ค่านิยมไทยๆ เป็นตัวเหนี่ยวรั้งความคิดอิสระก้าวหน้าของเยาวชนอย่างเห็นได้ชัด มันเกิดขึ้นได้แม้ในสถานศึกษาระดับ ‘หัวกะทิ’ อย่างโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ที่วังจันทร์แวลเลย์ ระยอง เมื่อครูคนหนึ่งบ่นถึงปัญหาผู้ปกครองเป็นขวากหนาม
“ประชุมผู้ปกครองโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ปีนี้น้ำตาท่วม เมื่อครูแนะแนวเปิดอกบอกเล่าความรู้สึก ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองฟังลูกหลานบ้าง อย่าเอาความฝันส่วนตัวยัดเยียดให้เด็ก” โพสต์ของ Mana Treelayapewat ชี้ปัญหา
#KVIS เป็นโรงเรียนประจำสำหรับมัธยมปลาย ที่ว่ากันว่าสอบเข้ายากที่สุด ปีการศึกษาหนึ่งจะรับเด็กนักเรียนใหม่เพียง ๗๒ คน มีสองแผนก คือวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เด็กที่สอบผ่านจะได้รับทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายอยู่ประทั้งหมด
“ครูแนะแนวบอกว่า เด็ก #KVIS จริงๆ จะเรียนอะไร คณะวิชาอะไร มหาวิทยาลัยในไทยหรือต่างประเทศก็ไม่น่ามีปัญหามาก แต่ทุกข์ของเด็กเก่งๆ เหล่านี้คือ บางครอบครัวเรียกร้อง คาดหวังให้ลูกต้องเรียน ‘หมอ’ เท่านั้น ในขั้นอุดมศึกษา
“มีเด็กจำนวนไม่น้อย ไม่อยากเรียนหมอ บางคนอยากเรียนต่อสาย STEM* หรือบางคนอยากเรียนต่อต่างประเทศ แต่พ่อแม่ไม่ยินยอม ครูบอกด้วยว่าลูกศิษย์หลายคนเครียดมาก” มาขอคำปรึกษาจากครู ถึงปัญหา “พ่อแม่รังแกฉัน”
ด้วยค่านิยมดั้งเดิมว่า ถ้าเรียนเก่งก็ต้องไปเป็นหมอเท่านั้น ทว่าเด็กยุคนี้จะเก่งมากน้อยแค่ไหน มิได้ชอบที่จะไปยึดอาชีพหมอกันทั้งหมด *บ้างอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ไปสายเทคโนโลยี่ หรือวิศวกรรมศาสตร์ แม้กระทั่งด้านคณิตศาสตร์ล้วนๆ
เด็กรุ่นใหม่หลายคนเช่นกันบอกว่า ประกอบวิชาชีพด้านไฮเทคมีโอกาศทำรายได้ดีกว่า และไม่ต้องตรากตรำกับการเป็นหมอ ผู้ที่ได้อ่านโพสต์ของครูแนะแนวเห็นคล้อยกับครูไม่น้อย “เราแค่อยากให้เขาแข็งและมีความสุข เท่านั้นไม่ใช่หรือ
ไปๆ มาๆ ดันยัดความสุขตัวเองใส่ลูกกันเฉย น่าสงสารเด็กที่มีพ่อแม่คาดหวังแบบนั้น
(https://ch3plus.com/news/socialnews/ch3onlinenews/399630 และ https://www.facebook.com/mana.treelayapewat/posts/qvxkyk4vxi)