วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 25, 2562

"วจนา วรรลยางกูร" คุยกับ "จรัล ดิษฐาอภิชัย" จากกรรมการสิทธิฯ สู่ชีวิตลี้ภัยการเมือง





"ถ้าผมเลิกสู้ ชีวิตก็ไม่มีความหมาย พูดในแง่นี้คือเห็นแก่ตัว เพราะการต่อสู้ทำให้ผมมีชีวิต ทำให้ผมมีความหมาย มีความสุข มีความหวัง ทั้งๆ ที่มองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์และที่ผ่านมาก็แพ้มากกว่าชนะ แต่ผมชอบวิถีชีวิตแบบนี้ ถ้าเลิกสู้ ผมจะทุกข์มาก"
.
วจนา วรรลยางกูร พูดคุยกับ จรัล ดิษฐาอภิชัย อดีต กสม. และอดีตแกนนำ นปช. ถึงชีวิต 5 ปีในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองบนแผ่นดินฝรั่งเศส และความใฝ่ฝันถึง 'สังคมอุดมคติ'
.
"ที่เพื่อนๆ คุณมาด่าผมทุกวันเพราะเขาคิดว่าผมเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นคนขายชาติ เป็นคนทำร้ายชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ เป็นพวกลัทธิอุบาทว์ เพราะงั้นผมจึงไม่โกรธเพื่อนๆ คุณเลยที่มาด่าผม มาถุยน้ำลาย มาเยี่ยวใส่ ผมไม่โกรธ เพราะเขาคิดว่าผมขายชาติไง ถ้าผมเป็นเขา แล้วผมรักชาติมาก เผลอๆ ผมอาจปฏิบัติยิ่งกว่าที่เขาปฏิบัติกับผม เรารู้กฎของการต่อสู้"
.
"อุดมการณ์ประชาธิปไตยต้องมีความเชื่อมั่นว่าจะชนะในการต่อสู้ ถ้าไม่เชื่อมั่นคนก็ไม่อยากสู้ ยกเว้นนักต่อสู้ที่สู้กันมายาวนานแล้ว แม้เห็นว่าแพ้ก็จะยังสู้ แต่คนส่วนใหญ่ไม่เป็นอย่างนั้น ซึ่งเข้าใจได้ เพราะเวลานี้ก็ยังไม่มีใครเสนอแนวทางที่คนเชื่อว่าสู้แล้วจะชนะได้"
.
"ผมเชื่อในมนุษยชาติที่จะหาทางแก้ปัญหาและแสวงหาสังคมที่ดี ไม่เช่นนั้นมนุษยชาติจะอยู่ไม่ได้ หรืออยู่แบบที่คนส่วนใหญ่ทุกข์ทรมาน"
.

อ่านบทสัมภาษณ์ได้ที่ : https://www.the101.world/jaran-ditapichai-interview/