เพราะนายกฯ เป็นคนแข็งกร้าว เอาแต่ใจ
ลุแก่อำนาจไหมนี่ การแถลงนโยบาย คสช.๒ จึงได้ขยับจากหรรษาไปเป็นวุ่นวาย จนลงท้าย ‘เดือด’ ชนิดลิ่วล้อ สว.ตู่ตั้ง
หน่อหนึ่งท้าตีท้าต่อยตัวต่อตัวกลางที่ประชุมกับฝ่ายค้าน
การวางอำนาจกลางสภาของ พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ตอนหนึ่งหลังจากที่ถูกวันมูหะมัดนอร์ มะทา
อภิปรายว่าจำได้และมีหลักฐานยืนยัน วันที่ยึดอำนาจประยุทธ์พูดตอนหนึ่งว่าใครจะคิดสู้ก็สู้ไม่ได้
เพราะเตรียมการมาอย่างดีแล้ว ๓ เดือน
เรื่องนี้ฝ่ายพรรคเพื่อไทยและ
ไทยรักไทยออกมายืนยัน ทั้งภูมิธรรม เวชยชัย และจาตุรนต์ ฉายแสง แจ้งว่าจริง “ก่อนรัฐประหารหลายเดือน
คนสนิทตู่ส่งสัญญาณไปที่เพื่อไทยหลายครั้งว่าให้ ครม.ลาออก มิฉะนั้นจะทำรัฐประหาร”
จาตุรนต์ ย้ำบนเฟชบุ๊ค
ประยุทธ์ลุกขึ้นตอบปฏิเสธ “ไม่ได้เตรียมรัฐประหารมา
๓ ปี แต่ตัดสินใจในวันนั้นเลย (๒๒ พ.ค.๕๗) พร้อมกำชับ ส.ส. ไม่ต้องมายิ้มเยาะเย้ย ‘ผมไม่ชอบ’” วีรนันต์ กัณหา @weeranan รายงานเรื่องนี้ว่า “โดนดุอีกแล้ว”
‘พีพีทีวี’ บันทึกไว้
กรณี “ฟิวส์ขาดอีกรอบ” เมื่อ ๒๖ ก.ค.๖๒ เวลา ๒๒.๒๐ น. ละเอียดขึ้นว่า “หัวเราะเข้าไป
พอใจชอบ เห็นนายกฯ โมโหชอบ ๒ วันอดทนมากแต่ผมไม่โกรธท่าน ท่านคนดีคนเก่งทั้งหมด
ยังพูดอีกว่า คสช.นั้นมีอำนาจมากกว่า ๓ อำนาจ
(หลักๆ ของไทย –นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ) ขอให้ทุกคนเข้าใจ...”
ฉะนี้ที่เรียกรัฐบาลชุดใหม่นี่ว่า คสช.๒ นั้นถูกต้องตามประยุทธ์อ้าง ฉะนั้นเมื่อมี
สว.ตู่ตั้ง เอาอย่างบ้าง ก็เป็นเรื่องของการ ‘หางกระดิกเมื่อหัวกระดก’
กิติศักดิ์ รัตนวราหะ สว.ตู่ตั้ง
เกิดฮึดฮัดจากการอภิปรายของนายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม
พรรคเพื่อไทยอภิปรายเรื่องคอรัปชั่น จากการจัดซื้อรถดับเพลิงของกระทรวงมหาดไทย
ซื้อมาเกือบ ๘ พันล้านบาท ไม่ได้ใช้
ยังมีเรื่องสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส ๓ อีก
มหาดไทยตีตกข้อเสนอบริษัทพลังงานที่ราคาต่ำ แค่ ๑ หมื่น ๒ พันล้าน
ไปให้สัมปทานกับอีกบริษัทที่ราคา ๒ หมื่น ๖ พันล้าน สูงกว่าสองเท่า ก็มีองครักษ์
พปชร.ขอประท้วงว่าเรื่องรถดับเพลิงไม่เกี่ยวนโยบายรัฐบาล
ประท้วงกันไปมาอีกสองรอบก่อนประยุทธ์ตัดบท
ขอไปก่อนว่ามีภารกิจสำคัญของชาติต้องเจอกับประธาน ICAO ส.ส.ยุทธพงษ์เลยอิดอ้อนว่า
“นั่นไง ทนฟังไม่ได้ ท่านนายกฯทนฟังไม่ได้ ท่านหนีไป” ร้อนถึง สว.ตู่ตั้งประท้วงบ้าง
ด่านายยุทธพงษ์ว่าเป็น ‘ขี้ข้าโจร’ ผู้ถูกพาดพิงขนาดนั้นจึงต้องอัดกลับ ว่าผมนั้น
“มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ได้ดีเพราะเลียรองเท้าทหารเข้ามา”
ทำให้ทั่น สว.ออกลูกนักเลง “เดินเข้าไปชี้หน้านายยุทธพงษ์
และเรียกเพื่อท้ามาตัวต่อตัวอยู่หลายครั้ง”
(https://www.khaosod.co.th/politics/news_2745038 กับ https://www.facebook.com/PPTVHD36/photos/a.620420501309066/3230731903611233/=-R)
ทั้งมวลนั่นยังไม่หมดจุดเดือด สืบเนื่องจาก
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ว่าประยุทธ์หน้าด้านเมื่อวันก่อน วานนี้ (๒๖ ก.ค.)
จะกลับมาอภิปรายต่อบอกว่าคุยกับประธาน พรเพชร วิชิตชลชัยไว้แล้ว ยังเหลืออีกสองประเด็น
แต่ประธาน ชวน หลีกภัย ตัดสิทธิไม่ให้พูด อ้างว่าเมื่อวานจบแล้ว
เสรีพิศุทธ์ก็เลยจัดให้รองหัวหน้าพรรคเสรีนำไทยสองคนทำเรื่องเสนอใหม่
อภิปรายแทนคนละประเด็น หมอเรวัต วิศรุตเวช ชี้แจงเรื่องคำแถลงนโยบายของรัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญ
กับนายวิรัตน์ วรศสิริน ประเด็นการถวายสัตย์ของประยุทธ์ไม่ครบตามธรรมเนียม
เรื่องนี้ ปิยบุตร แสงกนกกุล
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่อภิปรายไว้บ้างแล้วว่า คำถวายสัตย์ต่อกษัตริย์สั้นๆ เพียงปฏิญาณว่า
“ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน
ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
แค่นี้ยังตกหล่นประเด็นสำคัญประโยคท้ายที่จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่พวกตนเขียนกันเอง
ยังปล่อยหลุดไป จงใจไม่ยอมทำตามหลักนิติธรรมหรือไง
ปรากฏว่าประธานฯ
ยอมให้สองรองหัวหน้าอภิปรายได้ แต่ต้องไม่เปิดคลิปหลักฐาน ที่ปิยบุตรเอามาโพสต์ไว้แล้วทางหน้าทวิตเตอร์
(@Piyabutr_FWP Jul 24)
ดังนั้นเสรีพิศุทธ์จึงได้นำฝ่ายค้านทั้ง ๗ พรรคแถลงข่าวชี้แจงว่าโดนเล่นแง่อย่างไร
ตามข่าวว่าประธานฯ ชวนบอก “สำหรับวันนี้ขอวินิจฉัยว่าเรื่องก็จบแล้ว
ขอให้เป็นโอกาสต่อไป พร้อมขออภัยที่อาจทำให้ไม่พอใจ
แต่จำเป็นต้องดำเนินการให้การประชุมดำเนินต่อไป” แต่เสรีพิศุทธ์แจงว่า “คุณชวนไปตกลงอะไรกับเขาก็ไม่ทราบ”
“เอาละ
ท่านไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุม มาตัดสิทธิผมทั้งๆ ที่ผมยังมีเวลาที่จะพูดอีก
๓๕ นาฑี ๕๑ วินาฑี
ถ้าไม่ให้พูดผมจะขออนุญาตใช้สิทธิดำเนินคดีตามกฎหมาย...ทราบว่าท่านให้สัมภาษณ์ว่า ‘ก็เชิญสิ’ โอเค ผมรับคำท้า”
อย่างไรก็ดีการประชุมวันที่สองมิได้มีแต่จุดเดือด
ส.ส.หลายคนโดยเฉพาะฝ่ายค้านอภิปรายเต็มไปด้วยเนื้อหาน่าชมเชย
โดยเฉพาะจากพรรคอนาคตใหม่ เช่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรื่องแก้ปัญหาเกษตรกรรม หรือ พรรณิการ์
วานิช เรื่องนโยบายต่างประเทศ
หรือจะเป็น ส.ส.น้ำดีรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย
จิราพร สินธุไพร ปริญญาโทเกียรตินิยมทางวิทยาศาสตร์จากอังกฤษ
พูดถึงกรณีเวียดนามเซ็นสัญญาการค้าเสรีกับอียู แต่ รมว.พาณิชย์ จุรินทร์
ลักษณะวิศิษฐ์ พรรคประชาธิปัตยตอบผิด
“ท่านจุรินทร์ตอบไม่ตรงคำถาม
ดิฉันพูดถึงไทยเสียเปรียบเวียดนามในการแข่งขันทางการค้า เพราะเขาทำ EVFTA
เสร็จแล้ว แต่ท่านกลับมาโฆษณา RCEP เฉยเลย”
เธอว่าถึงจะเจรจาสำเร็จไทยก็ยังเสียเปรียบอยู่ดี เพราะเวียดนามเขาเป็นภาคี RCEP ไปก่อนตั้งนานแล้ว