ซึ่งไม่น่าจะใช่ ‘โง่แล้วอวดฉลาด’ หากแต่ทำตามพฤติกรรมไอโอ คือหาเรื่องด่าดะไปเท่านั้น ข้อควรคิดจากคอมเม้นต์ของ Voranai Vanijaka @voranai ที่ว่า “สิ่งที่ประเทศไทยขาดคือการศึกษารัฐศาสตร์ขั้น basic” ว่าหน้าที่ สส.คืออะไร
จำเพาะเรื่องนิติบัญญัติ เสนอ กม. ร่าง พรบ. เกี่ยวกับความก้าวหน้าของประเทศ รวมทั้งจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน “หน้าที่ดูแลพื้นที่คือ นักการเมืองท้องถิ่น อย่างเช่น สก.สำหรับกรุงเทพ นายก อบจ.สำหรับจังหวัด”
ทีนี้จึงมีร่าง พรบ.ติดค้างยังไม่ได้เข้าสู่การอภิปรายมากมาย พรรคก้าวไกลหาทางแก้ไขด้วยการเสนอให้เพิ่มวันประชุมสภา จากที่เป็นอยู่เพียงอาทิตย์ละสองวัน ให้เป็น ๓-๔ หรือ ๕ วันเลยยิ่งดี ในต่างประเทศหลายแห่งประชุมกัน ๔-๕ วันก็มี
มันไปร้อนปากประธานวิปรัฐบาล ต้องออกมาค้าน บอก ๔-๕ วันไม่ไหว “ส.ส.ก็ต้องมีการประชุมพรรค และประชุมกรรมาธิการฯ ชุดต่างๆ ดังนั้น หากเป็นเรื่องเร่งด่วนจะเพิ่มการประชุมในวันศุกร์อีกหนึ่งวันอาจจะพอได้”
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ไม่พูดแค่นั้นสิ added lips เข้าไปอีกว่า ส.ส.เขตในต่างจังหวัดต้องลงพื้นที่ ประชาชนอยากเห็นหน้า พรรคก้าวไกลมี สส.บัญชีรายชื่อมาก ไม่ต้องลงพื้นที่เหมือนพรรคอื่น “อย่าคิดเพิ่มวันประชุมเพื่อหวังเอาคะแนนลอยๆ”
อดีต สส.เจี๊ยบ ก้าวไกล ก็เลยสอนรัฐศาสตร์ให้ “งานนิติบัญญัติในสภามีความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นหน้าที่หลักของผู้แทนราษฎร งานอื่น ๆ เป็นหน้าที่รอง” อีกทั้ง สส.แต่ละคนมีผู้ช่วยถึง ๘ คน ทำไมไม่ให้ไปลงพื้นที่ “แบ่งเบางานด้านต่าง ๆ”
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ท้าวความหลังว่า การประชุมเพียงสองวันมาจากเมื่อก่อนมีห้องใหญ่ห้องเดียว ต้องสลับกันใช้กับ สว. หลังสร้างรัฐสภาใหม่ ๒ หมื่นล้าน มีทั้งห้องสุริยันและจันทรา ก็ยังดันประชุมแค่สองวันอยู่นั่นเอง
“ขี้เกียจไม่พอ ยังไปให้ร้ายด้อยค่าคนที่เค้าขยันตั้งใจทำงาน” คนปากไวมักจะเจอปากร้ายแรงกลับฉะนี้แล
(https://x.com/AmaratJeab/status/1809483836021174409 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_4666482)
