เมื่อสองสามวันก่อน
ตอนฝุ่นจิ๋วกลับมาคลุมบางกอกอีกใหม่ๆ ‘โปรเฟสเซ่อโฆษก’ ด็อกเต้อนฤมลเธอว์บอกให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจ
ก่อนหน้านั้นแม่คุณโต้เรื่องราคารัฐจ่ายค่าขุดบ่อน้ำบาดาลแค่ล้านเดียว ขณะที่ราคาตามจริงอยู่ที่หลักหมื่น
อย่างเก่งก็แสนกว่าๆ
(https://www.brighttv.co.th/news/economy/thai-chamber-of-commerce-gdp และ https://thansettakij.com/content/normal_news/419241)
วันนี้ปวงชนชาวกรุงอกสั่นถ้วนหน้า
เห็นท่าตายผ่อนส่งแน่ๆ เพราะบรรยากาศรอบตัวสลัวมัวด้วยฝุ่นจิ๋ว ชนิด “กรุงเทพฯ ขึ้นแท่นเมืองอากาศแย่อันดับหนึ่งอาเซียน”
ด้วยฝุ่นละออง ‘พีเอ็ม ๒.๕’ จึงช่วยไม่ได้ที่คนถามกันแซดว่ารัฐบาลไอทู้บทำอะไรได้บ้าง
“น้ำท่วมอีสานไปผัดใบเหลียงที่สุราษฎร์
วันนี้เจอภัยแล้งบอกไปตรวจป้องกันน้ำท่วมที่นราธิวาส
แต่พอไปถึงนราธิวาสก็ไปพูดเรื่องแก้ฝุ่น pm2.5 ที่กรุงเทพ
หรือประยุทธ์ชอบแก้ปัญหาจากระยะพันไมล์” (ถือแถน @pran2844)
หลักๆ
เรื่องฝุ่นที่ประยุทธ์พูดก็แค่ว่ารัฐบาลมีโครงการแก้ไขแล้วระยะยาว ซึ่ง
ส.ส.กรุงเทพฯ คณะทำงานสิ่งแวดล้อมมาขยายความ “วอนประชาชนสนับสนุนนโยบายที่รัฐบาลจะออกมาเพื่อลดปัญหาฝุ่น”
น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ขอให้ประชาชนสมัครใจเข้าไปมีส่วนร่วม
ตามมาตรการต่างๆ เช่น “ลดการใช้พาหนะส่วนตัว
ใช้เท่าที่จำเป็น ดับเครื่องยนต์เมื่อไม่ใช้รถ ใช้รถโดยสารสาธารณะ เดินทางแบบ ‘car
pool’...หรือใช้เชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดควันน้อยที่สุด”
ต่างจังหวัดก็ขอให้หยุดเผาขยะ หญ้าแห้ง เป็นต้น
ข้อสำคัญขอให้ “ทุกคนร่วมมือกันทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ขณะที่พรรคฝ่ายค้านอย่าง อนาคตใหม่ ตั้งแต่หัวหน้า เลขาฯ และบรรดา ส.ส.
ออกตระเวณกันทั่วกรุงแจกหน้ากากป้องกันฝุ่นพิษและชาวบ้านชาวเมือง
คนที่รับข่าวการแก้ปัญหาฝุ่นพิษสำเร็จแล้วในต่างประเทศอย่าง
ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ณ เกียวโต ถึงได้ ‘แซวแคสติก’
ว่า “อีคนอยู่เมืองนอกนานๆ ชอบพูดว่าอยากกลับไปตายเมืองไทย
ถ้ามึงกลับตอนนี้ ได้ตายสมใจเพราะฝุ่นพิษค่ะ”
ก็อย่างที่ ‘ถือแถน’
ว่าไว้ขณะนี้ประเทศยังกำลังมี ‘ภัยแล้ง’
รัฐบาลสมองแปดหมื่นเซลล์ให้ขุดบ่อน้ำบาดาลแก้ แรกมีข่าวออกมาว่ารัฐขอใช้งบประมาณบานเบอะ
เพราะสนนราคาค่าขุดบ่อละ ๖ ล้าน ร้อนถึงเจ๊โฆษกต้องรีบปฏิเสธ ไม่ใช่ค่ะ
แค่ล้านเดียว
แต่ล้านเดียวนี่มีหางอีก ๑ แสน ๘
หมื่นกว่านะจ๊ะ ทว่าราคาที่ชาวบ้านเขาจ้างขุดกัน อย่างเก่งแค่แสนครึ่ง ไทกร
พลสุวรรณ นักกิจกรรมที่เกาะติดเรื่องนี้มาตลอดชี้ “งบประมาณที่รัฐบาลชี้แจง แพงกว่าราคาท้องตลาดทั่วไป
๑ เท่าตัว”
เขาลงรายละเอียดว่าบ่อขนาด ๖
นิ้วไม่เกินแสน ถังเก็บน้ำแบบแชมเปญที่นิยมกัน ๒ แสนครึ่งถึง ๓ แสนครึ่ง
เครื่องสูบ เครื่องปั๊ม และถังพีวีซีไว้เก็บน้ำก่อนปั๊มขึ้นถังอีกหมื่นนึง
ค่าแรงรับจ้างขุดเจาะก็เพียง ๗ หมื่น เขาถึงร้องยี้กันไงที่รัฐจ่ายล้านกว่า
นั่นเป็นรายจ่ายที่เดินสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจในปี
๖๓ นี้แน่ๆ นักวิจัย ม.หอการค้าออกมายันแล้ว ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยยังหดตัวเช่นเคย
จีดีพีปีนี้ลดลงไปอยู่ที่ ๒.๘%
ทั้งที่เคยคาดกันไว้ให้โต ๓.๑% ซ้ำส่งออกก็ยังติดลบ (๒.๕%) ค่าเงินบาทแข็งต่อไป
“ประเมินผลกระทบในเบื้องต้น
คาดว่าจะมีเม็ดเงินหายไปจากระบบประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท”
และดัชนีความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจลดลงเช่นกัน (ขณะนี้อยู่ที่ ๔๕.๗)
ลดมาอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๑๐ นี่แล้ว มาอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ ๒๔ เดือน
แต่รัฐบาลประยุทธ์ก็ยังพยายามจะผ่านงบประมาณปี
๖๓ ให้จงได้ ไม่แยแสฟังญัตติฝ่ายค้านที่ขอตัดทอนหลายรายการ ทั้งของกลาโหม ศึกษา
และคมนาคม โหวตผ่านทุกรายการ แล้วเพิ่งมาฉาวโฉ่วันนี้เองว่าใช้วิธีเสียบบัตรแทนกัน
นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าประชาธิปัตย์
อภิปรายแฉพบว่า “นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส. ภูมิใจไทย ลงมติวาระ ๒-๓ ทั้งที่ตัวอยู่พัทลุง ไม่ได้ร่วมประชุม” เขาตั้งข้อสังเกตุว่าอาจทำให้งบประมาณปี
๖๓ นี้เป็นโมฆะได้
เนื่องจากเรื่องแบบนี้เคยมีตัวอย่างเมื่อครั้ง
พรบ.เงินกู้ ๒.๒ ล้านบาทสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
(Infrastructures) ศาลรัฐธรรมนูญตีตกตอนกลางเดือนมีนาคม
๒๕๕๗ ก่อนการรัฐประหาร คสช. สองเดือน (Dhiravath Suantan @ARMdhiravath)