ผบ.ตร.ฮึ่มแล้วละ ที่ ‘วิโรจน์ ลักขณ์’ ไปลงพื้นที่เหตุรถบรรทุกทำถนนยุบเป็นหลุมยักษ์ ในซอยสุขุมวิท ๖๔/๑ หากแต่หลายกรณีที่ ส.ส.ก้าวไกลโวยวายและตั้งข้อสังเกตุ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ถามกร้าวในประเด็นเดียว ‘ส่วยสติ๊กเกอร์’
“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องสั่งการ เพราะแบ่งหน้าที่กันแล้ว ทุกคนรู้หน้าที่ แต่การกล่าวหาว่าสติกเกอร์ดังกล่าว เป็นส่วยสติกเกอร์ที่สังคมเรียกกันนั้น ควรจะมีหลักฐาน” อย่าพูดอย่างเลื่อนลอย “แม้จะเป็นการตั้งข้อสังเกตของสังคม
แต่ก็ทำให้องค์กรตำรวจหรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม” โอว การเอ่ยถึงดาวเขียวล้อมอักษร ‘บี’ ติดหราหน้ากระจกรถบรรทุก ที่เกิดอุบัติเหตุสงสัยเป็นตราส่วยนั้นสร้างความขัดแย้งในสังคมนะ
ก็ต้องยำเกรงทั่น ผบ.ตร.กันละ ดูท่าทั่นคนจริง “หากตรวจสอบพบว่าสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นส่วยสติกเกอร์เรียกรับผลประโยชน์ของตำรวจจริง จะดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด” เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่ตรวจไม่เสร็จเสียที ค้างมาแต่ ผบ.คนเก่าโน่น
อย่างไรก็ดี ลองมาดูเรื่องโวยวายอื่นๆ ของ ส.ส.ปากเก่งคนนี้ เกี่ยวกับสติ๊กเกอร์ก่อนแล้วกัน มีการออกทีวีถามผู้กำกับฯ ท้องที่ สน.พระโขนง ทั่นว่าอ๋อ มันเป็นสัญญะมีไว้ให้โชเฟอร์หารถคันที่ตัวเองขับเจอไง ก็มีคนท้วง เฮ้ย ไม่เมคเซ้นต์
ว่าถ้าหากใช้สติ๊กเกอร์สีสันสดใสเป็นสัญญลักษณ์ ไม่ให้หลงปีนขึ้นไปขับรถคนอื่น ก็ต้องใช้อักขระ ว่า บี ๑ บี ๒ บี ๓ สิ จึงจะแยกแยะได้ว่าคันไหน ในเมื่อมันมีรถติดสติ๊กเกอร์แบบนี้สามคัน เหมือนกันเด๊ะ ที่วิโรจน์เค้าอธิบายว่า
“มีคนแจ้งว่า ‘บี’ ย่อมาจาก ‘เสี่ยบิ๊ก’ ซึ่งไม่ได้แปลว่าใหญ่ แต่เป็นสมญานามที่เรียกกัน” ส่วนเรื่องจี้ขำกลิ้งก้ตรงที่บอกว่าสติ๊กเกอร์นี้ “ใช้บังแดด” ก็เลยเจอวิโรจน์ย้อนว่ามันบังสายตาคนขับต่างหาก ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ถูกปิดบังเสียละมาก
ข่าวรวบรัดเนื้อเรื่อง หลังจากเหตุเกิดมาหลายวัน ช่อง ๓ นิวส์บอก “มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า รถบรรทุกคันเกิดเหตุล่าสุด อาจเป็นบริษัทเดียวกับกับกรณีที่เคยเกิดเหตุที่แยกมักกะสันก่อนหน้านี้ เพราะเป็นรถสีเดียวกัน แต่รถคันแรกที่มักกะสัน ตรวจจับไม่ได้
ก็เปรียบเทียบว่ารถจักรยานยนต์ที่ใส่หมวกกันน็อคปล้นทองยังจับได้เลย แล้วนี่รถคันเบ้อเร่อทำไมถึงจับไม่ได้ โดยชี้ว่านี่คือสาเหตุที่เรียกว่ากินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องแต่ก็พูดไม่ได้” เป็นงั้นไป ข้อสำคัญมีนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง
ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ยืนยัน “รถดังกล่าวเป็นรถที่จ่ายส่วย เพื่อวิ่งนอกเวลาและบรรทุกน้ำหนักเกินแน่นอน ซึ่งจะต้องจ่ายให้กับหลายหน่วยงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถของตัวเอง” และสติ๊กเกอร์ดาวล้อมบีสีเขียวนี้
“สำหรับรถบรรทุกขนวัสดุ ขนดินในไซด์งานก่อสร้างเข้าออกเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร” ซึ่ง “ในไซด์งานก่อสร้างจะไม่มีตาชั่งน้ำหนักสำหรับรถบรรทุก” มิน่า พอเกิดเหตุปั๊บ ก็มีรถตักดินของบริษัทเจ้าของรถ มาตักดินออกทันการ ตำรวจไม่เห็นแต่มีภาพฟ้อง
(https://ch3plus.com/news/crime/middaynews/373832, https://twitter.com/thestandardth/status/1722116099989483857 และ https://twitter.com/ThaiEnquirer/status/1722183127874113698)