วันเสาร์, กรกฎาคม 27, 2562

ถึงทีสภาเดือดเพราะนายกฯ แข็งกร้าว สว.ลิ่วล้อตู่ตั้ง ท้าต่อยฝ่ายค้าน ข้อสำคัญไม่ได้ถวายสัตย์เรื่อง 'รักษาและปฏิบัติตาม รธน.' นี่เหมือนจงใจ


เพราะนายกฯ เป็นคนแข็งกร้าว เอาแต่ใจ ลุแก่อำนาจไหมนี่ การแถลงนโยบาย คสช.๒ จึงได้ขยับจากหรรษาไปเป็นวุ่นวาย จนลงท้าย เดือดชนิดลิ่วล้อ สว.ตู่ตั้ง หน่อหนึ่งท้าตีท้าต่อยตัวต่อตัวกลางที่ประชุมกับฝ่ายค้าน

การวางอำนาจกลางสภาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนหนึ่งหลังจากที่ถูกวันมูหะมัดนอร์ มะทา อภิปรายว่าจำได้และมีหลักฐานยืนยัน วันที่ยึดอำนาจประยุทธ์พูดตอนหนึ่งว่าใครจะคิดสู้ก็สู้ไม่ได้ เพราะเตรียมการมาอย่างดีแล้ว ๓ เดือน

เรื่องนี้ฝ่ายพรรคเพื่อไทยและ ไทยรักไทยออกมายืนยัน ทั้งภูมิธรรม เวชยชัย และจาตุรนต์ ฉายแสง แจ้งว่าจริง “ก่อนรัฐประหารหลายเดือน คนสนิทตู่ส่งสัญญาณไปที่เพื่อไทยหลายครั้งว่าให้ ครม.ลาออก มิฉะนั้นจะทำรัฐประหาร” จาตุรนต์ ย้ำบนเฟชบุ๊ค

ประยุทธ์ลุกขึ้นตอบปฏิเสธ “ไม่ได้เตรียมรัฐประหารมา ๓ ปี แต่ตัดสินใจในวันนั้นเลย (๒๒ พ.ค.๕๗) พร้อมกำชับ ส.ส. ไม่ต้องมายิ้มเยาะเย้ย ผมไม่ชอบ” วีรนันต์ กัณหา @weeranan รายงานเรื่องนี้ว่า “โดนดุอีกแล้ว”

พีพีทีวีบันทึกไว้ กรณี “ฟิวส์ขาดอีกรอบ” เมื่อ ๒๖ ก.ค.๖๒ เวลา ๒๒.๒๐ น. ละเอียดขึ้นว่า “หัวเราะเข้าไป พอใจชอบ เห็นนายกฯ โมโหชอบ ๒ วันอดทนมากแต่ผมไม่โกรธท่าน ท่านคนดีคนเก่งทั้งหมด

ยังพูดอีกว่า คสช.นั้นมีอำนาจมากกว่า ๓ อำนาจ (หลักๆ ของไทย –นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ) ขอให้ทุกคนเข้าใจ...” ฉะนี้ที่เรียกรัฐบาลชุดใหม่นี่ว่า คสช.๒ นั้นถูกต้องตามประยุทธ์อ้าง ฉะนั้นเมื่อมี สว.ตู่ตั้ง เอาอย่างบ้าง ก็เป็นเรื่องของการ หางกระดิกเมื่อหัวกระดก

กิติศักดิ์ รัตนวราหะ สว.ตู่ตั้ง เกิดฮึดฮัดจากการอภิปรายของนายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยอภิปรายเรื่องคอรัปชั่น จากการจัดซื้อรถดับเพลิงของกระทรวงมหาดไทย ซื้อมาเกือบ ๘ พันล้านบาท ไม่ได้ใช้

ยังมีเรื่องสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส ๓ อีก มหาดไทยตีตกข้อเสนอบริษัทพลังงานที่ราคาต่ำ แค่ ๑ หมื่น ๒ พันล้าน ไปให้สัมปทานกับอีกบริษัทที่ราคา ๒ หมื่น ๖ พันล้าน สูงกว่าสองเท่า ก็มีองครักษ์ พปชร.ขอประท้วงว่าเรื่องรถดับเพลิงไม่เกี่ยวนโยบายรัฐบาล

ประท้วงกันไปมาอีกสองรอบก่อนประยุทธ์ตัดบท ขอไปก่อนว่ามีภารกิจสำคัญของชาติต้องเจอกับประธาน ICAO ส.ส.ยุทธพงษ์เลยอิดอ้อนว่า นั่นไง ทนฟังไม่ได้ ท่านนายกฯทนฟังไม่ได้ ท่านหนีไป” ร้อนถึง สว.ตู่ตั้งประท้วงบ้าง

ด่านายยุทธพงษ์ว่าเป็น ขี้ข้าโจร ผู้ถูกพาดพิงขนาดนั้นจึงต้องอัดกลับ ว่าผมนั้น “มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ได้ดีเพราะเลียรองเท้าทหารเข้ามา” ทำให้ทั่น สว.ออกลูกนักเลง “เดินเข้าไปชี้หน้านายยุทธพงษ์ และเรียกเพื่อท้ามาตัวต่อตัวอยู่หลายครั้ง”


ทั้งมวลนั่นยังไม่หมดจุดเดือด สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ว่าประยุทธ์หน้าด้านเมื่อวันก่อน วานนี้ (๒๖ ก.ค.) จะกลับมาอภิปรายต่อบอกว่าคุยกับประธาน พรเพชร วิชิตชลชัยไว้แล้ว ยังเหลืออีกสองประเด็น แต่ประธาน ชวน หลีกภัย ตัดสิทธิไม่ให้พูด อ้างว่าเมื่อวานจบแล้ว
 
เสรีพิศุทธ์ก็เลยจัดให้รองหัวหน้าพรรคเสรีนำไทยสองคนทำเรื่องเสนอใหม่ อภิปรายแทนคนละประเด็น หมอเรวัต วิศรุตเวช ชี้แจงเรื่องคำแถลงนโยบายของรัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญ กับนายวิรัตน์ วรศสิริน ประเด็นการถวายสัตย์ของประยุทธ์ไม่ครบตามธรรมเนียม

เรื่องนี้ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่อภิปรายไว้บ้างแล้วว่า คำถวายสัตย์ต่อกษัตริย์สั้นๆ เพียงปฏิญาณว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน

ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” แค่นี้ยังตกหล่นประเด็นสำคัญประโยคท้ายที่จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่พวกตนเขียนกันเอง ยังปล่อยหลุดไป จงใจไม่ยอมทำตามหลักนิติธรรมหรือไง

ปรากฏว่าประธานฯ ยอมให้สองรองหัวหน้าอภิปรายได้ แต่ต้องไม่เปิดคลิปหลักฐาน ที่ปิยบุตรเอามาโพสต์ไว้แล้วทางหน้าทวิตเตอร์ (@Piyabutr_FWP Jul 24) ดังนั้นเสรีพิศุทธ์จึงได้นำฝ่ายค้านทั้ง ๗ พรรคแถลงข่าวชี้แจงว่าโดนเล่นแง่อย่างไร

ตามข่าวว่าประธานฯ ชวนบอก “สำหรับวันนี้ขอวินิจฉัยว่าเรื่องก็จบแล้ว ขอให้เป็นโอกาสต่อไป พร้อมขออภัยที่อาจทำให้ไม่พอใจ แต่จำเป็นต้องดำเนินการให้การประชุมดำเนินต่อไป” แต่เสรีพิศุทธ์แจงว่า “คุณชวนไปตกลงอะไรกับเขาก็ไม่ทราบ”

“เอาละ ท่านไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุม มาตัดสิทธิผมทั้งๆ ที่ผมยังมีเวลาที่จะพูดอีก ๓๕ นาฑี ๕๑ วินาฑี ถ้าไม่ให้พูดผมจะขออนุญาตใช้สิทธิดำเนินคดีตามกฎหมาย...ทราบว่าท่านให้สัมภาษณ์ว่า ก็เชิญสิ โอเค ผมรับคำท้า”

(ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.thairath.co.th/news/politic/1623613)
 
อย่างไรก็ดีการประชุมวันที่สองมิได้มีแต่จุดเดือด ส.ส.หลายคนโดยเฉพาะฝ่ายค้านอภิปรายเต็มไปด้วยเนื้อหาน่าชมเชย โดยเฉพาะจากพรรคอนาคตใหม่ เช่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรื่องแก้ปัญหาเกษตรกรรม หรือ พรรณิการ์ วานิช เรื่องนโยบายต่างประเทศ

หรือจะเป็น ส.ส.น้ำดีรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย จิราพร สินธุไพร ปริญญาโทเกียรตินิยมทางวิทยาศาสตร์จากอังกฤษ พูดถึงกรณีเวียดนามเซ็นสัญญาการค้าเสรีกับอียู แต่ รมว.พาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ พรรคประชาธิปัตยตอบผิด

“ท่านจุรินทร์ตอบไม่ตรงคำถาม ดิฉันพูดถึงไทยเสียเปรียบเวียดนามในการแข่งขันทางการค้า เพราะเขาทำ EVFTA เสร็จแล้ว แต่ท่านกลับมาโฆษณา RCEP เฉยเลย” เธอว่าถึงจะเจรจาสำเร็จไทยก็ยังเสียเปรียบอยู่ดี เพราะเวียดนามเขาเป็นภาคี RCEP ไปก่อนตั้งนานแล้ว