สอบนาฬิกา RM ๓ ล้าน บิ๊กป้อม บทพิสูจน์อันสำคัญ ปปช. มีน้ำยาแค่ไหน

คราวนี้ได้ดูฝีมือ ปปช. กันสิว่าจะมีน้ำยาแค่ไหน ในการสอบสวนกรณีที่เป็นข่าวคึกโครมขณะนี้ เรื่องรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมนาฬิการาคา ๓ ล้าน และแหวนเพชรเม็ดโป้ง ในวันถ่ายภาพร่วมกันของคณะรัฐมนตรี คสช. ชุดใหม่ ‘ประยุทธ์ ๕’

บ่ายวานนี้ (๖ ธันวา) รองเลขาฯ ปปช. แถลงว่าข่าวอื้ออึงขนาดนี้ “สำนักงาน ป.ป.ช.จึงสามารถดำเนินกระบวนการตรวจสอบตามปกติได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้มีผู้มาร้อง” จึงจะเริ่มทำการตรวจสอบเลยในวันนี้ (๗ ธันวา)

ถึงอย่างไร สายวันนี้นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ช่วยให้ ปปช. ไม่เขิน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อ ปปช. ขอให้ทำการตรวจสอบประเด็น ‘บิ๊กป้อม’ จงใจปกปิดทรัพย์สินต่อ ปปช. เพราะเครื่องประดับทั้งสองชิ้นนี้ไม่ได้มีการรายงานต่อ ปปช. เอาไว้ตอนก่อนเข้ารับตำแหน่งตามระเบียบกฎหมาย

 

นายศรีสุวรรณย้ำด้วยว่า “หากพบว่าเป็นการปกปิดจริง ป.ป.ช ก็มีอำนาจหน้าที่ส่งเรื่องให้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อดำเนินการตามอำนาจต่อไป”

(http://www.js100.com/en/site/news/view/49007 และ https://www.thairath.co.th/content/1145908)

วันนี้เช่นกัน พล.อ.ประวิตร “ได้ยกเลิกกำหนดการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ ที่ตึกสันติไมตรี...โดยมอบหมายให้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานแทน”

ซึ่ง Deep Blue Sea‏ @WassanaNanuam ชี้ว่า “คาดเบื่อสื่อ ขี้เกียจตอบปม ปปช.สอบแหวนเพชร-นาฬิกาRM...หลัง วานนี้ยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงกับ ปปช. แต่ไม่แจงกับสื่อ ยันไม่เคยทุจริต”

อีกทั้งยังพูดแก้ต่างไปอย่างน้ำขุ่นๆ ว่านาฬิกานั้นเป็นของเก่า เก็บสะสมมานานแล้ว เลยยิ่งเข้าเนื้อไปอีก ในเมื่อถ้าเก็บมานานแล้วก็ควรต้องแจ้งในรายการทรัพย์สินของรัฐมนตรีสิ หลงลืมได้อย่างไร

เวลานี้พี่ตือของน้องตูบเหมือนปลาเกยตื้น กำลังดิ้นแถกแถสุดฤทธิ์ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (๓๐ พ.ย.) นี่เอง เพิ่งเป็นข่าวฉาวเรื่องเคยไปทอดกฐินวัดลาดแค เพชรบูรณ์ ซึ่งเจ้าอาวาสต้องคดีเรื่อง ‘เงินทอน’

ก็ให้โฆษกกลาโหมแถลงแก้ตัวแทนว่าไม่ได้ไปทอดกฐินวัดนั้นมา ๓ ปีแล้ว หลังจากรู้ตัวว่าถูกตาเถรอ้างชื่อเรียกผลประโยชน์ แต่หลักฐานจากข่าวไทยรัฐกลับพบว่า เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนปี ๕๘ พล.อ.ประวิตรได้ส่งตัวแทนสองคน คือ พล.ร.อ.ศิษฐ์วัชร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.หัสพงศ์ ยุวนวรรธนะ ไปทำการทอดกฐินแทน นั่นผ่านมาแค่ ๒ ปีพอดี

กรณีหรูหราร่ำรวยเป็นปกตินี้ก็เช่นกัน พล.อ.ประวิตร อ้างว่าจะไปให้การกับ ปปช.เอง ก็คงหนีไม่พ้นอ้างว่าหลงลืม ข้อสำคัญ ปปช.เต้นตามหรือไม่

ถ้าผลการสอบสวนของ ปปช. บอกว่าไม่มีอะไรเสียหาย แค่รองนายกฯ หลงลืมไปบ้าง นี่ละจะเป็นการยืนยันการเล่นพวกเล่นพ้อง ‘nepotism’ ในการทำงานของ ปปช. หรือไม่ ในเมื่อมีคนตั้งข้อสังเกตุไว้แล้วว่า

“ประธานกรรมการ ป.ป.ช. คือ พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ก่อนหน้าตำแหน่งนี้แกเป็น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ” (The Kim in the North‏ @Mnakinism)

 

ยิ่งเมื่อมีคนเอากรณีพล.อ.ประวิตรไปเทียบเคียงกับคดีเมื่อต้นปี ๕๗ ที่ ปปช. “ลุยสอบยิ่งลักษณ์ซื้อนาฬิกาเรือนละ ๒.๕ ล้าน ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน” แล้วพบข้อมูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แจ้งในบัญชีทรัพย์สินช่วงรับตำแหน่งนายกฯ ไว้แล้วว่ามีนาฬิกา ๙ เรือน ราคารวมกันแค่ ๑.๘ ล้านบาท

ครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์อันสำคัญว่า “ป.ป.ช ชุดนี้จะมีศักยภาพในการเอาผิดกรณีการปกปิดทรัพย์สินของผู้มีอำนาจหรือไม่ เนื่องจากป.ป.ช ชุดอื่นๆ ได้เคยลงโทษนักการเมืองมาแล้วในหลายครั้ง” ดังที่ จส.๑๐๐ ตั้งข้อสังเกตุไว้ไหม