ” แม้นว่าจะล่วงเลยมากว่าสามเดือนได้แล้ว (https://www.matichon.co.th/politics/news_1894869)
สมกับที่ @Lucky_Girls9 ว่า “เอาผ้าขี้ริ้วสกปรก มาเช็ดพื้นที่สกปรก” จึงทำให้ @Frhhdr0 ละเหี่ย “บ้าไปแล้วประเทศนี้” ถึงขั้น @brave_pgasus ยอมรับว่า “สิ้นหวังแล้วเมืองไทย” @LeeMingi
เลยโพล่งออกมา “อยากย้ายประเทศต้องทำไงคะ”
ส่วน Ratchaprasong
News (ฌอน บุญประคอง) ชี้ “This
is not a joke! นี่ไม่ใช่เรื่องตลก” นะ “รอแต่ว่าเมื่อไหร่
ธรรมนัส (พรหมเผ่า ณ ออสเตรเลีย) จะได้เป็นกรรมาธิการปัญหายาเสพติด ถ้ามี”