ศาลรัฐธรรมนูญรุ่นนี้ไม่บ้าจี้อย่างเคย แม้จะรับฟ้องของ ๔๐ สว.เรื่อง ‘เศรษฐา’ กับ ‘พิชิต’ ขาดความสุจริต ต้องพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีเหมือนเมื่อก่อน ซ้ำกรณีพิชิตบอกลาออกแล้วก็แล้วกันไป
วันนี้ (๒๓ พฤษภา) ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งผลการประชุมพิจารณาคำร้องของ สว.๔๐ คน ให้วินิจฉัยว่านายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมตำแหน่ง ตามมาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ นั้น
เนื่องจากนายพิชิต “มีคุณลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุกเป็นเวลา ๖ เดือน ไม่รอลงอาญา จากคดี ‘ถุงขนม ๒ ล้านบาท’” ซ้ำกฤษฎีกาวินิจฉัยแล้วว่าถ้ายังพ้นโทษไม่เกิน ๑๐ ปี ก็ถือว่าเข้าข่ายต้องห้าม
รวมทั้งนายกรัฐมนตรีทำไม่รู้ไม่ชี้ ดึงดันตั้งทนายความคนใกล้ชิดอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เข้าสู่ ครม.ชุดใหม่จนได้ ศาลรับคดีของเศรษฐา ทวีสินเข้าสู่การพิจารณา แต่ไม่รับคดีของนายพิชิต อ้างว่าได้ลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว
“ไม่มีประเด็นต้องวินิจฉัย” เช่นนี้จะเห็นว่าศาลนอกจากไม่ใส่ใจกับเรื่องจริยธรรมมากกว่าสถานการณ์การเมืองเฉพาะหน้า เหมือนจะรอให้ลาออกเสียก่อน จะได้ตัดสินง่าย แต่ก็ยังเกรงใจ สว.ชุดตู่ตั้ง จึงรับเรื่องไว้พิจารณาเฉพาะกรณีนายกฯ
“และให้นายกรัฐมนตรียื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลฯ ภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง” อีกด้านหนึ่งอาจเป็นการคะเนผิดพลาดของรัฐบาล ไม่คิดว่า สว.ชุดที่กำลังจะหมดอำนาจไป จะออกฤทธิ์เป็นพิษภัยอะไรได้อีก