เป็นเรื่องน่าคิดว่าผู้กองนัส หรือ ธรรมนัส
หรือ พชร พรหมเผ่า มีดีอะไรสำหรับ คสช.ถึงได้ชุบเลี้ยงขนาดนี้
ได้เป็นรัฐมนตรีท่ามกลางข่าวเปิดโปงเบื้องหลังว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ ฉ้อโกง
ค้ายาเสพติด ห้อยท้ายฉายาอดีต ‘เสือกองสลาก’ เต็มไปหมด
ขนาด วิษณุ เครืองาม
เอาดีกรีนักกฎหมายของตนมาฉีกแลก แก้ต่าง ให้ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ คนนี้ “ในอดีตเคยมี
ส.ส.ต้องคำพิพากษาในต่างประเทศกรณีขนยาเสพติดเข้าฮ่องกง
ตรงนั้นไม่มีผลกระทบอะไรในส่วนของไทย แต่จะกระทบเรื่องชื่อเสียง เกียรติยศ
และอะไรหลายอย่าง
อาจจะเป็นข้อห้ามอีกแบบหนึ่ง
แต่จะเอาข้อหานั้นตรงๆ มาใช้ไม่ได้ แม้ข้อหาอาจจะตรงกัน
แต่ศาลไทยไม่ได้เป็นผู้ตัดสิน” นั่นจากการที่นายมนัส “เคยถูกจับติดคุกประเทศออสเตรเลีย
โทษฐานขนเฮโรอีน คดีถึงที่สุด”
เขาติดคุกออสเตรเลียอยู่หลายปี
จนรัฐบาลไทยขอตัวกลับในฐานะนักโทษยาเสพติด
แล้วทำไปทำมานายมนัสได้กลับเข้ารับราชการทหาร จาก ร.ต.พชร มาเป็น ร.ท. และ ร.อ.ธรรมนัส
จากนั้น “เข้าไปพัวพันคดีฆาตกรรม ดร.พูลสวัสดิ์ จิราภรณ์
คดีนี้โด่งดังเพราะมีการข่มขืนผู้ตายซึ่งเป็นชาย”
อย่างไรก็ดีคดีนั้นศาลยกฟ้อง ทำให้วิษณุละเลยไม่พูดถึง
แต่ไปอ้างเรื่องเคยถูกไล่ออกจากราชการ ว่า “เพราะอะไร
หากถูกไล่ออกเพราะทุจริตนั้นไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช่กรณีทุจริตไม่เป็นไร
โดยเฉพาะเมื่อกลับเข้ารับราชการแล้ว ยิ่งต่อมาได้ความดีความชอบ
ทำให้มีอะไรขึ้นไปอีก”
ความดีความชอบอะไรไม่ปรากฏ มีแต่ประวัติว่า
“เขาสมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ช่วงเลือกตั้ง ม.ค. ๒๕๕๗ ก่อนที่
คสช.จะยึดอำนาจเข้าบริหารประเทศ ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๗” ตามเนื้อข่าวไทยรัฐ “และปี 2558
ผู้กองธรรมนัสมีชื่อติดโผมาเฟียกรุงเทพฯ ที่ คสช.อยากเจอ”
คสช.ได้เจอหรือเปล่าไม่แจ้ง
แต่ช่วงนั้นเขาโด่งดังอยู่ในจังหวัดพะเยา ถิ่น ‘เสื้อแดง’
ถ้า คสช.วางแผน ‘ดูด’
ตั้งแต่ครั้งนั้นก็น่าจะได้คุยกับผู้กองนัสบ้างแล้ว เพราะเมื่อต้นปี ๖๑
เขาก็มีชื่อพัวพันขบวนการฉ้อโกงเงิน ‘พันธุ์บิตคอยน์’
ผู้กองนัสหลุดคดีเงิน ‘ดราก้อนคอยน์’ อย่างง่ายดายเช่นกัน
เพราะบริษัทดีเอ็นเอ ๒๐๐๒ ที่เขาซื้อหุ้นมูลค่า ๑๙๕ ล้านบาทมาในวันเดียวกับนายปริญญา
จารวิจิต ผู้ต้องหาโกงเงินบิตคอยน์ขายหุ้นของเขานั้น ดีเอ็นเอได้แถลงดักไว้แล้วว่า
เขา “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินฉ้อโกงใดๆ ทั้งสิ้น”
เดิมที่มีข่าวลือว่าผู้กองนัสจะได้เป็น
รมว.แรงงาน แล้วพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด่าสื่อว่า “ต้องรับผิดชอบจัดโผผู้กองมนัสนั่งแรงงาน โผนั่งเทียน”
สื่อพลาดตรงที่ไม่ได้นั่งกระทรวงแรงงาน แต่ไปอยู่เกษตรและสหกรณ์แทน ซ้ำได้ขั้น
รมช. ไม่ใช่ รมว.
ส่วนประเด็นที่นายธรรมนัสเคยเป็น
‘เสือกองสลาก’ “ถือว่าเข้าข่ายได้ประโยชน์จากกิจการหรือสัมปทานของรัฐหรือไม่”
วิษณุก็แก้ว่า “ต้องดูว่าปัจจุบันยังทำอยู่หรือไม่
ตนไม่รู้ ถ้าทำมาตั้งแต่ในอดีตไม่เป็นไร แต่ถ้ายังทำอยู่จะมีปัญหา”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_1575727 และ https://www.thairath.co.th/news/business/1358631)
นั่นก็น่าจะรอดได้ไม่ยาก
เพราะห้างหุ้นส่วนขวัญฤดีที่ผู้กองนัสถือหุ้น ๑ ใน ๓ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่าย ๕
เสือกองสลากมานานนับสิบปีนั้น ดูเหมือนจะละลายหายไปจากวงการเมื่อ คสช.ยึดอำนาจ
และพล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ตอนนั้นที่มาเป็น ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ถูกส่งเข้าไป ‘คุม’ กองสลาก
น่าที่ ‘บิ๊กแดง’ ลูก ‘บิ๊กจ๊อด’
จะปฏิบัติหน้าที่คุมกองสลากได้อย่างดีเยี่ยม ตอนขึ้นเป็น
ผบ.ทบ.ชาวบ้านถึงได้ลือกันว่าเป็นที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่
๑๐
ยิ่งก่อนจะมีราชกิจจาโปรดเกล้าฯ รายนามคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ออกมาวันเดียว
ผู้กองนัสไปร่วมประชุมพรรคพลังประชารัฐ ด้วย “ผมทรงใหม่ เกรียนเป๊ะ”
ชนิดที่วาสนา นาน่วม รายงานว่า “ฮือฮา” นัยว่า
“เตรียมที่จะชี้แจงเรื่องกระแสข่าวต่างๆ เกี่ยวกับประวัติตัวเอง
หลังจากมีรัฐบาลใหม่เรียบร้อย แล้ว”
แต่แล้วผู้กองนัสไม่ต้องชี้แจงอะไรเลย
ทั้งนายกฯ ‘สืบทอด’ คนใหม่
และรองฯ ฝ่ายกฎหมาย ออกมาแก้แทนให้แล้ว แก้ได้หมดไม่หมดไม่สน ความสำคัญอยู่ที่มันย่อมแสดงว่านายคนนี้ต้องมีอะไรดีๆ ในกอไผ่ ให้กับ คสช.