มีคนเห็นด้วยเยอะกับ บก.ลายจุด
ที่ว่าตอนนี้ประยุทธ์เงียบไปเพราะคงมีใครสะกิดให้หุบปาก ไม่งั้นไวรัสโคโรน่าบินเข้า
(คนสะกิดน่าจะเป็นเมียที่ ‘ไม่สวย’ อะ) เป็นไปได้คงจะกำลังคิดหนักหาทางป้องกัน ‘รัฐบาลพัง’
(คิดช้าหน่อยเพราะเซลล์มันน้อย)
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สาธิต ปิตุเตชะ
ที่เป็น รมช.สาธารณสุขอยู่ด้วย ไม่ยักคุยเรื่องไข้หวัดจากจีน (ตัวรัฐมนตรีรวบเอาไป
‘ไล้ฟ์สด’ คนเดียว
แถมกร้าน “ฟังได้ก็ฟัง ฟังไม่ได้ไม่ต้องฟัง”) เลยต้องตอบคำถามนักข่าวเรื่องเม้าท์กันแซด
“รัฐบาลจะล้ม
เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากคนภายในรัฐบาลเอง ไม่ใช่ฝ่ายค้าน” ว่าพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
“สถานะรัฐบาลนอกจากปฎิบัติตามกฎหมายแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของประชาชน และความชอบธรรม”
ด้วย
และว่าไม่เกี่ยวที่ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ คน
ปชป.เองเอามาปูดจนบานปลาย ซึ่งแม้ว่าจะมีมูลเหตุเบื้องลึก “แค้นฝังหุ่น”
ส.ส.ภูมิใจไทยทั้งสอง (ฉลอง เทอดวีระพงศ์ –พัทลุง กับ นาที รัชกิจประการ –บัญชีรายชื่อ)
จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา
หลังเลือกตั้งซึ่งเขาแพ้พลิกล็อคต่อฉลอง
นิพิฏฐ์ ฟ้อง กกต.ขอให้ตรวจสอบว่าพรรคภูมิใจไทยซื้อเสียง ผ่านมา ๗ เดือน จรุงวิทย์
ภุมมา เลขาธิการตอบหน้าตาเฉยว่ายังสอบสวนไม่เสร็จ
ทั้งที่หลักฐานยื่นไว้เป็นข้อความในกลุ่มไลน์ของ ภท. ระบุ
“กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยบอกว่า หากถูกตรวจสอบว่าเป็นเงินซื้อเสียง
ให้บอกว่าเป็นของพรรคประชาธิปัตย์” ทั้งที่รู้กันว่า นาที ซึ่งบัตรของเธอถูกเสียบโหวตขณะเจ้าตัวทัวร์จีนอยู่
คนนี้กระเป๋าตุงกว่าของ ปชป.เยอะ
ขณะที่ทางฝ่ายค้าน โดยโภคิน พลกุล
กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อไทยรุกคืบด้วยมาตรา ๑๔๘ รัฐธรรมนูญ ๖๐ ว่าการเสียบบัตรทำให้
พรบ.งบประมาณไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องถูกตีตก จะอ้างว่าเครื่องเสียบบัตรไม่พอฟังไม่ขึ้น
มีคนให้ความเห็นไว้ว่า “เวลาประชาชนโหวตยังต้องรอคิวกัน”
โหวตแทนกันได้ที่ไหน อีกทั้งเลขาธิการเพื่อไทยก็ย้ำหัวตะปูไว้แล้วว่าในอดีต
ปปช.เคยชี้มูลความผิด ส.ส.สกลนครเรื่องกดบัตรแทนนี่ละ จนทำให้
พรบ.กู้เงินครั้งนั้นถูกตีตกไป
มิใย ตัวช่วยของรัฐบาลประยุทธ์ ประธาน ปปช.
วัชรพล ประสารราชกิจ ให้ความเห็นชี้นำไว้แล้ว “การเสียบบัตรแทนกันระหว่างกรณีนายนริศร
กับที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น ไม่อาจเทียบกันได้แม้จะเกิดเหตุการณ์คล้ายกัน”
ทั่นประธานฯ
ยังเสริมเติมให้มั่นแม่นด้วยว่า “แต่ข้อเท็จจริงอาจต่างกันก็ได้...จึงต้องรอข้อเท็จจริงปรากฏให้ครบถ้วนเสียก่อน”
แหม่ทั่นก้อ ข้อเท็จจริงมันต่างกันอยู่แล้ว ต่างกรรมต่างวาระ ต่างรัฐบาล ต่างพรรคการเมือง
แต่ไม่ต่างประเด็นข้อกฎหมายนะ เรื่องเดียวกันเด๊ะอย่างนี้
พวกองค์กรอิสระของ คสช.ทุกคนสงสัยใส่ ‘ไดเปอร์’
ซับในถ้วนหน้า เพราะชอบเอาก้นแถกันประจำ
