ฟังวิษณุหมดอาย กล้าพูดพลังประชารัฐใช้รีสอร์ตรุกป่าไม่ผิด ป้อมนั่งฮ.เหมือนเอารถหลวงซื้อกับข้าว

https://www.facebook.com/VoiceTVOverview/videos/884572841916788/
...

อันที่จริงกรณีพรรคพลังประชารัฐไปจัดสัมมนาในรีสอร์ทที่วังน้ำเขียว
แล้วโดนคุ้ยว่านั่น รีสอร์ทรุกป่า
ถูกจับดำเนินคดีมาสองหน
และปัจจุบันก็ยังเป็นคดีฟ้องร้องกันอยู่นั้น
ไม่ควรจะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลย
แค่ยอมรับผิด(หรือแกล้งยอมรับ) ว่าไม่รู้
เรื่องก็คงเป็นเรื่องอยู่วันสองวันแล้วก็จะเงียบหายไป
แต่พอดัน”แถ”
ไม่รับผิดไม่ว่าจะเอาเท่ด้วย
คราวนี้คนจำนาน
มีเรื่องเกี่ยวพันเมื่อไหร่ก็จะถูกหยิบมาประจาน
...
การแถไปดื้อๆว่า
รู้อยู่แล้วว่าสัมมนานี้จัดในรีสอร์ทที่รุกป่า
แต่ว่ามาดูเพื่อจะได้รู้ปัญหานั้น
นอกจากชวนให้หัวเราะด้วยความสมเพชแล้ว
ยังแสดงทัศนคติ”อุบาทว์”อีกหลายอย่าง
อย่างแรกเลยคือความไม่รู้ผิดถูก
รัฐบาลที่ไม่ยึดกฎหมาย แต่แถไปได้เรื่อยๆ(เพื่อประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก)
สมควรจะเป็นรัฐบาลหรือไม่
อย่างต่อมา ถามจริงๆเถอะว่า ไม่เคยรู้ปัญหาแบบนี้มาก่อนเลยหรือ
จำเป็นขนาดไหนต้องไปดูงาน(ที่ทำผิดกฎหมาย-ในชุดคาวบอยและการปาร์ตี้)
ไม่รู้ปัญหาชาวบ้าน(แล้วยังแถ)
มีหน้าเสนอตัวมาเป็นตัวแทนชาวบ้านได้อย่างไร
ทัศนคติเรื่องสปก.ของนักการเมืองกลุ่มนี้เป็นอย่างไร
จำตอนหาเสียงได้หรือไม่
ที่ขึ้นเวทีประกาศจะยกเลิกสปก.ให้หมดประเทศ
เปลี่ยนเป็น”โฉนดทองคำ”
ประกาศที่โคราชจังหวัดเดียวกันนี่แหละ
ประกาศปุ๊บ ที่กรุงเทพฯได้ยินปั๊บ
เหมือนถูกเหล็กสวนทวาร นั่งไม่ติด
ต้องต่อสายด่วนให้เลิกพูด เลิกประกาศนโยบาย(คิดเอง)เดี๋ยวนั้น
ยังจำด้ายหมายยยย
...
ที่สำคัญ
พรรคพลังประชารัฐที่พยายามสร้างภาพว่า เป็นพรรคการเมืองรุ่นใหม่ มีระบบบริหารจัดการที่ดี
เอาเข้าจริงแล้วกลวงในหลวมโพรก
เอาแค่ว่าการประเมินภาพลักษณ์ของตัวเองในสายตาชาวบ้านว่าเป็นอย่างไร
ก็ไม่เคยมี
เลยไม่รู้ว่าในสายตาของคนจำนวนไม่น้อย
พลังประชารัฐคือพรรคทหาร พรรคอำนาจ พรรคเส้นใหญ่
ทำอะไรก็ได้ไม่เคยผิด
เลือกตั้งก็มีพลวปัจจัยมากกว่าคนอื่นเขา
แจกเอาๆอยู่พรรคเดียว
กกต. ตำรวจ หรือหน่วยงานตรวจสอบทั้งพร้อมใจกันตาบอดชั่วคราว
มองไม่เห็นเสียอย่างนั้น
เลือกตั้งเสร็จ การนับคะแนน-คำนวณสส.ก็น่าเคลือบคลุมสงสัย
ได้ที่สองก็เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลผสม(ที่มีพรรคร่วมสนับสนุนมากที่สุดในโลก)ได้
ไปสัมมนาก็มีทหาร-ตำรวจ 3 กองร้อยมาดูแล
แถมยังไปสัมมนาในรีสอร์รุกป่า
แล้วแถไปแบบด้านๆดื้อๆอีก
มันจะ”เส้นใหญ่”ให้น่าหมั่นไส้ไปถึงไหน
...
แถมท้าย
กรณีสัมมนาในรีสอร์ทรุกป่าแล้วแถหน้าด้านๆนี่
ยังประจานระบบ”เลียนาย”ของราชการไทย
เพราะพอมีเรื่องขึ้นมา แล้ว”ขาใหญ่”ทั้งหลายไม่ยอมรับผิด
หน่วยราชการ-ข้าราชการที่เคยไปรุกไล่จับกุม ไถกราดรื้อถอน(รีสอร์ทที่ไม่มีเส้น)ก็พร้อมใจกันหุบปากเงียบกริบ
นโยบาย”ทวงคืนผืนป่า”(ที่แสนจะอุบาทว์ เพราะเลือกจัดการแต่ชาวบ้านตัวเล็กตัวน้อย ไม่เคยทำอะไรนายทุนใหญ่ได้)ก็ยิ่งน่าหัวร่อ(หรือน่าถ่มน้ำลายใส่)
...
ความคับข้องใจประเภทนี้อาจจะยังไม่ใช่ฟางเส้นสุดท้าย
แต่ขยันถมขยับทับเข้าไปเถอะครับ
เดี๋ยวก็ได้เห็นผลเข้าสักวัน
สงสัยอยู่ว่าจะไม่ช้าไม่นานเสียด้วย
...

Thakoon Boonparn