คำของ จตุพร พรหมพันธุ์ ที่นังแบกว่าเป็น ‘wishful thinking’ เรื่องการยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญของ ๔๐ สว.จะจบอย่างไร พิชิต ชื่นบาน/เศรษฐา ทวีสิน จะถูกสั่ง ‘หยุดปฎิบัติหน้าที่’ ในวันที่ ๒๓ หรือ ๒๙ พฤษภา หากสัญญานแรงก็มาเร็ว
กระทั่ง ภูมิธรรม เวชยชัย ก็ยังว่าเรื่องจริยธรรมไม่มีปัญหา เพราะการตั้งพิชิตดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ สว.ร้องว่าน่าสงสัย “ในประเด็นขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง” นั้น
“ก็ตามกระบวนการเงื่อนไขคุณสมบัติต่าง ๆ ก็ว่าตามนั้น เอาเรื่องนอกคุณสมบัติมาพูดมันก็ยากที่จะพิจารณา” ทว่าเรื่องนอกคุณสมบัติดังกล่าวเป็นการที่พิชิต ในฐานะทนายความของทักษิณ ชินวัตร เคยหิ้วถุงขนมบรรจุธนบัตรแน่น ไปฝากผู้พิพากษาเจรจาความ
๒๓ นี้ศาลรัฐธรรมนูญจะแถลงเบื้องต้นเกี่ยวกับคดี ท่ามกลางความมั่นใจของนายกฯ เศรษฐาว่าการแต่งตั้งถูกต้องตามคำชี้แจงของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว จึงให้สำนักเลขาฯ ครม.ทำหนังสือถามความเห็นจากกฤษฎีกาอีกครั้ง
กฤษฎีกาก็ตอบว่าเรื่องนี้เคยชี้แจงไว้แล้วเมื่อครั้งตั้งคณะรัฐมนตรีคราวแรก แต่ตอนนั้นกลับไม่มีชื่อพิชิต ชื่นบาน อยู่ในคณะรัฐมนตรี คราวนี้เลขาฯ กฤษฎีกาบอกให้ไปดูคำชี้แจงเดิมเมื่อ ๑ กันยา ๖๖ ในเมื่อเป็นคำถามเกี่ยวกับคนๆ เดียวกัน
คำตอบคราวนั้นกฤษฎีกาชี้ให้ดูลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มาตรา ๙๘(๗) ว่าต้องไม่ “เคยได้รับโทษจำคุก โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปี...เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ”
อีกประเด็นที่กฤษฎีกาชี้แจง คือมาตรา ๑๖๐(๗) ให้ความเห็นว่า “ผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก” พฤติกรรมของนายพิชิตในครั้งโน้นจะเข้าข่ายหรือไม่
อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย เพราะตอนนี้เรื่องไปถึงศาลแล้วอย่างที่ ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาฯ กฤษฎีกา ตอบนักข่าววันนี้ (๒๑ พ.ค.) ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะปัดตกจู้จี้ ใส่ใจเรื่องเศรษฐกิจที่รัฐบาลพยายามทำมากกว่า อย่างที่ภูมิธรรมว่าหรือไม่ ๒๓ นี้รู้กัน
(https://www.prachachat.net/politics/news-1567824 และ https://www.prachachat.net/politics/news-1568602)