วันพฤหัสบดี, มกราคม 23, 2563

ฝ่ายรัฐบาลแถกันเปื้อนไปหมด ปม ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ลุ้นต่อไป ตลก.จะแถกอีท่าไหน


เรื่อง ส.ส.รัฐบาลเสียบบัตรแทนกันเพื่อให้ พรบ.งบประมาณผ่านนี่ ไม่ต้องลุ้นหรอกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินอย่างไร แต่ที่น่าจับตาก็คือพวก ตลก.ในอาณัติ คสช.จะแถกไปอีท่าไหน ในเมื่อคนในฝ่ายรัฐบาลออกมาแถกันเปื้อนไปหมดแล้ว

คนที่แถยิ่งกว่าใครไม่พ้น วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เนติบริกรมาแล้วหลายรัฐบาล แต่สำหรับรัฐบาล คสช. ทั้งภาค ๑ และภาค ๒ นี่ แกเล่นกายกรรมหกคะเมนตีลังกาอย่างสุดๆ เหมือนจะทิ้งทวนบั้นปลาย

หลังจากที่มีเสียงพูดกันมากว่าสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ศาลรัฐธรรมนูญเคยตัดสินให้ พรบ.เงินกู้ ๒.๒ ล้านล้านบาท “ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” ซึ่งครั้งนั้นเป็นมาตรา ๑๒๒ ๑๒๓ และ ๑๒๖ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐

ครั้งนี้ตัวบทเดียวกันยกมาไว้ในมาตรา ๑๑๔ ๑๑๕ และ ๑๒๐ วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ “หากใช้มาตรฐานเดียวกัน ในเมื่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายใกล้เคียงกัน ผลการวินิจฉัยคดีก็น่าจะออกไปในทางเดียวกัน ใช่หรือไม่”

บทความของ ‘thematter.co’ ตั้งคำถามดักคอศาลรัฐธรรมนูญที่มี ตลก.ยกยอดมาแต่ครั้งก่อนด้วยความอนุเคราะห์ของ คสช.ต่ออายุให้เกินสมัย ๔ คน นอกเหนือจากนั้นก็ตั้งขึ้นตามกระบวนการ คสช.ทั้งสิ้น คือสาเหตุที่ พรบ.ถูกตีตกเพราะ ส.ส.กดบัตรลงคะแนนแทนกัน
 
แต่ บริกรวิษณุกลับบอกว่า “ผลการวินิจฉัยในอดีตไม่ได้เป็นบรรทัดฐาน ๑๐๐% ต่อคดีในปัจจุบันทุกกรณี เว้นแต่ศาลจะมองว่าเป็นรูปแบบเดียวกัน เพราะบางเรื่องกฎหมายก็ต่างกัน” วิษณุยังพูดวกวนในรายละเอียดเช่นว่าครั้งก่อนมีเสียบบัตรแทนสี่ห้าใบ แต่ครั้งนี้มีเพียงใบเดียว

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ พัทลุง ผู้เริ่มเปิดเบิ่งเรื่องนี้ว่ามี ส.ส.ภูมิใจไทยไม่อยู่ในที่ประชุม แต่กลับมีการเสียบบัตรของนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ เพื่อลงคะแนน ก็เลยเพิ่มเติมว่า

ในการประชุมงบประมาณ วันที่ ๑๑ มกรา ทราบว่านางนาที รัชกิจประการ ส.ส.ภูมิใจไทยเช่นกัน เดินทางไปประเทศจีน เขาจึงขอท้าให้เปิดเผยข้อมูลออกมาว่าบัตรของนางนาทีมีการเสียบโหวตที่สภาหรือเปล่า เท่ากับว่าการเสียบบัตรแทนไม่ใช่รายเดียวแล้ว

ไม่เท่านั้น “สื่อมีหลักฐาน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสียบบัตรแทนกัน” @moui แฉข่าวช่อง ๗ ภาคเที่ยงวันที่ ๒๒ มกรา “ได้นำเสนอภาพการลงมติในห้องประชุม โดยพบว่ามี ส.ส.บางคนถือบัตรลงคะแนนมากกว่า ๑ ใบและบางคนนำบัตรเสียบเข้าเครื่องและกดลงมติด้วย”


ทางฝ่ายเลขาธิการรัฐสภายอมรับว่าบัตรของนายฉลอง พรรคภูมิใจไทยนั้นมีการเสียบลงคะแนนจริง แต่ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นคนเสียบช่องไหน จับมือใครดมไม่ได้ ตอนนี้รู้กันแต่ว่าพรรคไหนบ้าง อย่างน้อยๆ ภูมิใจไทย ๒ ราย พลังประชารัฐอีก ๔-๕ ราย

สำหรับรองประธานสภาคนที่ ๑ สุชาติ ตันเจริญ ทั้งแก้ทั้งแถว่าเรื่องมันเกิดเพราะสภายังสร้างไม่เสร็จดี (น่าจะไปถามหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คนคุ้นเคยของบริษัทซิโนไทย ผู้รับเหมา) “จำนวนเครื่องเสียบบัตรลงคะแนนไม่เพียงพอต่อจำนวน ส.ส.

...ต้องมีการใช้เครื่องเสียบบัตรแสดงตนร่วมกันในการลงมติคราวเดียวกัน อาจทำให้เกิดความสับสนและเฝ้าระวังการออกเสียงแทนกันยาก” แล้ววกไปถึงเรื่องเงิน “ที่ผ่านมาไม่ได้รับงบประมาณ และในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ๖๓ ได้มีการตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกไป”
 
ทางเจ้าของบัตรที่ถูกปูดมีการแก้ตัวว่า “ลืมบัตรไว้ในที่ประชุม...ไม่ได้ใช้หรือวานให้ใครกดบัตรลงคะแนนให้” ด้าน ไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งยุบพรรคสอบตกย้ายไปอยู่กับพลังประชารัฐแล้วได้เป็น ส.ส.รายชื่อ รองหัวหน้าพรรค รีบโพทธนาไว้ก่อนเลยว่า

ที่ผ่านมาเจ้าของบัตรไม่มีความผิด ลงโทษเฉพาะคนที่เสียบบัตรแทนให้ซึ่ง ส่วนประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตัดสิน ว่าทำให้ พรบ.งบประมาณที่วุฒิสภาเดินหน้าอนุมัติผ่านไปแล้ว จะต้องเป็นโมฆะ และโหวตใหม่ตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้อง

นั้นวิษณุก็ชิงพูดดักทางอ้างเรื่องเก่าไว้แล้วว่า “ลำพังเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้กฎหมายฉบับนั้นตกไป แต่ที่ร่างกฎหมายนั้นตกไปเพราะมีปัจจัยอื่น ๔-๕ สาเหตุมาประกอบกัน”


สรุปแล้วบ้านเมืองเวลานี้ “สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่อง คอขาดบาดตายในการเมืองไทย แต่ตอนนี้เป็นเรื่อง ไม่เสียหาย” ดัง prajak kong @bkksnow ลำดับรายการไว้เกือบสิบแล้ว ก็คือ

“การตั้งญาติดำรงตำแหน่งทางการเมือง การนิรโทษกรรมตนเอง รมต.ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน รัฐบาลขาดธรรมาภิบาล นักการเมืองครอบครองที่ดิน สปก. การซื้อตัว สส. นักการเมืองพัวพันยาเสพติด การเสียบบัตรแทนกัน”