วันอาทิตย์, ธันวาคม 18, 2559

ถ้าคิดจะทำสงครามกับอินเตอร์เน็ตละก็ อินเตอร์เน็ตนั่นแหละที่กลับจะนำสงครามมาสู่รัฐบาลเสียเอง





เห็นว่า สื่อสายหลักในไทยทำไม่รู้ไม่ชี้ แสร้งมั่วนิ่มกับการที่ สนช. โหวตผ่าน พรบ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ มีเพียง ๑ หรือ ๒ รายเท่านั้นตามติดเสนอข่าวการก้าวล้ำเสรีภาพของประชาชนโดย คสช. ครั้งนี้

ทั้งที่ประชากรไซเบอร์ยังคงต่อต้านกันอย่างต่อเนื่อง การลงชื่อ petitioning ที่ Change.org ขณะนี้จำนวน ๓๗๒,๓๓๔ ราย และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวินาฑี

ส่วนที่มีการนัดหมายกันประท้วงสองจุดในวันนี้ บ่ายสองโมงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และบ่ายสามที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ ปทุมวัน ทางการ คสช. ก็ดักทางรับมือด้วยการให้โฆษกห่านอูออกมาขู่ ว่าใครจะไปยืนกันนั่นผิดกฎหมา ยนะ

ทั้งยังมีตำรวจจาก สน.สำราญราษฎร์โทรไปถามเครือข่ายพลเมืองเน็ตว่าจะมีผู้ไปร่วมกี่คน ทำเนียนว่าเพื่อจะได้อำนวยความสะดวก จัดที่จอดรถ ประสานเครื่องขยายเสียงให้

แต่เจอผู้ประสานงานเครือข่ายแจ้งกลับว่า คุณตำรวจฮะ เครือข่ายฯ ไม่ได้เป็นผู้จัดงานนี้นะ โปรดอย่าเข้าใจผิด อีกทั้งโพสต์ทางเฟชบุ๊คตั้งข้อสงสัยว่าทำไมตำรวจไทยเสล่อถึงขนาดนี้

“พร้อมตั้งคำถามกับงานข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าหากผิดพลาดหลายจุดเช่นนี้ ประชาชนจะมั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร

รวมถึงแม้แต่ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในที่สาธารณะยังผิดพลาด จะมีผู้บริสุทธิ์ที่จะตกเป็นเป้าหมายของหน่วยงานข่าวกรองและหน่วยงานความมั่นคง บนข้อมูลที่ผิดพลาดเหล่านี้อีกเท่าใด”

(http://prachatai.org/journal/2016/12/69299…)





มีข้อน่าสนใจในการชี้แจงของพลเมืองเน็ตอย่างหนึ่ง นอกจากปฏิเสธว่าไม่ใช่ผู้จัดประท้วงสองแห่ง ซึ่งการนัดหมายแต่ละจุดเป็นคนละกลุ่มกันแล้ว เขายังบอกว่า

“เครือข่ายพลเมืองเน็ต https://thainetizen.org/about กับกลุ่ม พลเมืองต่อต้าน Single Gateway https://www.facebook.com/pg/OpSingleGateway/ เป็นคนละกลุ่มกัน”

แสดงถึงความหลากหลายในหมู่ประชาชนผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ที่เห็นว่าการที่ คสช.ออกกฎหมายคอมพ์ฉบับใหม่มานี้ เป็นการคุกคามเสรีภาพส่วนตนของพวกเขา

แม้ว่า ‘พลเมืองต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์' จะปฎิบัติการ F5 ‘เอฟไฟ้ว์’ “โจมตีเว็บไซต์หน่วยงานราชการหลายแห่งล่ม ไม่สามารถใช้งานได้ ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา” (๑๗ ธ.ค.)





“อาทิ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค ๑ เว็บไซต์กระทรวงกลาโหม และสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร โดยเจาะอีเมล พร้อม ‘พาสเวิร์ด’ ของเจ้าหน้าที่ ได้กว่า ๒๕๐ รายชื่อ”

(http://news.voicetv.co.th/thailand/443277.html)

หนักหนากว่านั้น ก่อนหน้านี้มีกลุ่มแฮ็กเกอร์นานาชาติ Anonymous เข้ามาร่วมการคัดค้าน พรบ.คอมพ์กับประชากรเน็ตไทย ด้วยการเจาะเข้าไปในระบบเว็บไซ้ท์และฐานข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาล เอามาประจานทางสื่อสังคมทวิตเตอร์

กลุ่มนิรนามสายพันธุ์ @blackplans ทำการเจาะทะลวงเข้าไปในเว็บไซ้ท์ของสำนักงานข่าวกรอง ตำรวจแห่งชาติ และกองตรวจคนเข้าเมืองได้

“ดูเหมือนรัฐบาลไทยจะกำลังยุ่งอยู่กับการตามไล่ล่าพวกไม่เห็นด้วยที่แสดงความคิดเห็นของตัวเอง ส่วนเรา Anonymous ก็กำลังอ่านข้อมูลจากสำนักข่าวกรอง (NIA) ของคุณอยู่” กับ

“รัฐบาลไทยต้องการจะควบคุม internet แต่พวกตำรวจกลับป้องกันข้อมูลของตัวเองไว้ไม่ได้ แล้วข้อมูลของพวกคุณจะปลอดภัยหรือ ถ้ามันอยู่ในมือพวกเขา ภายใต้ พ.ร.บ. คอมฯ ใหม่”

(http://droidsans.com/anonymous-hack-thai-goverment-data-upo…)

สำหรับการแฮ็ค ตม. นั้น อะนอนีมัสเขียนข้อความถากถางถึง พล.อ.อ.ปราจิณ จั่นตอง ว่ากองทัพไทยไหง ‘หวาดกลัวการปฏิวัติ’ ผ่านทางการกดชอบใจต่อภาพล้อเลียนหรือข้อความวิพากษ์บนหน้าเฟชบุ๊ค

แถมเย้ยด้วยว่า “ระบบความมั่นคงของไทยนี้น่าขัน ขณะที่กองกำกับอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตพยายามสกัดกั้นพวกตลกร้ายเสียดสีออนไลน์ อะนอนีมัสกลับเข้าไปตั้งเต๊นค้างแรมภายในเว็บของ ตม. เสียนี่”






อีกอัน “พลเมืองทั้งหลายของประเทศไทย รัฐบาลของท่านไม่สามารถปกป้องข้อมูลส่วนตนของพวกท่านได้ แล้วยังรวบรวมทรัพยากรต่างๆ มาใช้ข่มขู่ประชาชนที่แสดงความคิดเห็นอันไม่ได้รุนแรงอื้อฉาว หรือไม่น่ารับฟังทางออนไลน์

รัฐบาลของท่านไม่สามารถทัดทาน หรือป้องกันตนเองจากการโจมตีออนไลน์ของฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว

ถ้าเขาคิดจะทำสงครามกับอินเตอร์เน็ตละก็ อินเตอร์เน็ตนั่นแหละที่กลับจะนำสงครามมาสู่รัฐบาลเสียเอง”