วันอังคาร, กรกฎาคม 23, 2562

“ชาวนารอแป๊บ กำลังเต้นขอฝน” พลังประชารัฐครึกครื้นรื่นเริงรีสอร์ตในพื้นที่อุทยานฯ

“ชาวนารอแป๊บ กำลังเต้นขอฝน” เพจดังเขาว่างั้น “พี่น้องที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งใจเย็นๆ...เอ๋ เดียร์ ตั๊น ๑,๗๐๐ พลังประชารัฐ” ขึ้นเวทีทั้งเต้นทั้งรำกันครื้นเครงในรายการ คาวบอยไน้ท์หลังการประชุมจัดกองกำลังพิทักษ์เฮียตูบในสภา

พอดีไม่บังเอิญสถานที่จัดเป็นรีสอร์ตมีปัญหาบุกรุกป่าสงวน ถูกกรมอุทยานฯ สั่งให้รื้อถอน แต่ขณะนี้ “อยู่ระหว่างยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลปกครองสูงสุด” ส.ส.ท้องที่อ้าง “รู้ว่าผิด แต่ก็พาไปให้เห็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพราะที่ดิน ส.ป.ก.จะให้ไปทำเกษตรอย่างเดียวในเวลานี้ก็ลำบาก”

กรณีนี้คล้าสสิคมาก ถ้าจำกันได้ชาวบ้านซับหวาย ชัยภูมิ ๑๔ คนถูกศาลตัดสินจำคุกและชดใช้ค่าเสียหายในข้อหาบุกรุกที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง เนื่องจาก คสช.ประกาศคำสั่งทวงคืนผืนป่า ที่ชาวบ้านเหล่านั้นอยู่อาศัยทำมาหากินสืบเนื่องกันมา
 
ข้อหาไม่ได้ต่างกันสักมากน้อย กับรีสอร์ต ๘๘ การ์มองเต้วังน้ำเขียวที่พรรคพลังประชารัฐใช้จัดประชุมและร้องเล่นเต้นรำรื่นเริงกันเมื่อคืนวันที่ ๒๑ ก.ค. มีดาราหญิงของพรรคขึ้นเวทีเรียงแถวเต้นโชว์คึกคัก

นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ผู้จัดหาสถานที่พูดโยนความผิดว่า “เป็นพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ไม่ประกาศให้ชัดเจน ทำให้เกิดปัญหามาตลอด” นับแต่การประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน เมื่อปี ๒๕๒๐

ถ้าหากเป็น “การประกาศทับพื้นที่อยู่อาศัยเดิมของชาวบ้าน ทำให้เกิดปัญหาว่าเป็นการบุกรุก” ดัง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐอ้าง ไฉนชาวบ้านซับหวายกลับถูกศาลตัดสินจำคุกและปรับ ซึ่ง ๓ ใน ๑๔ คนเพิ่งได้รับการปล่อยตัวโดยกองทุนหลักประกันเมื่อวานนี้เอง

สาธารณชนได้เห็นภาพสะเทือนใจชาวบ้านที่ต้องถูกจองจำเพราะความยากไร้ของตน เพียงแค่ได้รับการประกันตัวสู่อิสรภาพชั่วคราวก็สุดแสนจะดีใจกันแล้ว ไม่เหมือนเจ้าของรีสอร์ตผู้มั่งคั่ง และมีเส้นสายเหนียวแน่นกับนักการเมืองพรรครัฐบาล

ภาพของความเหลื่อมล้ำเช่นนี้ชัดเจนยิ่งในยุค คสช. นอกจากรีสอร์ตไม่สะทกสะเทือนกับความผิดที่กระทำแล้ว ยังได้รับการปกป้องความผิดให้โดยนักการเมืองพรรครัฐบาล ซึ่งสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช.ด้วย

โดยเฉพาะหัวหน้า คสช.ที่ผันตัวมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยกลโกงและใช้อำนาจเอาเปรียบคู่แข่ง วันที่ ๒๕-๒๖ นี้ถึงเวลาที่จะต้องเข้าสภา แถลงนโยบายซึ่งโดยธรรมชาติของการเมืองระบบรัฐสภา ผู้แถลงฯ จะต้องตอบข้อซักไซร้ไล่เลียงของบรรดา ส.ส.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาเปรยเชิงสั่งห้ามไว้แล้วเมื่อสองสามวันก่อน ว่าให้ ส.ส.ฟังอย่างเดียว อย่าได้อภิปรายสับโขก ส่วนการประชุมที่รีสอร์ตผิดกฎหมาย จัดกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบ ๓ กองร้อยคุ้มกัน นั่นก็เพื่อวางตัว ส.ส.ในสังกัดของตน ๗๐ ไว้อภิปรายโต้ตอบและสกัดกั้น ไม่ให้ฝ่ายค้านสร้างความระคายเคืองแก่ตนได้

มิใยที่ประเทศชาติกำลังตกอยู่ในอาการย่ำแย่ ไหนจะเศรษฐกิจจมปลัก เงินหาไม่ได้ ของขายไม่ออก สำนักนโยบายยุทธศาสตร์การค้าต้องออกมาแถลงสภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานเรื่องปากท้องประชาชนอีกครั้ง ว่าการส่งออกซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีวัดความมีกินของประเทศ ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี่ ติดลบ

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการฯ เปิดเผยว่าเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การส่งออกของไทยติดลบ ๒.๑๕% เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ ถึงจะไม่มากเท่าเดือนที่แล้ว แต่ว่า “สินค้าส่งออกสำคัญ ๑๐ อันดับแรกของไทย ปรับตัวลดลงเกือบทุกรายการ”

ด้านเกษตรฯ ก็ไม่ยอมหนี “ยังหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๒ โดยเฉพาะข้าวติดลบถึง ๓๔.% ตามความต้องการของตลาดที่ลดลง เนื่องจากจีนเริ่มเป็นผู้ส่งออกข้าวแทนการนำเข้า” มหามิตรของ คสช.ชาตินี้ ดูจะมีแต่เอารัดเอาเปรียบประเทศไทยยิ่งขึ้นทุกวัน

เรื่องปัญหา ภัยแล้ง ที่คนไทยกำลังเผชิญกันอยู่ภายในประเทศ จีนก็จะมีส่วนทับถมต่อการที่ลำน้ำโขงแห้งเหือดทั้งที่เป็นฤดูฝน ลำพังเขื่อนไซยะบุรีที่ลาว ซึ่งบริษัท ช.การช่าง หนึ่งในวิสาหกิจเจ้าสัว ที่แนบสนิทกับ คสช. เป็นผู้ลงทุน คงร่วมก่อปัญหาเพียงส่วนเดียว

ยังมีเขื่อนอื่นๆ ของจีนอีกมากมายซึ่งตั้งอยู่ตามต้นแม่น้ำโขง ในสภาพแห้งแล้งผิดและน้ำน้อยปกติขณะนี้ เป็นที่กังวลกันอย่างยิ่งว่า เพียงเขื่อนจีนกักน้ำไว้แค่สี่ซ้าห้าแห่ง ก็จะทำให้ลำโขงแห้งผากเต้มไปด้วยสันดอนยิ่งกว่าตอนหน้าแล้ง
 
ย้อนกลับมาที่ภัยแล้งภายในประเทศ ข้อเท็จจริงเป็นปรากฏการณ์ที่กำลังวิกฤติทุกหย่อมหญ้า จากเขื่อนแควน้อย ลำตะคอง มายังเขื่อนสิริกิตติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากพื้นที่พิษณุโลก มายังสกลนคร สุรินทร์ อุตรดิตถ์ เรื่อยไปถึงแพร่ กำแพงเพชร พิจิตร และพะเยา

“พื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศลดลงครึ่งหนึ่ง เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาหายไป ๒๖% ผลกระทบจาก ๔ เขื่อนหลัก...เหลือน้ำใช้การได้แค่ ๙% ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าฤดูแล้ง” ปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะอดีตผู้เชี่ยวชาญจัดการน้ำในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสนอแนะรัฐบาลไว้ ๗ ข้อ

ก็ไม่มีเสียงตอบจากสวรรค์ มีแต่เสียงชาวบ้าน (CHAI @CHAI69477887) ตะโกนว่า “ไอ้ตู่คนเก่งไปไหนว๊ะ” โถเฮียเค้ากำลังตั้งสติรอรับการอภิปราย ไม่พอใจ ของฝ่ายค้าน เรื่องจะให้ตอบอะไรคงไม่ตอบหรอก มีลิ่วล้อตอบแทน

แต่เรื่องคุมอารมณ์ ไม่ฉุน ไม่ยั๊วะ ไม่ออกลูกกักฬระ ไม่ตั้งท่าจะทุ่มโพเดี้ยม นั่นน่ะปัญหาใหญ่ คุมได้ไหม หรือว่าสั่งทีวีรัฐสภาตัดสัญญานทันไหมเท่านั้น

(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_212611, https://www.khaosod.co.th/economics/news_2731681, https://www.facebook.com/dr.plodprasop/posts/1379439405541818, https://www.facebook.com/ManushyaFdn/posts/2392932280989208tn__=-R, https://www.matichoninfos.com/politics/news_1591568 และhttps://twitter.com/moui/status/1152981213822562304)