iLaw
January 26 at 9:00 PM ·
ณัฏฐิดา หรือ แหวน เป็นพยาบาลอาสาตามกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง และเป็นที่รู้จักในฐานะพยานปากสำคัญ เหตุการณ์ '6 ศพ วัดปทุม' เมื่อปี 2553 ที่เธอออยู่ในเหตุการณ์จริงและรอดชีวิตออกมาเล่าถึงพฤติการณ์และวิถีกระสุนในวันนั้น ในยุคของ คสช.1 เธอถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับเหตุระเบิด และยังถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากการส่งไลน์ซ้ำอีก รวมต้องถูกจำคุก 3 ปี 5 เดือนก่อนศาลทหารจะให้ประกันตัว ซึ่งคดีมาตรา 112 ของเธอศาลจังหวัดนนทบุรีนัดพิพากษาในวันที่ 28 มกราคม 2564
[ ดูคดี #ม112 ของแหวนได้ทาง https://freedom.ilaw.or.th/th/case/833 ]
[ อ่านเรื่องราวชีวิตของแหวน ได้ทาง https://freedom.ilaw.or.th/node/819 ]
ในปี 2563 เมื่อมีการชุมนุมทางการเมืองขนาดใหญ่ เราจะเห็นเต้นท์ของพยาบาลอาสา ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุม และมีเธออยู่ร่วมในนั้นด้วยเสมอ เป็นหน้าที่เดิมที่ทำมานานแล้ว จนมีผลให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่เธอก็ยังคงแบกรับบทบาทนี้ต่อไป
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 การชุมนุมที่หน้า "ราบ11" แหวนเปลี่ยนบทบาทในการชุมนุมเป็นครั้งแรก จากการเป็นพยาบาล เป็นผู้ปราศรัย เธอขึ้นจับไมโครโฟนเล่าถึงความเจ็บปวด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ซึ่งรัฐบาลในขณะนั้นใช้ค่ายทหาร "ราบ11" เป็นฐานบัญชาการ แต่แล้วกระแสของการดำเนินคดีมาตรา 112 แบบสะเปะสะปะ ก็ทำให้เธอกลายมาเป็นผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 อีกครั้ง
ด้านล่าง คือ เนื้อหาคำปราศรัยของแหวน อันนำมาซึ่งการถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เป็นครั้งที่สองของเธอ
.
สวัสดีค่ะ พี่น้องทุกท่าน เด็กๆ นักศึกษา ประชาชน และพี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศทั่วโลก ดิฉัน ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ พี่แหวน ดิฉันเคยถูกทำอนาจารในค่ายทหาร ดิฉันเคยถูกปิดตาอุ้มเข้าค่ายทหาร และถูกกระทำอนาจาร เปิดเสื้อขึ้นดูหน้าอก ถามว่า หน้าอกนี้มึงทำมากี่ซีซี จะบอกให้พวกพี่ๆฟังว่า หน้าอกอันนี้ แม่กูให้มา อย่าให้เรื่องเหล่านี้ได้เกิดกับวีรชน อย่าให้เรื่องอัปยศอดสูนี้ ได้เกิดขึ้นอีกในเมืองไทย ขอให้พี่น้องทุกคนจงป่าวประกาศออกไป ว่าอย่าได้มีทหารเลวๆ อย่างนี้อีก วันนี้มีคำพิพากษา อยากจะมาเล่าให้พี่น้องฟัง ถึงการตัดสินคดี 6 ศพวัดปทุมวนาราม เมื่อปี 2553 เราจะมาย้อนรอยอ่านคำพิพากษากัน
ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2556 ศาลศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพ คดีหมายเลขดำที่ ช.5/2555 ที่พนักงานอัยการ สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพการตายของทั้ง 6 ศพ ที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 น่าเชื่อว่าเป็นการตายที่เกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน ตายเมื่อใด และพฤติกรรมการตายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องและญาติผู้ตายทั้ง 6 อันประกอบด้วยประจักษ์พยาน พยานแวดล้อมกรณี และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า ผู้ตายที่ 1 และที่ 3 ถึงที่ 6 ถึงแก่ความตายเพราะถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มม. จากเจ้าพนักงานซึ่งเป็นทหารสังกัดกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 ค่ายเอราวัณ ที่ประจำการอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส และผู้ตายที่ 2 ถึงแก่ความตายเพราะถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มม. จากเจ้าพนักงานซึ่งเป็นทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ที่ประจำการอยู่บนถนนพระรามที่ 1
จึงมีคำสั่งว่า ผู้ตายที่ 1 คือ นายสุวัน ศรีรักษา, ผู้ตายที่ 2 คือ นายอัฐชัย ชุมจันทร์, ผู้ตายที่ 3 คือ นายมงคล เข็มทอง, ผู้ตายที่ 4 คือ นายรพ สุขสถิต, ผู้ตายที่ 5 คือ นางสาวกมนเกด อัคฮาด, ผู้ตายที่ 6 คือ นายอัครเดช ขันแก้ว ถึงแก่ความตายในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร แขวงและเขตปทุมวัน
การตายของผู้ตายที่ 1 นายสุวัน ศรีรักษา มีบาดแผลกระสุนปืนทะลุปอดและหัวใจ เสียเลือดเป็นจำนวนมาก ผู้ตายที่ 2 นายอัฐชัย ชุมจันทร์ มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด ผู้ตายที่ 3 นายมงคล เข็มทอง มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด หัวใจ ตับ ผู้ตายที่ 4 นายรพ สุขสถิต มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอดและตับ ผู้ตายที่ 5 นางสาวกมนเกด อัคฮาด มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง ผู้ตายที่ 6 นายอัครเดช ขันแก้ว มีบาดแผลกระสุนปืนทะลุเข้าในช่องปาก โดยยังไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ลงมือกระทำ
สำนวนที่มีความชัดเจนตั้งแต่ปี 2556 แต่มาถึงวันนี้ยังไม่ถึงมืออัยการ
อัฐชัย ชุมจันทร์ เป็นผู้ป่วยบาดเจ็บคนที่หนึ่งสำหรับเต็นท์ยาเรา ในเขตอภัยทาน น้องถูกยิงที่ใต้ตอหม้อหน้าวัดปทุมฯ พยายามจะตะเกียกตะกายเพื่อเข้ามาขอความช่วยเหลือในเต็นท์ยาเรา ที่ในเขตอภัยทาน ของวัดปทุมวนาราม แต่ท้ายที่สุด ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เพราะกระสุนนั้นยิงทะลุหัวใจ ไม่ใช่หัวเข่า
ผู้ตายที่ 2 สำหรับเต็นท์ยาเรา คือ นายมงคล เข็มทอง อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง ถูกยิงตัดขั้วหัวใจ ตัดต้นแขนต้นขา น้องเป็นแค่อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง ที่ขอเข้ามาในเซฟโซนของเขตอภัยทาน
ส่วนผู้ตายที่ 3 คือ นางสาวกมนเกด อัคฮาด ที่มีกระสุนปืนยิงทะลุร่างมากกว่า 7 นัด แต่กระสุนปืนที่ตายคือกระสุนปืนจากทหารที่ยิงผ่านก้านสมอง เด็กคนหนึ่งที่ตะเกียกตะกายหนีตายเพื่อที่จะเข้าไปหลบตรงเต็นท์ ยื่นมือไปหาเพื่อนเพื่อที่จะให้เพื่อนดึง แต่กระสุนนั้นไม่เคยปรานี
เด็กอีกคนหนึ่ง คือ อัครเดช ขันแก้ว เป็นผู้ช่วยหน่วยพยาบาลอาสา อยู่ในเซฟโซน น้องถูกยิงเข้าที่ต้นขาแล้วกระพุ้งแก้ม หลอดลมขาด ขณะที่ยังไม่ตาย น้องตะเกียกตะกายมาอยู่ใต้โต๊ะยา หลบกระสุนปืนที่ยิงกระหน่ำลงมา ไม่เคยเว้นระยะเลย น้องพยายามอดทนและใช้ความอดทน พยายามประคองตัวเองไว้เพื่อเข้าไปรักษาที่สวนป่าภายใน เราพยายามปฐมพยาบาลชีวิตน้อง ยื้อกับมัจจุราชอยู่ 2 ชั่วโมง
เด็กคนหนึ่งตะเกียกตะกายอยู่ใต้เต็นท์ยา พยายามที่จะเอาชีวิตรอด เราเพียงร้องขอว่า ให้รถหน่วยแพทย์ฝ่ากระสุนปืนเอาคนเจ็บปางตายเข้าไปรักษาได้ไหม แต่สิ่งที่ทหารให้มาคือ การสาดกระสุนลงมาไม่ยั้งในช่วง 2 ทุ่ม เราเป็นหน่วยแพทย์ในพื้นที่ เราไม่ใช่นักรบ เราไม่รู้วิถีกระสุนปืน แต่เรารู้ว่าจุดเซฟโซนคืออะไร เรารู้ว่าเราต้องเอาชีวิตรอดยังไง แต่ทหารทั้ง 5 นายที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ไม่เคยฟังคำร้องขอจากพวกเรา
ประชาชนที่อยู่ในวัดปทุมฯ 3,000 คน รวมทั้งหน่วยแพทย์ทั้งภายในและภายนอก หน่วยแพทย์หน้าด่าน พยายามที่จะเอาคนเข้าไปข้างในวัดให้มากที่สุด เราทำงานภายใต้ความกดดัน ทั้งเสียงด่าทอ ทั้งเสียงกระสุนปืน แต่สิ่งที่พวกเราได้รับนั่นคือกระสุนปืนที่สาดมารัวๆ ที่เต็นท์ยาพวกเรา
ในวันนั้นคำสั่งที่สั่งยิงประชาชนคือคำสั่งจาก ศอฉ. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นไอ้หมีหน้าฮาก ได้รับการแต่งตั้งจาก ม.7 ที่ตรงนี้ (ชี้นิ้วเข้าไปในกรมทหารราบที่ 11) และปัจจุบันนี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ยังลอยหน้าลอยตาในสังคม หาได้มีความผิดไม่ ยังเดินไปเหยียบทุกย่างก้าวบนศพ 99 ศพ ของพี่น้องคนเสื้อแดง
คนเสื้อแดงเดินมาร้องขอหีบบัตรเลือกตั้ง แต่ได้หีบศพ 99 ใบ ความเป็นธรรมมันอยู่ตรงไหน 99 ศพทุกวันนี้ถูกดองไว้ที่ดีเอสไอ รวมทั้ง 6 ศพวัดปทุมฯ ไม่ให้มีการเผยแพร่ ไม่ให้มีการทวงถาม มึงอย่าเผยอหน้ามานะ ไอ้ไพร่!
เราเป็นไพร่ ที่อยู่ใต้ร่มฟ้าเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะมียศถาบรรดาศักดิ์ ยิ่งใหญ่แค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วคุณก็เล็กกว่าโลงศพ
ปี 2556 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวนคดีว่า การตายของ 6 ศพวัดปทุมวนาราม การตายของหน่วยแพทย์ มาจากทหารทั้ง 5 นาย บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส
ปี 2560 หลังการปฏิวัติยึดอำนาจของ คสช. ศาลทหารได้มีคำสั่งให้รื้อคดี ย้ายคดี 6 ศพจากศาลอาญากรุงเทพใต้ มาที่ศาลทหาร ไต่สวนโดยทหาร ตัดสินโดยทหาร ยกฟ้องโดยทหารว่า หาคนยิง 6 ศพไม่เจอ
วันนี้เรามาที่ราบ 11 เรามาทวงถามให้หน่วยแพทย์ทั้ง 6 ศพ 6 วิญญาณว่า ที่วัดปทุมทหารฆ่าหน่วยแพทย์ตาย
พี่น้องขอความเป็นธรรมทำไมมันยากเย็นนัก ศาลทหารบอกว่า หาคนยิงไม่เจอ พยานหลักฐานอ่อน พยานหลักฐานไม่มี ก็มันจะมีได้ยังไง ก็มึงจับกูไปขัง 3 ปี 6 เดือนในคุกหญิง มึงจับกูไปขังไว้ แล้วมึงก็ไปตัดสินกันชั่วๆ ว่าหาคนยิงไม่เจอ แล้วมึงเอาคนยิงทั้ง 5 คน ไปทิ้งไว้ที่ไหน ทหารหน่วยของพวกมึงที่เข่นฆ่าประชาชน ทั้ง 99 ศพอยู่ที่ไหน
วันนี้เรามาตะโกนดังๆ ขอพี่น้องยกมือขึ้น ชู 3 นิ้วตะโกนกันดังๆ
“ที่นี่มีคนตาย ที่นี่มีคนตาย ที่นี่มีคนตาย”
“ที่วัดปทุมฯ อาสาสมัครพยาบาลถูกทหารฆ่าตาย”
“ทหารฆ่าอาสาพยาบาล ทหารฆ่าอาสาพยาบาล ทหารฆ่าอาสาพยาบาล”
ขอบคุณมากค่ะ
ในเมื่อเราถามหาความเป็นธรรมในศาลไม่ได้ ในเมื่อเราทวงถามความเป็นธรรม ทั้งดีเอสไอ และอัยการสูงสุดไม่ได้ เราก็จะตะโกนถามดินถามฟ้าไปให้ทั่วประเทศ ตะโกนไปทั่วโลกให้เขาได้รับรู้ว่า ที่ประเทศไทย ที่วัดอารามหลวงวัดปทุมวนารามมีทหารฆ่าพยาบาลอาสาตาย
ส่วนพี่น้องเสื้อแดงที่ออกมาเรียกร้องหีบบัตรเลือกตั้ง พวกเขามาแค่มือเปล่าๆ สิ่งที่พวกเขาทำมาโดยตลอดคือ การต่อสู้อย่างสันติวิธี แต่คนเสื้อแดง ศพทั้ง 99 ศพที่ถูกยิงไม่มีใครถูกยิงต่ำกว่าหัวเข่า อย่างที่ ศอฉ. ประกาศไว้
ศพทุกศพ ทั้ง 99 ศพ ถูกยิงสูงกว่าหัวเข่า กระสุนเข้าจุดสำคัญ หัวใจ ตัดเส้นเลือดใหญ่ ทั้งต้นแขน ต้นขา ไม่มีศพไหนถูกยิงต่ำกว่าหัวเข่า ศพแรกของพี่น้องคนเสื้อแดง คือ วสันต์ ภู่ทอง ถูกยิงสมองกระจาย ที่ถนนราชดำเนิน ในวันที่ 10 เมษายน ขอปรบมือให้ วสันต์ ภู่ทอง เขามีเพียงผ้าโพกหัวสีแดง ที่เขียนว่า ‘เรารักในหลวง’
เขามีเพียงเสื้อยืดสีแดง ที่มีรูปหัวใจ รูปธงชาติ คาดข้างหลัง ว่าเรารักในหลวง ทำไมคนเสื้อแดงจะรักในหลวงไม่ได้เหรอ ทำไมจะต้องแบ่งชนชั้นวรรณะ ในเมื่อมึงปรามาสว่าคนเสื้อแดงเป็นไพร่ แล้วมึงเป็นใคร มึงเป็นคนไทยเหมือนกันไหม มึงไพร่ กูก็ไพร่ และมึงก็ไพร่กว่ากูด้วยซ้ำ
คนเสื้อแดงมาอย่างสันติวิธี เฉกเช่นนักศึกษาที่มาทุกวันนี้ สิ่งที่นักศึกษาออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม เด็กมีแค่มือเปล่าและตุ๊กตาเป็ด แค่เป็ดมึงยังกลัว แค่เป็ดมึงยังเอาจีโน่ (รถฉีดน้ำแรงดันสูง) ผสมแก๊สน้ำตา มาทำร้ายเด็ก ในนามหน่วยแพทย์ เราขอประณามการกระทำที่รุนแรงตรงนี้ เราไม่ยอมรับและขอต่อต้านความรุนแรง
เด็กนักศึกษากลุ่มหนึ่ง แค่อยากไปนั่งฟังคำแถลงการณ์ ไปนั่งฟัง ส.ว. ผู้ทรงเกียรติ ส.ส. ผู้ทรงเกียรติ กล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญ แม้กระทั่งริมฟุตบาธ เด็กกลุ่มหนึ่งก็ยังไม่มีสิทธิเข้าไปเหยียบ แต่ตอนเช้าคนอีกกลุ่มหนึ่ง อย่าว่าแต่เหยียบฟุตบาธเลย พวกเขาเข้าไปเหยียบหน้า ส.ว. และหน้านายกฯ ถึงในสภา ได้รับการต้อนรับอย่างดี แต่เด็กๆ กลุ่มหนึ่ง เข้าไป ถูกยิงด้วยกระสุนยางและกระสุนจริง ถูกฉีดด้วยน้ำที่มีแก๊สพิษถึง 5 ชนิด ถูกสาดยิง ยังไม่พอ ยังไม่หนำใจ 2 ทุ่มมีการดักทำร้ายกลุ่มเด็กนักศึกษา ประชาชน สิ่งที่หน่วยแพทย์ทำได้คือแค่
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่ง ซึ่งวันนั้นมีผู้ถูกยิงมากกว่า 5 คนด้วยกระสุนจริง
หลังจากนั้น 3 วัน สิ่งที่นักศึกษาและประชาชนได้รับก็เหมือนกับคนเสื้อแดง คือ แก๊สพิษ น้ำสารเคมี น้ำทั้ง 5 ชนิดนี้ ชนิดแรกจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับผิวให้แห้งกระด้าง และแตกเหมือนปากที่เราแตกตอนโดนลมหนาว และสารเคมีที่เหลือที่ซึมอยู่ในร่างกายเรา จะทำให้เกิดอาการคันและเป็นผื่นพุพอง จนทำให้เด็กๆ และประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เพราะอะไร เพราะจีโน่ไง จีโน่ กับนักศึกษามือเปล่า มันกลัวนักศึกษากลัวเป็ดมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
สมัยเสื้อแดงมีแค่หนังสติ๊ก ลูกแก้ว และกรวดหินเป็นอาวุธ สมัยนี้นักศึกษามีวิวัฒนาการเปลี่ยนไป เด็กๆ มีแค่หมวกเป็ด ตุ๊กตาเป็ดที่เป็นอาวุธต่อสู้กับพวกมึง หยุดทำร้ายประชาชน หยุดคุกคามประชาชนทุกๆ กรณี หันหน้าคุยกันถ้ามึงบอกว่ามาอย่างสันติวิธี พวกกูก็จะสันติวิธี แต่ด้วยวิธีที่มึงทำ มึงใช้ทหารและกระสุนจริงเข่นฆ่าประชาชนมาโดยตลอด
วันนี้เราจะมาขอรำลึกคนเสื้อแดง วันนี้แหวนขอเป็นตัวแทนน้องๆ กลุ่มพยาบาลอาสาและพี่น้องเสื้อแดงทั้งประเทศ ขอให้ทุกคนช่วยกันทวงถามและทวงความเป็นธรรมให้ 99 ศพ ได้หรือไม่ เราจะไปตามหาความเป็นธรรมและทวงคืนความเป็นธรรม ไปทุกๆ ที่ที่เราไปได้ ไปด้วยกันหรือไม่
เมื่อก่อน มีแต่เลือดคนเสื้อแดง เกลื่อนถนน จากราชดำเนิน จากมัฆวานฯ ไปถึงแยกราชประสงค์ในเขตอภัยทาน และถูกการบิ๊กคลีนนิ่งโดยคนดีกลุ่มหนึ่ง ที่ล้างพื้นไป หัวเราะเยาะเย้ยหยันไป นี่หรือคือความตายของประชาชนด้วยกันที่ถูกยิงตายและถูกเย้ยหยัน พวกเขามีแค่มือเปล่า อาสาพยาบาลไม่ได้ตายแค่ 6 ศพ วัดปทุมฯ แต่ยังมี บุญทิ้ง ปานศิลา อาสาฯ วชิรพยาบาลที่ถูกยิงตายที่ซอยรางน้ำ ยังมี มานะ แสนประเสริฐศรี อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง ที่ถูกยิงตายที่บ่อนไก่ และยังมี เสธ.แดง ที่ถูกยิงตาย
ทำไมทหารดีๆ จะยืนเคียงข้างประชาชนไม่ได้เหรอ ทำไมเสธ.แดงจะต้องถูกฆ่าตาย แล้วทำไมเขาถึงต้องกลัว ไม่เข้าใจว่าคำประกาศของ ศอฉ. ที่จะต้องยุติความรุนแรง ที่จะต้องยุติเวที เขาใช้หลักการอะไรคิด นอกจากกระสุนจริง ในค่ำคืนวันที่ 19 ถึงเช้าวันที่ 20 มันไม่เคยมีกระสุนยาง มีแต่กระสุนจริงที่รัวยิงคนเสื้อแดงศพแล้วศพเล่า มันมีแต่กระสุนจริง ที่สังหารคนเสื้อแดง 99 ศพ โดยทหารไทย
ศพที่ยังหายไปมีมากกว่า 99 ศพ 176 ศพ หายไปไหน และยังไม่มีการเปิดเผย คนเสื้อแดงไม่ได้ตายแค่ 100 หรือ 200 ศพ แต่มันมีมากกว่านั้น แต่ที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ชัด และลากศพกลับมาได้มีเพียง 99 ศพ
วันนี้เพื่อเป็นการรำลึกคนเสื้อแดง 99 ศพ ขอให้พี่น้องส่งตัวแทนมา เราจะให้เขาได้รู้ว่า เลือดของคนเสื้อแดงนั้นเป็นยังไง ความเจ็บปวดของคนเสื้อแดงเป็นเช่นไร และสิ่งที่พยานคนหนึ่งถูกกดขี่ข่มเหง ถูกกระทำอนาจาร ถูกจับขังคุกนาน 3 ปี 6 เดือน จนพวกเขาสามารถตัดสินว่า ทหารไม่ผิด หาคนยิงไม่เจอ ก็เพราะมึงจับกูไปขังไว้ทิ้ง 3 ปี 6 เดือน มึงถึงไม่มีพยาน เพราะมึงต้องการลดทอนความน่าเชื่อถือของพยาน มึงยัด 112 ให้กู ซึ่งกูไม่เคยรู้เรื่อง 112 จากพวกมึงเลย
เราจะมาฟังเพลงเพลงหนึ่ง ซึ่งเพลงนี้เป็นเหมือนเพลงประจำตัวก็ว่าได้ เพลงเพลงนี้เป็นการรำลึกของพี่น้องเราทุกคน
เมื่อถามดินถามฟ้าหาความเป็นธรรมไม่ได้ เมื่อถามคนบนฟ้าหาคนยิงก็ไม่มีคำตอบ เราจะต้องทวงถามกันเอง โดยประชาชนทั้งประเทศลุกขึ้นพร้อมกัน ทวงความเป็นธรรมให้ทั้ง 99 ศพ ขอพี่น้องยืนขึ้นไว้อาลัยและสดุดีให้พี่น้องเสื้อแดง
ชูสามนิ้วขึ้นมา แล้วตะโกนว่า “ทหารฆ่าประชาชน ทหารฆ่าหน่วยพยาบาล”
https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10164958259975551/
เรื่องเกี่ยวข้อง