วันศุกร์, กรกฎาคม 19, 2562

ยังไม่ทันไรก็เปิดทางให้ยึดอำนาจกันอีกแล้ว! - 'หมอเหวง' ชี้





'หมอเหวง' ชี้...ยังไม่ทันไรก็เปิดทางให้ยึดอำนาจกันอีกแล้ว!

ยูดีดีนิวส์ : 18 ก.ค. 62 จากการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน กับสื่อญี่ปุ่น วันนี้ นพ.เหวง โตจิราการ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวความว่า

ยังไม่ทันไรก็เปิดทางให้ยึดอำนาจกันอีกแล้ว

นับแต่ยึดอำนาจรัฐประหารครั้งแรกโดยพระยามโนปกรณ์นิติธาดาเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน (25 ครั้งแล้วเมื่อนับพวกล้มเหลวด้วย)

ข้อกล่าวหาที่นำมาเป็นข้ออ้างสำคัญที่สุดก็คือการล้มล้างสถาบัน

แต่เวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ซื่อสัตย์ที่สุดว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเท็จ

ตั้งแต่ใส่ร้ายอ.ปรีดีว่าเป็นคอมมิวนิสต์ในเรื่องเค้าโครงเศรษฐกิจ ซึ่งต่อมาก็ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องเท็จ

ต่อมาก็ใส่ร้ายนักศึกษาในธรรมศาสตร์ว่าต้องการล้มล้างสถาบัน จนเกิดการฆ่าอย่างอำมหิตกลางเมืองในธรรมศาสตร์และสนามหลวงในกรณี 6 ตุลา 19

ซึ่งต่อมาก็พิสูจน์ว่าเป็นเรื่องเท็จเช่นกัน

มาจนล่าสุดศอฉ.ก็โกหกเรื่องผังล้มเจ้า เพื่อปลุกระดมให้กำลังพลในกองทัพให้สังหารคนเสื้อแดงอย่างเหี้ยมโหด
ไม่ต่างอะไรกับสงครามล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดาที่ใส่ร้ายอีกฝ่ายว่าเป็น "แมลงสาป"

ในที่สุดพล.ท.สรรเสริญแก้วกำเนิดโฆษกศอฉ.ยอมรับต่อหน้าศาลเองว่า "ผังล้มเจ้า" ไม่เป็นความจริง

ดังนั้นการกล่าวหาว่า "ล้มสถาบัน" จึงเป็นเรื่องเท็จ
ที่ทหารเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจทุกครั้งไป

คราวนี้ก็เริ่มปูทางไว้อีกแล้ว

ผมขอเรียนว่า "โปรดอย่านำสถาบันมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองกันอีกต่อไปเลยครับ ถ้าหากว่าพวกท่านจงรักภักดีต่อสถาบันด้วยความสัตย์จริง"

พสกนิกรชาวไทยเจ็ดสิบล้านคนล้วนจงรักภักดีต่อสถาบันทั้งสิ้น

พวกเผด็จการทหารต่างหากที่มักใช้สถาบันเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของตนเอง

ข้ออ้างเรื่องนักการเมืองโกงกินและแทรกแซงครอบงำองค์กรต่าง ๆ ก็ถูกนำมาอ้างเสมอ

ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็พิสูจน์ได้เช่นกันว่าเป็นเรื่องโกหกคำโต
กลับเป็นพวกรัฐประหารนั่นแหละโกงกินบ้านเมืองกันอย่างบ้าระห่ำ
ไปดูตัวอย่างของจอมพลสฤษดิ์จอมพลถนอมจอมพลประภาสหรือพวกรสช.กันดูก็แล้วกัน

มาครั้งนี้ผู้ทำรัฐประหารที่สร้างความพินาศอย่างย่อยยับให้กับประเทศใน, 13 ปีที่ผ่านมา (19 กันยา 49)
มาอ้างเรื่องนักการเมืองไม่เอาใจใส่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนว่าเป็นเหตุนำไปสู่การยึดอำนาจรัฐประหาร

เห็นได้ชัดเจนในตัวเองว่าเป็นเรื่องเท็จ

เพราะนักการเมืองมาจากการเลือกตั้งของประชาชน
ถ้าไม่สนใจเอาใจใส่ประชาชนเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนก็ไม่เลือกเขากลับมาอีก
และในความจริงเขาผู้นี้ยึดอำนาจรัฐประหารรัฐบาลไทยรักไทยที่พลิกชีวิตของประชาชนจากต่ำเตี้ยติดดินมาเป็นเงยหน้าอ้าปากและเปลี่ยนเป็นชนชั้นกลางได้จำนวนมาก

คสช.ก็โค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ปลดเปลื้องหนี้สินของเกษตรกรได้เกือบทั้งประเทศ

ที่อ้างอย่างไม่อายฟ้าอายดินว่ายึดอำนาจสำเร็จเพราะประชาชนเรียกร้องหรือประชาชนสนับสนุน

ก็เป็นเรื่องเท็จอีกเช่นกัน

รัฐประหารของพระยามโนก็ไม่มีประชาชนเรียกร้อง

รัฐประหารของรสช.ก็ไม่มีประชาชนเรียกร้อง

รัฐประหาร 19 ก.ย. 49 และรัฐประหาร 22 พ.ค. 57
ล้วนแล้วแต่เป็นการสมคบคิดระหว่างพธม.และกปปส.กับคณะรัฐประหารทั้งสิ้น
ไม่มีประชาชนที่ไหนเรียกร้องหรือสนับสนุนทั้งนั้น

คณะรัฐประหารมีปืนอยู่ในมือมีอำนาจเด็ดขาดอยู่ในมือ
ใครที่ไหนจะกล้าหือกล้าอือได้เล่าครับ?

ที่จริงรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 นั้นเหยียดหยามรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ด้วยซ้ำไปว่า "เสียของ"
จึงต้องการทำไม่ให้เสียของ
ทั้งออกแบบรัฐธรรมนูญปราบโกงทั้งสว.แต่งตั้ง 250 ทั้งกกต.ที่คิดคะแนนพิสดารทั้งพรรคการเมืองที่ทำอะไรก็ไม่ผิด ฯลฯ
แล้วยังจะนำไปสู่รัฐประหารอีกหรือ
ใครจะรัฐประหารโค่นล้มใครครับ?

ผมว่าเลิกเดินเส้นทางรัฐประหารเถิดครับ

อย่าลืมนะครับ

เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงคือประชาชนนะครับ

สามจอมพลเผด็จการทรราช สฤษดิ์-ถนอม-ประภาส
เป็นตัวอย่างที่ดีในการเหยียบย่ำประชาชนเป็นเวลากว่าสิบปี
เมื่อถึงจุดที่ประชาชนทนต่อไปไม่ไหว
ก็จะเกิดเหตุการณ์มวลมหาประชาชนขับไล่เผด็จการให้พ้นไปจากแผ่นดินครับ


ยูดีดีนิวส์ - UDD news
...