ในสังคม รวยกระจุก จนกระจาย "พอเพียง" ถูกทำให้เป็นศาสตร์พระราชา ด้วยความร่วมมือกันระหว่างกษัตริย์-ทหาร-นักการเมือง เพื่อสร้างระบบคิดให้ประชาชนเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่คิดทะเยอทะยาน

Chumphorn Sampaopech
5h·

ศาสตร์ที่ก้อปปี้เค้ามาหลอกพวกบัวใต้ตรม
.....

Somsak Jeamteerasakul
14h
·
ความจริง "เศรษฐกิจพอเพียง" ไม่มีอะไรมากไปกว่าภูมิพลเอาหลักคำสอนหนึ่งในพุทธศาสนามาสอนต่อ โดยที่ไม่มีการคิดอะไรมาก ว่าจะใช้ได้ไม่ได้ยังไง แต่การนำประโยคสองประโยคมาขยายความต่อและพยายามสร้างเป็น "ปรัชญา" ขึ้นมา เป็นผลงานของรัฐไทย ของการร่วมมือกันระหว่างกษัตริย์-ทหาร-นักการเมือง เพื่อจะสร้างระบบคิดให้ประชาชนยึดถือ
"ระบบคิด" แบบนี้ เนื่องจากไม่มีอะไรมาก จึงมักจะมั่ว สรุปว่ามีเศรษฐกิจแบบใดก็ทำไปแบบนั้น ซีพีก็สร้างกลไกผูกขาดต่อไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ พวกนายทุนเชื้อสายจีนต่างก็เอาหน้าด้วยการชู "เศรษฐกิจพอเพียง" ไป แล้วสร้างกลไกผูกขาดต่อไป
จะมีก็แต่ชาวบ้านร้านตลาดที่ต้องท่องจำคำขวัญนี้ คำอธิบายที่ชัดเจนก็ไม่มี เขาว่าเป็น "เศรษฐกิจพอเพียง" ก็ต้องว่าตามกัน
ภูมิพลก็ได้หน้า และได้บรรลุจุดสุดยอดของการเป็น "นักปรัชญา" ไปด้วย บรรดาลูกหลานคนจีนที่จะเชื่อมโยงเข้ากับอารยธรรมจีนก็ไม่ได้ เพราะห่างเกินไป ก็ได้มีบางสิ่งบางอย่างไว้ยึดเหนี่ยวแทน
.....
Celeste Céleste Victoire

แถมแกมาเริ่มให้โอวาทเศรษฐกิจพอเพียง ช่วงปี 40 ช่วงที่ธุรกิจสำคัญของประเทศล้มระเนระนาดย่อยยับกันหมด ยกเว้นธุรกิจสำนักงานทรัพย์สินฯ ร่ำรวยขึ้นๆ (ลองคิดดูธุรกิจที่ลงทุนเป็นเงินตราต่างประเทศ เช่นสวนน้ำสเปน โรงแรมเคมเปนสกี้ พอค่าเงินบาทจาก 25 บาท เป็น 50 กว่าบาทต่อ 1 $)
เงินตราต่างประเทศที่แกไปลงทุนไว้ ค่าเงินพุ่งพรวด รวยทะยานฟ้าเป็นหลายเท่าตัว)
พอถึงวันให้โอวาท ก็มาสอนตำหนิคนที่ล้มละลายจากต้มยำกุ้งว่าไม่พอเพียง ในขณะที่ธุรกิจของแก ร่ำรวยยิ่งๆ ขึ้นไป แถมได้ยินว่า เพราะ ทักษิณ เป็นผู้ดูแลสำนักงานทรัพย์สินฯ ในสมัยนั้น ด้วย ทำให้ได้รับการไว้วางใจให้กลับมา ดูแลธุรกิจเจ้าต่อไปนั่นเอง

(https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/7399359136783968?ref=embed_post)
.....



.....