“ก้าวไกลไปต่อ” ข้อความสั้นๆ ที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โพสต์บนหน้าเฟชบุ๊ค หลังจากศาลรัฐธรรมนูญแถลงคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลได้ไม่กี่ชั่วโมง
ตามด้วยวลีให้คอยติดตามไปดูของ รังสิมันต์ โรม “ไม่ว่าพรรคใหม่เราจะชื่ออะไร ๒๕๗๐ สีส้มทั้งแผ่นดิน” พวกเขามั่นใจอะไรเพียงนั้น ซ้ำไม่สะทกสะท้านต่อมติ ๙-๐ ของ ตลก.รธน. เพราะรู้ดีว่าคนเหล่านี้ไม่ต่างจากหุ่นที่ถูกสนตะพายบนหลัง
พวกเขาจึงเชื่อมั่นในปณิธานแน่วแน่ที่ว่า “เราในฐานะประชาชน จะเป็นคนที่ช่วยกันพัดโหมสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง”
มันจึงไปถึงคำมั่นอีกครั้ง จากหนึ่งในแกนนำรุ่นที่สาม พริษฐ์ วัชรสินธุ ประกาศก้องต่อสมาชิกพรรคที่ไปร่วมชุมนุมกัน ณ สถานที่ทำการพรรคว่า “วันนี้ ไม่ใช่เวลาที่เราต้อง ‘เสียใจ’ แม้เขาจะยุบพรรคเราในฐานะ ‘องค์กร’ ไปแล้ว”
“สิ่งที่เขาไม่มีทางยุบได้คือ ‘อุดมการณ์’ ที่หลอมรวมเรา และเป็นเข็มทิศให้เรานำพาประเทศไปสู่เป้าหมายที่เราวาดหวัง” ‘ไอติม’ ท้าวความว่าแม้เขาจะไม่ได้เริ่มเดินทางมากับก้าวไกลแต่ต้น แต่ “ผมรับรู้ครับ ว่าพรรคก้าวไกลถูกก่อตั้งขึ้นมา
เพื่อทำให้เสียงของพี่น้องเกษตรกร พี่น้องชาติพันธุ์ พี่น้องผู้ใช้แรงงาน เสียงดังเท่ากับนายพลในค่ายทหาร เสียงดังเท่ากับนายทุนในสนามกอล์ฟที่เขาใหญ่...คนที่รู้เห็นเป็นใจกับการยุบพรรคด้วยวิธีนี้ เพื่อทำลายล้างกันทางการเมือง
อาจจะเปิดขวดไวน์ฉลองกันที่ห้องใดห้องหนึ่ง ผมอยากสื่อสารถึงพวกเขาจากเวทีแห่งนี้ ว่าพวกคุณดีใจไปได้อีกไม่นาน” พริษฐ์ว่า “เพราะสิ่งที่พวกคุณคิดว่า คุณได้ทำลายล้างไปแล้วในวันนี้ จะพื้นคืนชีพกลับมาแข็งแกร่งและทรงพลังกว่าเดิม”
เขาไม่ละเลยที่จะเอ่ยถึงเรื่อง ‘น่าจะเป็น’ เพราะเคยเกิดมาแล้ว “ที่พวกคุณพยายามจะดึง พวกคุณพยายามจะดูดเพื่อทำให้พวกเราอ่อนแอลง นอกจากคุณจะไม่ประสบความสำเร็จแล้ว ความพยายามของคุณจะเทียบไม่ได้เลย
กับกำลังคนที่จะกระโดดเข้ามาร่วมเดินทางกับเรามากขึ้น จากความไม่ปกติที่เห็นต่อหน้าต่อตาในวันนี้” เพราะ ‘ก้าวไกล’ คือ ‘จิตวิญญาณ’ ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้า และเป็น ‘จิตวิญญาณ’ ที่อำนาจใดๆ ก็ฆ่าเราไม่ตาย