วันอังคาร, มกราคม 28, 2563

แถลงการณ์นายกรัฐมนตรี กรณีไวรัสโคโรนา และฝุ่น PM2.5 - ความซวยและความเฮงซวยของรัฐบาลนี่เกินกว่าที่คาดไว้




..


ความซวยและความเฮงซวยของรัฐบาลนี่เกินกว่าที่คาดไว้

ความซวยอาจได้แก่ไวรัส ความเฮงซวยคือวิธีการรับมือและปากหมาน ซึ่งจะไม่หยุดยั้งแค่นี้ เพราะมันกระทบเศรษฐกิจที่เปราะบาง นักท่องเที่ยวจีนหายเป็นล้านๆ กระทั่งหุ้นตกระนาว

ฝุ่นก็เป็นความเฮงซวย คือรู้อยู่ว่าจะมีปัญหาทุกปี ปีนี้ยิ่งแล้ง ก็ไม่เตรียมการ มาตรการก็ลูบหน้าปะจมูก เห็นๆ ว่าเกรงใจกลุ่มทุน ไม่ผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า พะวงอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่งเสริมให้ปลูกอ้อย ข้าวโพด ตอนนี้ก็ไม่กล้าลด เกรงใจโรงน้ำตาล ซีพี

พรบ.งบประมาณนี่ทำตัวเอง รู้ทั้งรู้ กฎหมายสำคัญ ยังหนีประชุมไปจีนไปงานวันเด็ก แล้วมีผีเสียบบัตรโหวตแทน ตัวงบอาจไม่ช้านัก แต่ทางการเมืองรัฐบาลผสมขาดความเชื่อถือ แค่เนียะ คุมกันไม่ได้ ต้องให้นิพิฏฐ์ ปชป.มาจับผิด

มันบานไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาลผสมที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้

ช่วงปีใหม่ หลายคนก็วิเคราะห์ รัฐบาลนี้ที่มาไม่ชอบธรรม แต่อยู่ได้เพราะอำนาจปืนอำนาจศาลคุ้มครอง กระนั้นก็มองเห็นความปั่นป่วน ไม่เชื่อว่าจะฝ่ามรสุมครบเทอม ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ก็พังเอาง่ายๆ

ปรากฏว่ายังไม่ครบเดือน อุบัติมาแล้ว ทำตัวเองทั้งนั้น ฝ่ายค้านยังไม่ทันยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเลย เสียบบัตรแทนกัน พรรคร่วมเสียบกัน ตำรวจก็เสียบกัน จู่ๆ เด้ง 2 รอง ผบ.ตร. ตู่ประกาศเตือนจนบิ๊กโจ๊กเผ่นไปบวช เฮ้ย นี่มันขัดแย้งกันเองระหว่างขั้วอำนาจ

ตั้งแต่ต้น ก็อุบัติเหตุทำตัวเองทั้งนั้น ใครจะคิด ถวายสัตย์ไม่ครบ ใครจะคิด จะเกิดกรณีเทามนัส ปารีณา กับสุดยอดบิดา แล้วเดือนหน้าเดือนโน้นจะมีอะไรอีก อีกตั้ง 11 เดือนจะจบปีหนู "สมองหนู" ไม่รู้เหมือนกันลงเอยแบบไหน




โดนด่า #เฮงซวย ฉลองตรุษจีน เพราะไม่รู้จักปรับตัว
ด้านฝีมือ ก็รู้อยู่แล้วว่าห่วยบรม ไม่มี ม.44 ทำอะไรไม่เป็น
น้ำท่วม ก็โดนเปรียบเทียบว่า ฝีมือบริหารวิกฤติ ไม่ได้ขี้เล็บทักษิณ
มาเจอฝุ่น เจอไวรัส ประชาชนตกอกตกใจ
กลับไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ไม่เข้าใจหัวอกชาวบ้าน
ปกครองด้วยพุทธธรรม อัตตาหิ อัตโนนาโถ
บอกประชาชน ให้รู้จักพึ่งตนเอง สั่งสอนแล้วไง ทำไมไม่รู้จักทำตาม
ครั้นคนเขากังขา กังวล เรื่องเครื่องตรวจสนามบิน
ก็ปากเสียสวนกลับ จะตรวจหาสวรรค์วิมานอะไร

ที่ประชาชนต่อว่า จึงครบทุกข้อ คุณสมบัติเฮงซวย