.jpg)
ประยุทธ์ของขึ้น ปฏิเสธวางแผนรัฐประหารมา 3 ปี แต่หมายถึงการเป็นผบ.ทบ. ว่าต้องเจออะไรมาบ้าง#รัฐประหาร #ประยุทธ์ pic.twitter.com/eR5mjN2Cz5— Thairath_News (@Thairath_News) July 26, 2019
ทั้งวางแผนและสมคบคิดทำให้เกิดสภาวะที่รัฐบาลพลเรือนปกครองบริหารไม่ได้เพื่อสร้างเหตุจำเป็นในการทำรัฐประหารผมยืนยันคำถามอจ.วันนอร์ เรื่อง”ตู่”เตรียมการรัฐประหารมา3ปี. กว่า ก่อนทำการยึดอำนาจจริงใน22พค57(ผมอยู่ในหอประชุมทบ.วันนั้นด้วย)— Phumtham Wechayachai (@phumtham) July 26, 2019
เท่ากับตอกย้ำว่า”ตู่”เตรีบมการและตั้งใจเข้ามาสู่อำนาจ...ผลพวงทั้งหมดจึงคือเรื่องการเตรียมเข้ามายึดอำนาจและตั้งใจสืบทอดอำนาจต่อโดยแท้
...
ข่าว “สุเทพ” ปูดสมคบ “ประยุทธ์” โค่นระบอบทักษิณ ระวังป่วน!!
24 มิ.ย. 2557
โดย: MGR Online
ผ่าประเด็นร้อน
ทำท่าเป็นเรื่องขึ้นมาแล้วซีพี่น้อง หลังจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และเว็บไซต์บางกอกโพสต์ นำเสนอข่าวอ้างคำพูดของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการ กปปส.เปิดเผยระหว่างร่วมงานเลี้ยงระดมทุนของ กปปส.ที่แปซิฟิกคลับย่านสุขุมวิท เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา สร้างความฮือฮากับสังคมกันแบบหูผึ่งกันเลยทีเดียว
บางกอกโพสต์นำเสนอข่าวเป็นภาษาอังกฤษ ที่แปลเป็นภาษาไทยเป็นหัวข้อข่าวว่า “สุเทพคุยลับกับประยุทธ์ ตั้งแต่ปี 2553 เป้าหมายคือระบอบทักษิณ” เนื้อหาของรายงานข่าวชิ้นนี้เป็นการอ้างคำพูดของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่เปิดเผยเรื่องลับดังกล่าวกลางวงงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำในงานหาทุน ทำนองว่า ทั้งคู่ได้ติดต่อสื่อสารกันมาตลอดเวลานับตั้งแต่ปี 53 โดยอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับรู้ถึงพิษภัยของระบอบทักษิณมานานแล้ว ในเนื้อข่าวยังอ้างคำพูดของสุเทพ อีกว่าการหารือติดต่อของทั้งคู่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งก่อนการรัฐประหาร!
แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องกลายเป็นเรื่องฮือฮา สร้างความสนใจให้กับทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่างแน่นอน สังเกตเห็นเป็นรูปธรรมก็คือ ฉับพลันที่มีการรายงานข่าวดังกล่าวนี้ทาง “แมเนเจอร์ออนไลน์” เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนเพียงไม่กี่นาทีก็มียอดผู้อ่านคลิกเข้าไปอ่านยอดสูงปรี๊ดกลายเป็นข่าวยอดนิยมไปทันที และแน่นอนว่านี่คือความเคลื่อนไหวของสังคม และมองว่านี่คือ “เรื่องอ่อนไหว” ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจพิสูจน์ชัดว่าที่มาของข่าวดังกล่าวเป็นคำพูดของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่สื่อความหมายออกมาแบบนี้หรือไม่ หรือว่าพูดแบบหนึ่งแต่มีการสื่อสารออกมาอีกแบบหนึ่งผิดเพี้ยนออกไป โดยเฉพาะต้องรอการชี้แจงจากปากของเจ้าตัว คือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วย ซึ่งก็เป็นได้และเป็นไปไม่ได้เท่าๆกันว่าว่าจะออกมาเคลียร์หรือไม่ เพราะเขาประกาศยุติบทบาทในฐานะเลขาฯ กปปส.และยุติบทบาททางการเมืองไปแล้ว โดยให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารบ้านเมืองต่อไป
แน่นอนว่าข่าวนี้ย่อมต้องทำให้ คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งไม่ติด โดยรีบสั่งการให้รองโฆษกกองทัพบก พอ.วินธัย สุวารี ออกมาชี้แจงว่า เป็นข่าวที่คลาดเคลื่อน แต่ยอมรับว่าการติดต่อจะมีในลักษณะที่ได้รับมอบหมายจากฝ่ายรัฐบาล (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ในฐานะฝ่ายความมั่นคงที่ต้องหาทางให้ทุกฝ่ายได้พูดคุยกันบนพื้นฐานทางกฎหมาย แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ แต่ตอนท้ายของคำพูด พ.อ.วินธัย ได้แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่พอใจต่อการให้ข่าวดังกล่าวของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นอย่างมาก โดยเห็นว่าทุกอย่างในบ้านเมืองกำลังไปได้ดี ไม่น่าจะออกมาพูดแบบนี้
ที่น่าจับตาก็คือ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว ที่รับรองว่าฝ่ายระบอบทักษิณและมวลชนเสื้อแดงที่เวลานี้กำลังกบดานเงียบ แต่เชื่อว่ายังไม่หยุดงานใต้ดินแน่ จะต้องนำไปขยายผลทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน และที่สำคัญรายงานข่าวชิ้นนี้เผยแพร่เป็นภาษาต่างประเทศ มีการส่งต่อไปถึงต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วย่อมต้องเกิดความเสียหายต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อาจทำให้คนทั่วไปมีความเข้าใจว่า “มีการวางแผนล่วงหน้า” มาก่อน ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจผ่าทางตันให้แก่บ้านเมืองอย่างกะทันหัน
ดังนั้น ต้องมีการชี้แจงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจากบุคคลทั้งสอง นั่นคือ ทั้ง สุเทพ เทือกสุบรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะหากข่าวไม่คลาดเคลื่อนอ้างว่ามีการติดต่อสื่อสารกันมาตั้งแต่ปี 2553 และมีการติดต่อกันทาง “ไลน์” กันอย่างต่อเนื่อง มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้สังคมได้คิดไปต่างๆ นานา ในทำนองที่ต้องมองในทางลบ อาจเสียความรู้สึกกันบ้าง ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็เพิ่งปรากฏภาพเป็นหลักฐานชัดเจนหลังจากการัฐประหารยึดอำนาจไม่กี่วันบรรดาแกนนำ กปปส.ก็มีการสวมเสื้อลายพรางทหารด้านหลังสกรีนคำว่า “บูรพาพยัคฆ์” ปาร์ตี้กันอย่างครึกครื้น คราวนั้นก็เรียกเสียงวิจารณ์ตำหนิกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เรื่องก็เงียบไปและหลายคนก็ยอมหรี่ตาให้ข้างหนึ่ง ไม่อยากพูดถึง แต่คราวนี้เมื่อมีข่าวแบบนี้ออกมาอีก มันก็ช่วยไม่ได้ที่อาจทำให้มีการปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าหากันก็ได้ อาจมีการตั้งคำถามถึงสาเหตุที่ สุเทพ ประกาศยุติบทบาทโดยปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้บริหารบ้านเมืองและทำการปฏิรูปต่อไป มันเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร
ขณะเดียวกัน หากสังเกตให้ดีคำพูดคำชี้แจงของ พ.อ.วินธัย สุวารี ก็บอกว่าเป็นข่าวคลาดเคลื่อน ไม่ได้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง และยังบอกว่า บ้านเมืองกำลังไปได้ดี สุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่น่าออกมาพูดแบบนี้ ความหมายแบบนี้ก็คือมันก็มีส่วนจริง แต่จริงไม่หมด และงงว่าทำไมถึงต้องพูดตอนนี้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าในภาพรวมคงไม่ถึงขั้นกระทบใหญ่หลวง อาจเพียงแค่เปิดทางให้ฝ่ายตรงข้ามได้ใช้จังหวะขยายผลได้มากขึ้นกว่าเดิม ใช้เป็นแต้มสะสมในวันหน้า ซึ่งคราวนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องอ่อนไหว จนส่อไปทางบานปลายได้เหมือนกัน!!
