สอง ส.ส.พรรคก้าวไกลนั้น “เป็นการร่วมด้วยช่วยกันจากเครือข่ายเพื่อไทย เครือข่ายประชาธิปัตย์ ไปยังเครือข่าย กปปส....แต่ว่าความสัมพันธ์ที่โยงไปยังกองทัพ ก็มีความเด่นชัด” ว่าเอกสารทางราชการที่มีการนำออกมาปรักปรำ ปกติแล้วหลุดยาก
นานมาแล้วเมื่อปี ๕๘ พิธาเคยโพสต์ภาพบ้านพระยาอภัยภูเบศร์ที่พระตะบอง ระลึกยายของเขาว่าเคยอยู่ที่นั่น ใครไม่รู้ไปขุดภาพออกมาแพร่ หมายจะแสดงว่าพิธาสะเออะ หรือบังอาจเทียบสกุล ‘อภัยวงศ์’ หรืออย่างไรประมาณนั้น
พวกแบกก็เอาไปผลัดกันเซาะกร่อน จนเป็นโพสต์ไวรัล กระทั่งวานนี้เห็นมีบางนังแบกแซะทำนองว่า จะมีสาแหรกโยงใยตระกูล ณ ป้อมเพ็ชร์ ด้วยไหมล่ะ* นั่นไม่รู้ก่อนหรือหลังที่พิธาต้องออกมาชี้แจงว่า “มันกระทบวงกว้าง ไม่เฉพาะบุคคล ตระกูล
แต่ข้ามไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน (มีคำว่า บ่าว ทาส) ในช่วงที่เวลาผู้นำเขา (ฮุน มาเนต) มาเยือนพอดิบพอดี” พิธาบอกว่ายายของเขาชื่อ ‘อนุศรี’ เคยแต่งงานกับคุณเกษม อภัยวงศ์ มีบุตรด้วยกัน ๒ คน ซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณป้าของผม ณ ปัจจุบัน”
ซึ่งก็มีทายาทในตระกูลอภัยวงศ์ คนหนึ่งออกมาชี้แจงด้วยว่า “คุณแม่ของคุณพิธา ท่านได้โทรศัพท์มาปรับความเข้าใจและพูดคุยกับผู้ใหญ่ในสกุลอภัยวงศ์ แล้ว” น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ ยืนยันว่ายายของพิธา “ก็เคยเป็นสะใภ้ของสกุลอภัยวงศ์ ในช่วงหนึ่ง”
ดราม่าเรื่องนี้ชี้ว่า การเมืองการปกครองของไทยเวลานี้ผิดผีผิดไข้ไปมาก การปกครองยังเป็นเรื่องส่วนรวมอยู่บ้าง แต่การเมืองเป็นเรื่องส่วนตัวชักจะมาก น่าจะเป็นเพราะระบอบปกครอง ไปเน้นที่สร้อยห้อยท้าย อันมี ‘พระประมุข’ มากกว่าคำขึ้นต้น ‘ประชา’
*หมายเหตุ
:แม้แต่วันนี้ก็ยังมีอี๊แบก ‘บ่อนทำร้าย’ นำเอาข้อสังเกตุของผู้ที่รู้ดีกว่าคนในตระกูลอภัยวงศ์ อ้างว่า เกษม
อภัยวงศ์ ลูกพระยาอภัยภูเบศรออกมาจากพระตะบองเมื่ออายุ ๖ ขวบ (อีกคนว่า ๗ ขวบ) ปี
๒๔๕๐ แล้วไม่ได้กลับไปอีกเลย -แน่ใจนะ
(https://www.matichon.co.th/politics/news_4416753, https://ch3plus.com/news/political/morning/386240 และ https://www.matichonweekly.com/e-duang/article_746358)
