นายกไทยใครรวยกว่าใคร ThaiPublica จัดอันดับไว้ ๕ คน แต่ ๓ อันดับแรกมีชินวัตรสอง ทวีสินหนึ่ง ส่วนจันทร์อะไรไม่ย่อย มีร้อยล้านมาอันดับสี่ ด้านม้าร์คปิดท้ายแค่ ๓๗ ล้าน อันดับห้า
มาไล่กันดูเฉพาะสามอันดับแรก แช้มป์ตลอดกาลก็ต้อง ทักษิณ ชินวัตร ขนาดถูกพวกรัฐประหารยึดไปล้ว ๔๖,๓๗๓ ล้าน ในปี ๒๕๕๐ แจ้งว่ามีทรัพย์สินของตนเองเหลืออยู่ ๖๑๔ ล้าน ส่วนของคุณหญิงพจมาน คู่สมรสมี ๘,๔๘๔ ล้าน
แต่ว่าทรัพย์สินของทักษิณก่อนถูกยึดทรัพย์ในปี ๕๓ มีอยู่ ๗๖,๖๒๑ ล้าน บวกลบคูณหารแล้วปรากฏว่าตัวเลขหายไปกว่าสองหมื่นล้าน ถึงอย่างนั้นก็ยังครองอันดับหนึ่ง เพราะอันดับสอง เศรษฐา ทวีสิน มีเพียง ๑ พันล้าน ไม่นับบริษัทแสนสิริที่ลาออกไปก่อน
ด้านอันดับสามเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนเป็นนายกฯ ในปี ๕๔ มี ๕๔๗ ล้าน แม้จะอยู่ไม่ครบเทอมเพราะโดน ‘ไอทู้บ’ ยึดอำนาจ แล้วหนึ่งปีพบว่ามีทรัพย์สินเพิ่มเป็น ๕๗๙ ล้าน (เพิ่มแค่ ๓๒ ล้าน) ขณะที่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันดับต่อมาแค่ร้อยล้าน
ทว่าประยุทธ์เป็นนายกฯ สองครั้ง ครั้งแรกจากการยึดอำนาจ และครั้งที่สองจากการกวาดพรรคอื่นมาร่วมรัฐบาล ถือว่าชนะเลือกตั้งทางอ้อม เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยขณะนี้ ซึ่งใช้วิธีข้ามขั้ว-ตระบัดสัตย์ เขี่ยพรรค ส.ส.มากสุดออกไป
ประยุทธ์เป็นนายกฯ สองสมัยแต่แจ้งทรัพย์สินครั้งเดียวตอนเข้ารับตำแหน่งแรก ว่ามี ๑๐๒ ล้าน กับของเมียอีก ๒๖ ล้านกว่า รวมทั้งคู่ก็กว่า ๑๒๘ ล้าน หลังพ้นตำแหน่งแล้วไปเป็นองคมนตรี ไม่รู้ยากดีมีจนเพียงใด แต่ก็ยังอยู่บ้านหลวงในค่าย ทบ.ต่อไป
สำหรับอันดับสองนี่น่าจับตามอง ว่าเมื่ออยู่ครบสมัยจะรวยขึ้นเท่าไร เพราะขณะนี้ยังไม่ถึงปี ข่าวว่าบริษัทแสนสิริทำกำไรเป็นอันดับหนึ่ง รายได้ไตรมาสแรกของปีนี้ ๑๐,๑๗๐ ล้านบาท ทิ้งห่างเอพี (ไทยแลนด์) อันดับสองอยู่พอควร
รายงานข่าว TODAYBizview บอกว่าไปแล้วกิจการอสังหาฯ อูฟูตั้งแต่ไตรมาสสามปีที่แล้วเรียงหน้ากระดาน “เพราะได้รับอานิสงส์จากมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์จาก ๒% เหลือ ๑% และค่าจดจำนองจากเดิม ๑% เหลือ ๐.๐๑%”
(https://thaipublica.org/.../top-5-assets-of-the-richest.../)